วัสดุสารสนเทศ มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

11 การดู

สารสนเทศหลากหลายรูปแบบบันทึกความรู้ไว้มากมาย แบ่งเป็นสามกลุ่มหลัก ได้แก่ สื่อสิ่งพิมพ์ เช่น หนังสือและแผนที่ สื่อที่ไม่ใช่สิ่งพิมพ์ อย่างวัตถุโบราณหรือภาพถ่าย และสื่อดิจิทัล อาทิ เว็บไซต์และฐานข้อมูล แต่ละประเภทมีคุณสมบัติเฉพาะตัวและวิธีการเข้าถึงแตกต่างกันไป สะท้อนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีและการสื่อสาร

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

วัสดุสารสนเทศ: มิติที่หลากหลายของความรู้

โลกปัจจุบันล้นหลามไปด้วยสารสนเทศ จากตำราเรียนเล่มหนาไปจนถึงคลิปวิดีโอสั้นๆ บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ความรู้เหล่านี้ถูกบันทึกและเก็บรักษาไว้ในรูปของ “วัสดุสารสนเทศ” ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบและประเภทมากกว่าที่เราคิด การจำแนกประเภทจึงเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อให้เข้าใจและเข้าถึงสารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ การแบ่งกลุ่มตามแบบดั้งเดิมซึ่งแยกเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อที่ไม่ใช่สิ่งพิมพ์ และสื่อดิจิทัลนั้น แม้จะเป็นประโยชน์เบื้องต้น แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมความซับซ้อนของวัสดุสารสนเทศในยุคปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้น เราควรพิจารณาการจำแนกประเภทที่ละเอียดขึ้น โดยอิงจากลักษณะทางกายภาพ วิธีการเข้าถึง และรูปแบบการนำเสนอ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็นกลุ่มย่อยดังนี้:

1. สื่อสิ่งพิมพ์ (Print Media): กลุ่มนี้เป็นวัสดุสารสนเทศในรูปแบบที่จับต้องได้ มีการพิมพ์หรือเขียนลงบนวัสดุต่างๆ เช่น กระดาษ ผ้า หรือโลหะ ตัวอย่าง ได้แก่:

  • เอกสารสิ่งพิมพ์: หนังสือ นิตยสาร แผ่นพับ รายงาน คู่มือ ใบปลิว แผนที่ และอื่นๆ ลักษณะเด่นคือการนำเสนอข้อมูลเป็นลายลักษณ์อักษร อาจมีภาพประกอบเพิ่มเติม การเข้าถึงง่าย แต่มีข้อจำกัดเรื่องการจัดเก็บและความยั่งยืนของวัสดุ

  • สื่อสิ่งพิมพ์พิเศษ: รวมถึงภาพเขียน ภาพพิมพ์ ลายฉลุ และงานศิลปะอื่นๆ ที่ใช้กระบวนการพิมพ์ เป็นการสื่อสารผ่านภาพ สัญลักษณ์ หรือลวดลาย อาจสื่อถึงเรื่องราว อารมณ์ หรือความคิด เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปะและประวัติศาสตร์ที่สำคัญ

2. สื่อที่ไม่ใช่สิ่งพิมพ์ (Non-Print Media): กลุ่มนี้ครอบคลุมวัสดุสารสนเทศที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบการพิมพ์ แต่เป็นการบันทึกและเก็บรักษาความรู้ในรูปแบบอื่นๆ เช่น:

  • วัตถุโบราณและสิ่งของประดิษฐ์: เครื่องมือ เครื่องใช้ โบราณวัตถุ ซึ่งสะท้อนถึงวิถีชีวิต เทคโนโลยี และวัฒนธรรมในอดีต การเข้าถึงอาจจำกัดอยู่เฉพาะพิพิธภัณฑ์หรือแหล่งเก็บรักษา

  • ภาพนิ่งและภาพยนตร์: ภาพถ่าย ภาพยนตร์ สไลด์ วีดิทัศน์ เป็นการบันทึกเหตุการณ์ บุคคล หรือสถานที่ มีความสามารถในการสื่อสารที่ทรงพลัง ทั้งด้านอารมณ์และความรู้

  • แผนที่และแบบจำลอง: แผนที่ต่างๆ แบบจำลองทางภูมิศาสตร์ แบบจำลองทางวิทยาศาสตร์ ช่วยให้เข้าใจข้อมูลเชิงพื้นที่ และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งต่างๆ ได้อย่างชัดเจน

3. สื่อดิจิทัล (Digital Media): กลุ่มนี้เป็นวัสดุสารสนเทศในรูปแบบดิจิทัล สามารถเข้าถึงและจัดการได้ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น:

  • เว็บไซต์และฐานข้อมูล: แหล่งรวบรวมข้อมูลขนาดใหญ่ สามารถค้นหาและเข้าถึงได้ง่าย มีความยืดหยุ่นในการปรับปรุงและแก้ไขข้อมูล

  • ไฟล์ดิจิทัล: เอกสาร ภาพ เสียง วีดิโอ ที่เก็บรักษาไว้ในรูปแบบดิจิทัล มีความสะดวกในการจัดเก็บ แชร์ และกระจายข้อมูล

  • สื่อสังคมออนไลน์: แพลตฟอร์มต่างๆ ที่ใช้ในการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนข้อมูล เป็นแหล่งสารสนเทศที่หลากหลาย แต่จำเป็นต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล

4. สื่อแบบผสมผสาน (Mixed Media): กลุ่มนี้เป็นการผสมผสานระหว่างสื่อหลายประเภทเข้าด้วยกัน เช่น หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ที่มีทั้งข้อความ ภาพ และเสียง หรือการนำเสนอแบบมัลติมีเดีย ที่ใช้สื่อหลากหลายรูปแบบในการสื่อสารเนื้อหาเดียวกัน

การแบ่งประเภทวัสดุสารสนเทศข้างต้นเป็นเพียงแนวทางหนึ่ง ความจริงแล้ว ขอบเขตของวัสดุสารสนเทศนั้นกว้างขวางและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การเข้าใจลักษณะเฉพาะของแต่ละประเภท จะช่วยให้เราสามารถเลือกใช้ จัดการ และประเมินคุณค่าของสารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก้าวไปสู่การใช้ประโยชน์จากสารสนเทศเพื่อการพัฒนาความรู้และการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่