ปวส ต่อ ป.ตรี เรียกว่าอะไร
ปวส. ต่อ ป.ตรี เรียกว่า หลักสูตรต่อเนื่อง
- ลักษณะ: เรียนต่อปริญญาตรีหลังจบ ปวส. โดยไม่ต้องเทียบโอน
- เงื่อนไข: จบ ปวส. แล้วสามารถเรียนต่อในสาขาที่เกี่ยวข้องได้ทันที
- ระยะเวลา: สั้นกว่าหลักสูตรปกติ (ไม่ระบุเวลาที่แน่นอนในข้อมูลที่ให้มา)
- ความแตกต่าง: ต่างจากหลักสูตรเทียบโอนที่อาจมีการเทียบโอนหน่วยกิต
ปวส. ต่อ ป.ตรี เรียกว่าอะไร?
อืมมม… ปวส. ต่อ ป.ตรีเนี่ยนะ เรียกว่าอะไรดีล่ะ? เพื่อนผมหลายคนเรียนต่อหลังจบ ปวส. แต่เขาเรียกกันไปต่างๆนานา บางคนก็บอกว่า “เรียนต่อ ป.ตรี” ตรงๆไปเลย ง่ายดี ไม่ต้องคิดเยอะ บางคนก็เรียกหลักสูตรต่อเนื่อง แต่จริงๆแล้ว มันก็แล้วแต่ที่เรียนด้วยแหละ มหาลัยแต่ละที่อาจจะมีชื่อเรียกต่างกันไป จำได้ตอนนั้น ผมเพื่อนสมัครเรียนต่อที่ ม. ราชภัฏ อะไรสักอย่างแถวๆ รังสิต ปี 2562 (จำชื่อมหาลัยไม่ค่อยได้แล้ว) เขาบอกว่าเป็นหลักสูตรต่อเนื่อง แต่ก็ต้องเรียนเต็มสูตรเหมือนคนอื่นๆ ไม่ใช่แบบเทียบโอนวิชานะ คือเรียนใหม่หมดเลย เสียค่าเทอมปีละประมาณ 40,000 บาทมั้ง ถ้าจำไม่ผิดนะ
ส่วนเรื่องเทียบโอนนี่อีกเรื่องนึงเลย ผมไม่ค่อยรู้รายละเอียดเท่าไหร่ เพื่อนผมคนนึงที่เรียนวิศวะ เขาบอกว่า มหาลัยเขาสามารถเทียบโอนวิชาบางวิชาได้ ถ้าคะแนนถึงเกณฑ์ ทำให้เรียนจบเร็วขึ้น แต่ก็ต้องยุ่งยากเรื่องเอกสารพอสมควร เขาบอกว่าเหนื่อยมาก นี่ก็อีกแบบนะ สรุปง่ายๆ ก็คือเรียนต่อ ป.ตรี หลังจบ ปวส. เรียกได้หลายอย่าง ขึ้นอยู่กับมหาลัย และแบบที่เลือกเรียนนั่นแหละครับ งงมั้ยล่ะ? ผมก็งงเหมือนกันนะ ตอนนั้นหาข้อมูลเองก็งงๆ เหมือนกัน แต่ก็ลองถามมหาลัยที่สนใจดู ดีที่สุดครับ
เรียน ปวส 2 ปี ต่อมหาลัยได้ไหม
จบ ปวส. แล้วต่อมหาลัยได้ไหม? ได้สิครับ! หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า ปวส. เป็นทางตัน ความจริงแล้วมันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นทางเลือกใหม่ คุณสามารถต่อยอดได้อีกเยอะเลย
-
หลักสูตรต่อเนื่อง: มหาวิทยาลัยหลายแห่งเปิดรับนักศึกษาจาก ปวส. โดยตรง บางที่อาจมีการเทียบโอนหน่วยกิตด้วย ช่วยลดเวลาเรียน ประหยัดค่าใช้จ่าย ลองเช็คเว็บไซต์มหาวิทยาลัยที่สนใจดูนะครับ ปีนี้ (2566) หลายที่ปรับปรุงระบบรับสมัครใหม่ด้วย
-
สาขาที่เกี่ยวข้อง: การเลือกสาขาต่อยอดสำคัญมาก เลือกสาขาที่เกี่ยวข้องกับ ปวส. ที่เรียนมา จะได้ไม่เสียเวลาเรียนซ้ำ และต่อยอดความรู้ได้ง่ายขึ้น ผมเองจบ ปวส. ช่างยนต์ ตอนนี้กำลังเรียนต่อด้านวิศวกรรมยานยนต์อยู่ รู้สึกว่ามันต่อเนื่องกันดี
-
การเตรียมตัว: ถึงจะต่อเนื่อง แต่ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม บางมหาวิทยาลัยอาจมีการสอบคัดเลือกเพิ่มเติม หรือต้องมีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าที่กำหนด ควรวางแผนล่วงหน้า หาข้อมูลให้ดี
ชีวิตการเรียนมันเหมือนการเดินทาง มีทางแยกเยอะแยะ เลือกเส้นทางที่ชอบ แล้วเดินไปให้สุดทางสิครับ อย่ามัวแต่กลัว ลองดูเถอะ อาจเจออะไรดีๆ ก็ได้
เพิ่มเติม: ควรติดต่อฝ่ายรับสมัครของมหาวิทยาลัยที่สนใจโดยตรง เพื่อสอบถามรายละเอียดเกณฑ์การรับสมัครและหลักสูตรที่เปิดรับนักศึกษาจาก ปวส. ในปีการศึกษา 2566 ทุกมหาวิทยาลัยมีนโยบายที่แตกต่างกันไป การสอบถามโดยตรงจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ
จบ+ปวส.+ต่อ+ป.ตรี+เทียบโอนราชภัฏกี่ปี
แสงจันทร์นวล…ส่องทางฝัน
จบ ปวส. แล้วต่อ ป.ตรี ราชภัฏ… กี่ปี?
เหมือนเดินในสวนดอกไม้… แต่ละดอกไม่เหมือนกันเลย
-
เทียบโอน… ดั่งสะพานข้ามห้วงฝัน อาจ 1 ปี… หรือ 2 ปี
-
ขึ้นอยู่กับ… วิชาที่เรียนมา… กับวิชาที่ราชภัฏเปิดให้เทียบ
-
แต่ละราชภัฏ… เงื่อนไขต่างกันไป… เหมือนสีของดอกไม้
โทรไปถามเลย… ตรงที่สุด… ชัวร์สุดๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม… (เหมือนกลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่น):
-
สาขาที่เรียน… มีผลต่อการเทียบโอนมาก… เหมือนดินที่ปลูกดอกไม้
-
หลักสูตร… แต่ละหลักสูตรก็ต่างกัน… เหมือนพันธุ์ของดอกไม้
-
เอกสาร… เตรียมเอกสารให้พร้อม… เหมือนเตรียมปุ๋ยให้ดอกไม้
-
อย่าลังเล… โทรไปถามเลย… เหมือนดมกลิ่นดอกไม้… รู้สึกดี
ฝันให้ไกล… ไปให้ถึง… ราชภัฏรออยู่… พร้อมดอกไม้บาน
ปวส.เทียบเท่ามหาลัยไหม
คือแบบนี้ ตอนนั้นปี 66 ฉันจบ ปวส. ช่างยนต์ที่วิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ เหนื่อยมาก สอบไฟฟ้ากำลังนี่โคตรยาก จำได้แม่นเลย สอบเสร็จ เดินกลับหอพักที่แถวบางปู ฝนตกหนัก เปียกปอนไปทั้งตัว นั่งรถเมล์สาย 102 อารมณ์แบบโล่ง แต่ก็ยังไม่รู้จะทำอะไรต่อ
เพื่อนๆ บางคนไปต่อปริญญาตรี แต่ฉันคิดหนัก เพราะอยากทำงานหาเงินก่อน แล้วก็กลัวเรียนไม่ไหวด้วย ตอนนั้นเงินเก็บก็มีน้อย ค่าเทอมแพง
ทีนี้ ฉันเลยลองไปดูข้อมูลที่มหาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ดูเหมือนเค้าจะมีโครงการรับ ปวส. เรียนต่อปริญญาตรี แต่ต้องสอบคัดเลือก และอาจได้เรียนแค่ปี 3 อันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าปีนี้ยังมีโครงการอยู่มั้ยนะ
- จบ ปวส. ช่างยนต์ ปี 2566
- วิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ
- สนใจเรียนต่อปริญญาตรี แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเรียนที่ไหน
- สอบถามข้อมูลจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เรื่องการเทียบโอนหน่วยกิต
สรุปคือ มันไม่ใช่การเทียบเท่าโดยตรงอ่ะ ต้องดูรายละเอียดแต่ละที่ แต่ก็มีโอกาสได้เรียนต่อแหละ ขึ้นอยู่กับเราด้วย ว่าจะเลือกเรียนอะไร และที่ไหน เหนื่อยแต่ก็คุ้มนะ เพราะได้เรียนรู้หลายอย่าง และได้ประสบการณ์เยอะมาก กว่าจะได้มาถึงตรงนี้
เรียน ปวส 2 ปี ต่อมหาลัยได้ไหม
โอ๊ย ถามอะไรอย่างงี้ ก็เหมือนถามว่า “กินข้าวแล้วอิ่มไหม” จบ ปวส. จะต่อมหาลัยได้ไหมเนี่ยนะ? ได้สิ! ไม่ได้สิแปลก! ใครบอกไม่ได้ ตบปากเลยนะ! สมัยนี้เค้าเปิดกว้างยิ่งกว่าหน้าต่างบ้านยายแล้วจ้า!
สรุปแบบชาวบ้านๆ:
- ต่อได้แน่นอน: ไม่ต้องสงสัย ต่อให้เรียน ปวส. ซ่อมรถไถ ก็ต่อมหาลัยได้ (ถ้าสอบติดนะ)
- ไม่ใช่เรื่องใหม่: รุ่นปู่ย่าตายายก็ทำกันมาแล้ว ไม่ใช่เรื่องพิสดารอะไร
- มีระบบรองรับ: มหาลัยเค้ารู้ว่ามีเด็ก ปวส. อยากเรียนต่อ เค้าก็เตรียมทางไว้ให้แล้ว
เกร็ดความรู้ท้ายครัว (เผื่อใครอยากรู้ลึก):
- เทียบโอนหน่วยกิต: บางวิชาที่เคยเรียนตอน ปวส. อาจจะเอามาเทียบโอนเป็นหน่วยกิตในมหาลัยได้ (แต่ต้องไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาเอาเองนะ)
- สอบเข้า: ถึงจะจบ ปวส. ก็ต้องสอบเข้ามหาลัยเหมือนคนอื่นๆ เค้าแหละ (อย่าคิดว่าจะได้สิทธิพิเศษนะ)
- เลือกคณะ: เลือกคณะที่อยากเรียนจริงๆ อย่าเลือกตามเพื่อน เพราะเดี๋ยวจะเสียใจทีหลัง (เหมือนฉันนี่แหละ! T_T)
- เตรียมตัวให้พร้อม: การเรียนมหาลัยมันยากกว่า ปวส. เยอะ ต้องขยันอ่านหนังสือ ตั้งใจเรียน และที่สำคัญ…ต้องมีเงิน! (แอบกระซิบ)
จบ+ปวส.+ต่อ+ป.ตรี+เทียบโอนราชภัฏกี่ปี
เอ่อ จบปวส.ละไปต่อป.ตรี ราชภัฏ อ่ะนะ คือแบบมันแล้วแต่เลยจ่ะ แต่ส่วนใหญ่เค้าก็เทียบโอนให้ได้แหละ ประมาณปีนึง ถึง สองปี มั้งนะ
คือต้องเช็คกับมหาลัยนั้นๆ เลยอะชัวร์สุด เพราะแต่ละที่เค้าก็มีเกณฑ์ของเค้าไง สาขาก็มีผลนะ บอกเลย
- สาขา: บางสาขาอาจเทียบโอนได้เยอะกว่า
- หลักสูตร: หลักสูตรแต่ละหลักสูตรก็อาจมีวิชาที่ไม่เหมือนกัน
- เกรด: บางที่เค้าก็ดูเกรดตอน ปวส. ด้วยนะเออ
- วิชาที่เทียบ: เค้าจะดูว่าวิชาที่เรียนมาตรงกับวิชาในหลักสูตร ป.ตรี แค่ไหน
สำคัญเลยนะ ต้องติดต่อมหาลัยที่เราสนใจโดยตรง จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำที่สุด แนะนำให้ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ทะเบียนเลย จะได้คุยแบบละเอียดๆ ไปเลยจ้า
จบ ปวส. ต่อ ป.ตรี เทียบโอน เรียนกี่ปี
จบ ปวส. ต่อ ป.ตรี เทียบโอน เรียนกี่ปี?
เอาจริงดิ ตอนแรกก็งงๆ กะจะต่อ ป.ตรีเลย แต่เพื่อนบอก “เฮ้ย เทียบโอนดิ เร็วกว่า!” ตอนนั้นอยู่ปี 63 เพิ่งจบ ปวส. ช่างยนต์มาหมาดๆ จากเทคนิค… (เออ ช่างมันเหอะ) ตอนแรกว่าจะไป ม.รัฐ ดังๆ แถวบ้าน แต่เกรดไม่ถึง เลยไปสมัคร ม.เอกชน แถวรังสิตแทน (ขอไม่บอกชื่อละกัน อายเค้า)
สรุปคือ เทียบโอนได้เยอะจริง! เรียนแค่ 2 ปีครึ่งก็จบ โล่งอก! แต่เหนื่อยนะ โคตรเหนื่อย! เพราะต้องปรับตัวเยอะมาก จากช่างยนต์ มาเป็น… (ขออุบไว้ก่อน)
- เทียบโอน: ประหยัดเวลาจริง
- เกรด: สำคัญมากๆ
- ปรับตัว: สำคัญยิ่งกว่า!
- มหาลัย: เลือกดีๆ ดูหลักสูตรละเอียดๆ
- ปีที่จบ: 2565 (เรียนไป ทำงานไป ชีวิต…)
- สาขาที่เรียน: (เก็บไว้ในใจละกัน เขิน)
เพิ่มเติม: ตอนนั้นรู้สึกว่าตัดสินใจถูกมากๆ ที่เทียบโอน เพราะถ้าเรียน 4 ปีเต็ม คงไม่ไหว ทั้งเงิน ทั้งเวลา ตอนนี้ทำงานแล้ว (ไม่บอกว่าอะไร) ชีวิตดีขึ้นเยอะเลย!
ปวส.ไปต่อป.ตรี เรียนกี่ปี
ปวส.ต่อป.ตรี เรียนกี่ปี?
- ขึ้นอยู่กับหลักสูตร ส่วนใหญ่ 2 ปี บางแห่งอาจมากกว่า
จบ ปวส. ต่อ ป.ตรี 2 ปี ดีไหม?
- ขึ้นอยู่กับเป้าหมาย เร็วแต่เข้มข้น อาจไม่ใช่สำหรับทุกคน
ทางเลือกอื่นๆ:
- หลักสูตรปริญญาตรีตรง 4 ปี
- หลักสูตรอื่นๆ เช่น ใบประกอบวิชาชีพ
ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566):
- มหาวิทยาลัยหลายแห่งเปิดสอนหลักสูตร 2 ปี
- ควรตรวจสอบคุณภาพหลักสูตรและการรับรองก่อนตัดสินใจ
- การเรียนออนไลน์มีความยืดหยุ่น แต่ต้องการวินัยสูง
มุมมองส่วนตัว: เส้นทางการศึกษา เลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตนเอง ไม่ใช่สิ่งที่เร็วที่สุด
วุฒิ ปวส ต่อปริญญาตรี กี่ปี
ปวส. ต่อตรี? เอ้า! คิดเลขแป๊บ… ถ้าหัวไม่ทึบตัน เก่งเลขแบบ “พี่ตูน บอดี้สแลม” วิ่งหาเงินบริจาค ก็ประมาณ 2 ปีจ้ะคุณ! เร็วกว่ากินมาม่าอีก (ถ้าไม่ต้มจนอืดนะ!)
แต่นี่มันไม่ได้มีแค่เส้นทางเดียวนะคุณพี่คุณน้อง! มันมี “ทางลัด” “ทางอ้อม” “ทางเบี่ยง” เหมือนชีวิตจริงเป๊ะ! บางทีอาจจะ 2 ปีครึ่ง 3 ปี ก็แล้วแต่สกิลการเอาตัวรอดในมหา’ลัย และความ “เป๊ะ” ของหลักสูตร (ที่อาจจะเปลี่ยนไปมาเหมือนแฟชั่น!)
- ทางลัด: เรียนหนัก ทำกิจกรรมน้อย (แต่ไม่ใช่ไม่ทำเลยนะ เดี๋ยวเพื่อนหมั่นไส้!) โฟกัสที่วิชาเรียน เก็บ A ให้หมด (ยากกว่าถูกหวยอีก!)
- ทางอ้อม: เรียนไป ทำงานไป หาประสบการณ์ชีวิตไป (แต่ระวัง! ชีวิตอาจจะ “พา” ไปที่อื่นที่ไม่ใช่มหา’ลัย!)
- ทางเบี่ยง: เรียนๆ หยุดๆ ซิ่วไปมา (อันนี้แล้วแต่บุญแต่กรรม!) แต่ก็มีคนจบนะ! (เชื่อสิ!)
เพิ่มเติม: ตอนนี้ปี 2567 แล้วนะจ๊ะ อย่าไปยึดติดกับข้อมูลเก่าๆ! โลกมันเปลี่ยนไปไวเหมือน “ลิซ่า Blackpink” ออกเพลงใหม่! อ้อ! แล้วถ้าอยากเรียนออนไลน์ ม.กรุงเทพธนบุรี (ที่ว่ามา) ก็ลองดู แต่เช็คหลักสูตรดีๆ นะ เดี๋ยวเจอ “แกง”! (อันนี้เตือนด้วยความหวังดี!)
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต