วิจัยบทที่1-5 มีอะไรบ้าง

51 การดู

งานวิจัยทั่วไปมักประกอบด้วย 5 บทหลัก:

  • บทที่ 1: บทนำ กล่าวถึงที่มาและความสำคัญของปัญหา วัตถุประสงค์ ขอบเขต และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
  • บทที่ 2: เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ทบทวนวรรณกรรมและงานวิจัยเดิมที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อศึกษา
  • บทที่ 3: วิธีดำเนินการวิจัย อธิบายรูปแบบการวิจัย ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ และวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
  • บทที่ 4: ผลการวิเคราะห์ข้อมูล นำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการวิจัย โดยอาจใช้ตาราง กราฟ หรือแผนภาพประกอบ
  • บทที่ 5: สรุปผล อภิปราย และข้อเสนอแนะ สรุปผลการวิจัย อภิปรายผลที่ได้ และเสนอแนะแนวทางในการนำผลการวิจัยไปใช้ หรือข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยเพิ่มเติม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

วิจัยบทที่ 1-5 ประกอบด้วยอะไร?

อ่ะนะ… วิจัยบทที่ 1-5 เหรอ? เหมือนตอนเรียน ป.โท เลย ตอนนั้นปวดหัวมาก (หัวเราะ) แต่เอาจริงๆ มันก็วนๆ อยู่แค่เนี้ยแหละ

บท 1 น่ะ “บทนำ” คือเปิดตัวงานวิจัยเรา ให้คนอ่านรู้ว่าเราจะทำอะไร ทำไมถึงทำ สำคัญยังไง. ฉันจำได้ตอนทำวิจัยเรื่อง “ผลกระทบของ TikTok ต่อการตลาดร้านอาหารในภูเก็ต” คือต้องปูเรื่องก่อนว่าทำไม TikTok ถึงสำคัญกับร้านอาหาร โอเค๊?

บท 2 นี่ “เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง” คือเราต้องไปอ่านงานวิจัยคนอื่นมาเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆ (เน้นเสียงสูง) แล้วเอามาโยงกับงานเรา ให้เห็นว่างานเรามันต่อยอดจากของคนอื่นนะ ไม่ได้อยู่ดีๆ ก็โผล่มา (ฮา)

บท 3 “วิธีดำเนินการวิจัย” อันนี้ก็บอกว่าเราเก็บข้อมูลยังไง ใช้แบบสอบถาม? สัมภาษณ์? หรือทดลอง? ของฉันตอนทำ TikTok ก็คือไปสัมภาษณ์เจ้าของร้านอาหารหลายร้านเลย จำได้ว่าร้าน “ป้าแมวซีฟู้ด” ให้ข้อมูลดีมากๆ

บท 4 “ผลการวิเคราะห์ข้อมูล” ก็คือเอาข้อมูลที่เก็บมา มาวิเคราะห์ แล้วก็เอามาใส่ตาราง ใส่กราฟ ให้มันดูน่าเชื่อถือ. ส่วนบท 5 “สรุปผล อภิปราย และข้อเสนอแนะ” คือสรุปทุกอย่างที่ทำมา แล้วก็บอกว่างานวิจัยเรามันมีประโยชน์ยังไง แล้วก็เสนอแนะว่าควรจะทำวิจัยอะไรต่อยอดอีก (เหนื่อย…)

จำได้ว่าตอนนั้นทำวิจัยเสร็จ ฉลองด้วยหมูกระทะไปเลย! (หัวเราะ)

งานวิจัยบทที่ 1 มีอะไรบ้าง

บทที่ 1 เหรอ? แม่งก็แค่จุดเริ่มต้นที่ต้องทำให้ดี

  • ที่มา: ทำไมต้องทำเรื่องนี้วะ? เล่าให้เห็นภาพ ไม่ใช่แค่ก๊อปงานคนอื่นมา
  • เป้าหมาย: อยากรู้อะไร? อย่าเยอะ เอาแค่ที่จำเป็น
  • ถ้ามีสมมติฐาน: เดาอะไรไว้? มีเหตุผลหน่อย ไม่ใช่เดามั่วๆ
  • ขอบเขต: แค่ไหนถึงจะพอ? อย่าโลกสวย ทำจริงได้แค่ไหน
  • ศัพท์: คำบางคำแม่งต้องเคลียร์ ก่อนจะไปต่อ
  • ประโยชน์: ทำแล้วได้อะไร? ไม่ใช่แค่ขึ้นหิ้ง

เพิ่มเติม:

  • เช็คงานวิจัยปีล่าสุดใน สาขาที่เกี่ยวข้อง
  • ดูเทรนด์โลกตอนนี้ แล้วโยงให้ได้ ว่าทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ
  • อย่าลืมอ้างอิง แหล่งข้อมูล ให้ถูกต้อง

คำเตือน: อย่าเสียเวลาไปกับอะไรที่ไม่จำเป็น งานวิจัยแม่งก็แค่งานชิ้นนึง ทำให้เสร็จๆ ไป

งานวิจัยบทที่ 2 มีอะไรบ้าง

บทที่ 2 ของงานวิจัยมักเป็น “เวที” ให้เราปูพื้นเรื่องราวที่ศึกษาครับ ชื่อบทก็บอกตรงๆ ว่า “เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง” คือเราต้องไปขุดค้นมาว่าคนอื่นเขาคิดอะไร ทำอะไรกันไว้บ้างในประเด็นที่เราสนใจ

  • ทฤษฎี: หัวใจหลักคือต้องมีทฤษฎีที่ “จับต้องได้” มาอธิบายปรากฏการณ์ที่เรากำลังศึกษา ไม่ใช่แค่ “รู้สึกว่า” มันน่าจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ (อันนี้สำคัญมาก!)
  • ความรู้พื้นฐาน: เหมือนเรากำลังเล่านิทานให้คนที่ไม่รู้เรื่องฟัง ก็ต้องเริ่มจากปูพื้นฐานให้เขาก่อน จะได้ไม่งง
  • งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง: อันนี้สำคัญสุดๆ เราต้องแสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้ “คิดเองเออเอง” แต่มีคนทำการศึกษามาก่อนแล้ว และงานของเราต่อยอดจากงานของเขาอย่างไร

ตารางที่ 1 เรื่องความพึงพอใจ… ผมว่าการวัดความพึงพอใจมัน “ละเอียดอ่อน” มากนะ เพราะแต่ละคนก็มี “เกณฑ์” ในใจไม่เหมือนกัน บางคนแค่ “พอใช้ได้” ก็ให้คะแนนเยอะแล้ว แต่บางคนต้อง “ว้าว” จริงๆ ถึงจะให้คะแนนสูง

เกร็ดเล็กน้อย:

  • การเขียนบทที่ 2 ให้ดีไม่ใช่แค่การ “รวบรวม” ข้อมูล แต่เป็นการ “สังเคราะห์” ข้อมูล เราต้องเอาข้อมูลต่างๆ มา “ยำ” รวมกัน แล้วสร้าง “เรื่องราว” ที่น่าสนใจ
  • บางครั้งเราอาจเจอ “ช่องว่าง” ในงานวิจัยที่มีอยู่ นั่นแหละคือโอกาสที่เราจะ “สร้างสรรค์” งานวิจัยของเราให้แตกต่าง
  • อย่ากลัวที่จะ “วิพากษ์วิจารณ์” งานวิจัยของคนอื่น แต่ต้องทำด้วยความ “เคารพ” และมี “เหตุผล” นะครับ

ผมว่าการทำวิจัยมันก็เหมือนการ “ผจญภัย” อย่างหนึ่งนะ เราต้อง “กล้า” ที่จะก้าวออกจาก “Comfort Zone” แล้วไปค้นหา “ความจริง” ที่ซ่อนอยู่

โครงงาน5บทมีส่วนประกอบอะไรบ้าง

โอเค จัดไป! เรื่องโครงงาน 5 บทนี่นะ ตอนทำโปรเจคจบปี 4 ที่คณะวิศวะ จุฬาฯ เมื่อต้นปีที่แล้ว (2566) หัวปั่นสุด ๆ คือมันมี 5 บทหลัก ๆ นี่แหละ อาจารย์บังคับเป๊ะ ๆ

  • บทที่ 1: บทนำ – นี่คือเปิดตัว! ต้องบอกให้ได้ว่าทำไมถึงต้องทำโครงงานนี้ ปัญหาคืออะไร สำคัญยังไง แล้วเราอยากรู้อะไรจากมัน (วัตถุประสงค์) สมมติฐาน (ถ้ามี) ขอบเขตการศึกษา รวมถึงนิยามศัพท์เฉพาะที่คนทั่วไปอาจไม่เข้าใจ

  • บทที่ 2: แนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง – อันนี้คือโชว์ว่าเราทำการบ้านมาดี! ต้องไปอ่านเปเปอร์ งานวิจัยเก่า ๆ มาเยอะ ๆ แล้วเอามาสรุปว่าคนอื่นเค้าทำอะไรกันมาบ้าง เกี่ยวกับหัวข้อเรา แล้วทฤษฎีอะไรที่มัน support งานของเรา

  • บทที่ 3: วิธีดำเนินการวิจัย – บทนี้คือบอก step by step ว่าเราทำอะไรบ้าง เก็บข้อมูลยังไง ใช้เครื่องมืออะไร วิเคราะห์ข้อมูลแบบไหน คือต้องละเอียดขนาดที่คนอื่นอ่านแล้วทำตามได้เลยอะ

  • บทที่ 4: ผลการวิเคราะห์ข้อมูล – นี่คือ highlight! เอาข้อมูลที่เราเก็บมาวิเคราะห์แล้วมา present ในรูปแบบตาราง กราฟ หรืออะไรก็ตามที่มัน make sense แล้วก็อธิบายว่าผลลัพธ์มันคืออะไร

  • บทที่ 5: สรุปผล อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ – บทสุดท้ายแล้ว! สรุปว่าผลการวิจัยของเรามันตอบคำถามที่เราตั้งไว้ตอนแรกได้ไหม สอดคล้องกับทฤษฎีหรือเปล่า แล้วก็อภิปรายว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น มีอะไรที่ผิดพลาดหรือต้องปรับปรุงไหม สุดท้ายก็เสนอแนะว่าใครอยากเอาไปทำต่อยอดควรจะทำอะไรเพิ่ม

ตอนนั้นนะ กว่าจะเขียนแต่ละบทได้นี่แทบกระอักเลือด! แต่พอทำเสร็จแล้วมันก็ภูมิใจดีเหมือนกันนะเว้ยเฮ้ย

องค์ประกอบของโครงงาน 5 บทมีอะไรบ้าง

โครงงาน 5 บท? ง่ายๆ นี่เลย:

  • บทที่ 1: เบื้องต้น (ประเด็นหลักๆที่มึงจะทำ)
  • บทที่ 2: ทฤษฎี (หลักการที่ใช้ อ้างอิงให้ชัด)
  • บทที่ 3: วิธีทำ (ขั้นตอน ละเอียด แม่นยำ)
  • บทที่ 4: ผล (ข้อมูล กราฟ ตาราง อย่ามั่ว)
  • บทที่ 5: สรุป (จบแล้วไง ต่อยอดได้ไง)

ปีนี้ผมทำโครงงานเกี่ยวกับการวิเคราะห์ตลาดหุ้นด้วย AI ใช้ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปี 2566 หนักหัวฉิบหาย แต่ก็เสร็จ

เพิ่มเติม:

  • การอ้างอิง ต้องเป๊ะ อย่าลอก เดี๋ยวเจอเรื่อง
  • รูปภาพ ตาราง ต้องมีคุณภาพ อย่าให้ดูโหล
  • ภาษา ต้องคม กระชับ อย่าเยิ่นเย้อ
#ผลการวิจัย #สวนน้ำ