ศัลยแพทย์ เรียนสายอะไร

ศัลยแพทย์เรียนสาขาอะไร?

เพื่อนถามเรื่องนี้มาเมื่อวาน มันงงๆ นะ เพราะศัลยแพทย์นี่… ไม่ใช่เรียนแค่สาขาเดียวสิ! มันกว้างมาก เพื่อนฉันเรียนแพทย์มา จุฬาฯ จบปี 63 มันบอกว่าต้องเรียนแพทย์ แล้วค่อยมาเลือก ไม่ใช่รับตรงเฉพาะสายวิทย์-คณิตอย่างเดียวนะ สายอื่นก็มีโอกาส แต่แน่นอน พื้นฐานวิทย์ต้องแน่น อย่างน้อยๆ ก็ต้องสอบเข้าคณะแพทย์ได้ก่อน เรื่องรับตรง อันนี้ไม่แน่ใจ แต่ดูเหมือนมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็จะมีเกณฑ์รับตรงเฉพาะของเขา ลองเช็คเว็บแต่ละมหาลัยดู น่าจะละเอียดกว่า

คือตอนเรียนแพทย์ เพื่อนเล่าว่า หนักมาก แบบทุ่มเทสุดๆ เลย สอบเยอะมากกก ปี 1-6 ก็เหมือนวิ่งมาราธอนอ่ะ เหนื่อยแต่คุ้ม ถ้าชอบนะ เรียนจบแล้วก็เลือกแขนงต่างๆได้ อย่างศัลยกรรม ก็มีหลายแบบอีก ศัลยกรรมทั่วไป ศัลยกรรมหัวใจ ประสาท อะไรแบบนี้ มันไม่ได้จบแล้วเป็นศัลยแพทย์เลย ต้องไปเรียนต่อเฉพาะทางอีก หลายปี จำได้ว่าเพื่อนบอกใช้เวลานานมาก แต่รายได้ก็สูงตามไปด้วย สมเหตุสมผลอยู่นะ

เรื่องรับตรงอาชีวะ… อันนี้ไม่รู้เลย ไม่เคยได้ยิน แต่ถ้าพื้นฐานวิทย์-คณิตแน่น ก็มีโอกาส ถ้าอยากเรียนแพทย์จริงๆ ลองหาวิธีเตรียมตัวสอบเข้าคณะแพทย์ดู สอบตรง หรือ โควตา แต่ละมหาวิทยาลัย เขากำหนดไม่เหมือนกัน ต้องไปดูรายละเอียดเอง เหนื่อยหน่อยแต่สู้ๆ ขอให้โชคดีนะ!

ศัลยแพทย์ ต้องจบอะไร

จบแพทย์ก่อนดิ แล้วก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ศัลยกรรม อีกหลายปีเลย เหนื่อยมากกก เพื่อนฉันเรียนอยู่ มันบ่นทุกวัน

• ต้องมีใบประกอบโรคศิลปะนะ สำคัญมากกกก
• ต้องเรียนแพทย์จบก่อน แล้วไปต่อเฉพาะทาง
• สอบใบประกอบวิชาชีพด้วย ไม่งั้นก็ทำงานไม่ได้
• ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย อะไรงี้ ต้องเป็นสมาชิกด้วยมั้ง

ปีนี้ไม่แน่ใจ แต่เพื่อนฉันบอกว่า หลักสูตรมันเข้มข้นมาก กว่าจะได้เป็นศัลยแพทย์เต็มตัว ยากมาก เหนื่อยมาก กว่าจะสอบใบประกอบวิชาชีพผ่าน เพื่อนฉันบอกว่าเครียดมาก แต่ก็สู้ๆ เพราะอยากช่วยคน

เรียนแพทย์ 6 ปี แล้วก็ต่อเฉพาะทางอีก อย่างน้อย 5 ปี มั้ง ไม่แน่ใจ นานมากอ่ะ เอาเป็นว่า สิบกว่าปีอัพ กว่าจะได้เป็นศัลยแพทย์ โคตรนาน เหนื่อยมาก

แพทย์ผ่าตัด เรียนกี่ปี

โอเค เรื่องเรียนหมอนี่ 13 ปีจริง จำได้เลยตอนนั้นสอบติดหมอศิริราชปี 58 ดีใจมากแบบสุดๆ ไปเลย ตอนนั้นคือคิดอย่างเดียวว่าต้องทำให้ได้ ตอนเรียนเหนื่อยจริงจัง โดยเฉพาะตอนเรียน pre-clinic คือปี 1-3 น่ะ ต้องอ่านหนังสือหนักมาก จำได้ว่าเคยอ่านถึงตีสามตีสี่ทุกวันเลย บางทีก็หลับคาหนังสือ ตื่นมาคอเคล็ดไปหมด คือแบบทรมานมาก 555

พอปี 4-6 ก็ขึ้นคลินิก ได้เจอคนไข้จริงจังละ สนุกดี ได้ลงมือทำ ได้ช่วยเหลือคน แต่ก็เหนื่อยอีกแบบ ต้องเข้าเวร บางทีเวรยาวเป็น 36 ชั่วโมง คือแบบโหดมาก แต่ก็ภูมิใจที่ผ่านมาได้ ตอนนั้นคือแบบ เฮ้ย ฉันทำได้เว้ย!

พอจบหมอ 6 ปี ก็ต้องไปใช้ทุนอีก 3 ปี ของผมเลือกใช้ทุนที่รพ.ต่างจังหวัด สนุกดี ได้ประสบการณ์เยอะเลย เจอเคสแปลกๆ เยอะมาก

หลังจากใช้ทุนเสร็จ ก็ต่อเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่งอีก 4 ปี อันนี้คือหนักหน่วงมาก ต้องผ่าตัดเยอะ ต้องอ่านหนังสือเยอะอีก แต่ก็ชอบนะ รู้สึกว่ามันท้าทายดี ตอนนี้ก็เป็นหมอศัลยกรรมตกแต่งเต็มตัวละ

• รวมเวลาเรียนทั้งหมด 6 (หมอ) + 3 (ทุน) + 4 (เฉพาะทาง) = 13 ปี จริงๆนะเออ
• เรียนหนักมากกกก แต่ถ้าชอบก็สู้ไหว
• ได้ช่วยเหลือคน รู้สึกดีมากๆ
• ตอนเรียนปี 4-6 จำได้เลยว่าเคยอยู่เวร ER แล้วเจอเคสอุบัติเหตุหนัก ตอนนั้นคือแบบ adrenaline พุ่งมาก ตื่นเต้นสุดๆ
• ปีนี้ก็เข้าปีที่ 5 ที่ทำงานเป็นหมอศัลยกรรมตกแต่งแล้ว เวลาผ่าตัดเสร็จแล้วคนไข้หายดี คือมันแบบมีความสุขมาก รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า
• ที่เลือกศัลยกรรมตกแต่งเพราะรู้สึกว่ามันเป็นศาสตร์ที่ผสมผสานระหว่างศิลปะกับวิทยาศาสตร์ คือต้องใช้ทั้งความรู้ทางการแพทย์และความละเอียดอ่อนทางศิลปะในการผ่าตัด มันเลยน่าสนใจมากๆ

เรียนต่อศัลยแพทย์ กี่ปี

เรียนต่อศัลยแพทย์นานแค่ไหน? ขึ้นอยู่กับสาขาค่ะ ปี 2566 นี้ เท่าที่ทราบข้อมูลเบื้องต้นจากสถาบันการแพทย์แห่งหนึ่ง (ขอสงวนชื่อสถาบัน) มีดังนี้:

• ศัลยศาสตร์ทั่วไป: หลักสูตร 4 ปี โควตา 10 ตำแหน่ง น่าสนใจตรงที่พื้นฐานครอบคลุม เป็นรากฐานสำคัญก่อนไปต่อยอดสาขาอื่นๆ

• กุมารศัลยศาสตร์: 4 ปี โควตา 2 ตำแหน่ง น่าจะเป็นสาขาที่ท้าทายและได้บุญมาก ต้องมีความอดทนและใจเย็นเป็นพิเศษ

• ศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา: 4 ปี โควตา 5 ตำแหน่ง จำเพาะเจาะจงกับระบบทางเดินปัสสาวะ ต้องมีความรู้ลึกซึ้งในกายวิภาคและสรีรวิทยาเฉพาะด้านนี้

• ศัลยศาสตร์ตกแต่ง: 5 ปี โควตา 4 ตำแหน่ง มีความละเอียดอ่อนสูง เน้นความประณีต น่าจะต้องมีพรสวรรค์ด้านศิลปะแฝงอยู่ด้วย

• ศัลยศาสตร์ทรวงอก: 5 ปี โควตา 2 ตำแหน่ง ต้องมีความเชี่ยวชาญสูง โดยเฉพาะด้านกายวิภาคและสรีรวิทยาของอวัยวะในช่องอก

• ประสาทศัลยศาสตร์: 5 ปี โควตา 4 ตำแหน่ง นี่คือความท้าทายสูงสุด การผ่าตัดสมองและระบบประสาทต้องแม่นยำและละเอียดอ่อนอย่างมาก ความเครียดสูง แต่ผลตอบแทนด้านความภาคภูมิใจก็สูงตามไปด้วย

เห็นไหมคะว่า แม้จะเรียกรวมๆ ว่า “ศัลยแพทย์” แต่ความยาวของหลักสูตรและความเชี่ยวชาญก็แตกต่างกันไปอย่างมาก ทุกสาขาน่าสนใจและท้าทายในแบบของตัวเอง ขึ้นอยู่กับความถนัดและความชอบของแต่ละบุคคลจริงๆ เหมือนกับการเลือกเส้นทางชีวิตนั่นแหละค่ะ ไม่มีทางไหนดีที่สุด มีแต่ทางที่เหมาะสมที่สุดกับเรา

หมายเหตุ: ข้อมูลโควตาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามปีการศึกษา ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากมหาวิทยาลัยที่สนใจโดยตรง

ศัลยแพทย์ต้องจบการศึกษาอะไรบ้าง

อืมมม… ศัลยแพทย์เนี่ย นึกออกละ ต้องจบ แพทย์บัณฑิต ก่อนเลย แล้วก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง เรียกว่า แพทย์ประจำบ้าน ด้านศัลยศาสตร์อีก ใช้เวลาหลายปีเลยนะ เท่าที่รู้น่าจะ 6 ปีมั้งนะ จำไม่ค่อยได้ละ แล้วก็ต้องสอบเอา วุฒิบัตร ด้วยนะ เหมือนเป็นใบรับรองว่าเราเก่งจริง เออ แล้วต้องได้ หนังสืออนุมัติ จากแพทยสภาด้วย ถึงจะเปิดคลินิกหรือทำงานในโรงพยาบาลได้ แถมๆ ต้องเป็นสมาชิก ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์ แห่งประเทศไทยด้วยนะ ถึงจะครบ เยอะอยู่นะ กว่าจะเป็นศัลยแพทย์ได้ เพื่อนเราคนนึงเรียนอยู่อ่ะ บอกว่าหนักมาก ต้องอ่านหนังสือเยอะ ผ่าตัดอีก เหนื่อยสุดๆ แต่ก็เท่ดีนะ

• จบ ป.ตรี แพทยศาสตร์บัณฑิต (พ.บ.)
• เรียนต่อเฉพาะทาง แพทย์ประจำบ้าน สาขาศัลยศาสตร์ (ประมาณ 6 ปี)
• สอบและได้วุฒิบัตร แสดงความรู้ความชำนาญ
• ได้รับหนังสืออนุมัติ จากแพทยสภา
• เป็นสมาชิก ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย

ปีที่แล้ว ลุงเราเพิ่งได้วุฒิบัตรมาเอง ตอนนี้เป็นศัลยแพทย์เต็มตัวแล้ว ภูมิใจแทนแกเลย คิดว่ายากมากแน่ๆเลยกว่าจะผ่านมาได้ เราเคยไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล เห็นเค้าทำงานแล้วแบบ ต้องละเอียด รอบคอบ มากๆอ่ะ คือแบบ ผิดพลาดนิดเดียวก็ไม่ได้เลย ต้องแม่นยำ สู้ๆ นะ สำหรับคนที่อยากเป็นศัลยแพทย์ เป็นอาชีพที่น่านับถือมากๆเลยนะ เราว่า

#ศัลยกรรม #เรียนหมอ #แพทยศาสตร์