ถูกไล่ออก ต้องได้รับอะไรบ้าง

ถูกไล่ออก…แล้วจะได้รับอะไรบ้าง? สิทธิที่คุณควรรู้

การถูกไล่ออกจากงานเป็นประสบการณ์ที่ยากลำบาก นอกจากความรู้สึกผิดหวังและกังวลใจแล้ว สิ่งที่หลายคนมักสงสัยและกังวลใจไม่แพ้กันคือ “แล้วฉันจะได้รับอะไรบ้าง?” คำถามนี้มีคำตอบที่ซับซ้อน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงเหตุผลการเลิกจ้าง ประเภทของสัญญาจ้างงาน ระยะเวลาการทำงาน และกฎหมายแรงงานที่เกี่ยวข้อง

บทความนี้จะไม่พูดถึงกรณีที่คุณลาออกเอง แต่จะเน้นไปที่การถูกเลิกจ้างโดยนายจ้าง โดยจะแบ่งประเด็นออกเป็นสองกรณีหลัก คือ การเลิกจ้างที่เป็นธรรม และการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม

1. การเลิกจ้างที่เป็นธรรม:

การเลิกจ้างที่เป็นธรรมหมายถึงการเลิกจ้างที่เกิดจากเหตุผลที่สมเหตุสมผลและถูกต้องตามกฎหมาย เช่น บริษัทประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ การปรับโครงสร้างองค์กร หรือพฤติกรรมของพนักงานที่ไม่เหมาะสม ซึ่งขัดต่อระเบียบของบริษัทอย่างร้ายแรง (เช่น การทุจริต การขโมยทรัพย์สินของบริษัท) ในกรณีนี้ คุณอาจได้รับ:

• ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า: ตามกฎหมายแรงงาน นายจ้างอาจต้องแจ้งให้คุณทราบล่วงหน้าก่อนวันเลิกจ้าง โดยระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาการทำงานของคุณ (รายละเอียดระยะเวลาตามกฎหมายแรงงานปัจจุบันควรตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลที่เป็นทางการ) และอาจรวมถึงการจ่ายเงินเดือนในช่วงบอกกล่าวล่วงหน้าด้วย
• ค่าชดเชยตามกฎหมาย: แม้ว่าจะเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม แต่บางกรณีคุณอาจมีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทำงานกับบริษัทมาเป็นเวลานาน แต่การได้รับค่าชดเชยนี้จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและข้อกำหนดที่ระบุในสัญญาจ้างงานและกฎหมายแรงงาน
• เงินสะสมกองทุนต่างๆ: เช่น เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินสมทบประกันสังคม คุณมีสิทธิ์ได้รับเงินส่วนนี้ตามสิทธิที่คุณได้สะสมไว้

2. การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม:

การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมหมายถึงการเลิกจ้างที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง ไม่มีเหตุผลที่สมควร หรือละเมิดสิทธิของพนักงาน เช่น การเลิกจ้างโดยไม่มีเหตุผล การเลือกปฏิบัติ หรือการเลิกจ้างโดยไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ในกรณีนี้ นอกจากสิทธิที่กล่าวไปแล้วในกรณีที่เป็นธรรม คุณอาจได้รับ:

• ค่าชดเชยเพิ่มเติม: นอกเหนือจากค่าชดเชยตามกฎหมาย คุณอาจมีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชยเพิ่มเติม ซึ่งจำนวนเงินจะขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของการกระทำของนายจ้าง และอาจต้องพิสูจน์ความไม่เป็นธรรมในศาล
• ค่าเสียหายอื่นๆ: อาจรวมถึงค่าเสียหายจากความเสียหายทางจิตใจ ความเสียหายจากการสูญเสียรายได้ หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าใช้จ่ายในการหางานใหม่
• การฟ้องร้องเรียกร้องค่าเสียหาย: คุณสามารถยื่นฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากนายจ้าง หากคุณเชื่อว่าการเลิกจ้างนั้นไม่เป็นธรรม

สิ่งที่คุณควรทำเมื่อถูกเลิกจ้าง:

• ตรวจสอบสัญญาจ้างงาน: เพื่อทำความเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของคุณ รวมถึงเงื่อนไขการเลิกจ้าง
• รวบรวมหลักฐาน: เก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน เช่น สัญญาจ้างงาน ใบรับรองเงินเดือน อีเมล หรือเอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ไว้เป็นหลักฐาน
• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ปรึกษากับทนายความหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายแรงงาน เช่น กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อขอคำแนะนำและความช่วยเหลือ
• เจรจากับนายจ้าง: ลองเจรจากับนายจ้างเพื่อหาข้อตกลงที่เป็นธรรม ก่อนที่จะดำเนินการทางกฎหมาย

จำไว้ว่า ทุกกรณีมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน และการได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงของแต่ละกรณี ดังนั้น การขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณได้รับความเป็นธรรมและสิทธิที่คุณควรได้รับอย่างเต็มที่.