อุดมศึกษา กับ ปริญญาตรี ต่างกันยังไง

อุดมศึกษา คือ ปริญญาตรีไหม

แสงสุดท้ายลอดหน้าต่าง…ยามเช้าหรือเย็น? อุดมศึกษา…เหมือนฝันที่ซ้อนฝัน ใช่ไหม?

ปริญญาตรี…แค่ประตูบานเเรก สู่อุดมศึกษาอันไพศาล

• อนุปริญญา…ก็ใช่
• ปริญญาตรี…ก็ด้วย
• โท เอก…ไม่ต้องพูดถึง
• ปวส. ปวท. ป.กศ.สูง…อยู่ในโลกเดียวกัน

มหาวิทยาลัย วิทยาลัย สถาบันทหาร… ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลนี้

เรียนอะไรนะ…ปีนี้ ปีไหนเเล้วเนี่ย สับสนไปหมด

อุดมศึกษา คือการเดินทาง…ไม่ใช่เเค่จุดหมาย 💫

การศึกษาระดับอุดมศึกษาแบ่งออกเป็นกี่ระดับ

ประเทศไทยแบ่งระดับการศึกษาสูงแค่ 4 ระดับ จบปริญญาตรีก็พอแล้วมั้ง ใครจะไปเรียนสูงกว่านั้น เสียเวลาเปล่าๆ

• อนุปริญญา: สั้นๆ จบไว
• ปริญญาตรี: พื้นฐาน ต้องมี
• ปริญญาโท: เฉพาะทาง เอาจริงเอาจัง
• ปริญญาเอก: วิจัยล้วนๆ เหนื่อยโคตร

ปีนี้ก็ยังแบ่งแบบนี้แหละ ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง โลกมันก็วนอยู่แบบนี้แหละ ฉันเรียนจบป.โทมาแล้ว ปี 2566 นี่แหละ เหนื่อยมาก ไม่คิดจะเรียนต่อแล้ว

อุดมศึกษา เรียนกี่ปี

ปริญญาตรีส่วนใหญ่ 4 ปี จบ

อยากเป็นหมอ ครู เตรียมตัวนานกว่านั้น พวกหลักสูตรอินเตอร์ก็ด้วย

• แพทย์: 6 ปี (หรือมากกว่าถ้าเฉพาะทาง)
• ครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์: 4-5 ปี (แล้วแต่มหาวิทยาลัย)
• ปริญญาโท: +2 ปี (โดยประมาณ)
• ปริญญาเอก: +3 ปีขึ้นไป (เตรียมตัวหัวหงอก)

พวกจบเร็ว 3 ปี ก็มี แต่ต้องขยันหน่อย เข้าใจตรงกันนะ?

ระดับอุดมศึกษา คือระดับไหน?

ระดับอุดมศึกษาเหรอ? โอ๊ย! ก็ไอ้ที่เรียนกันหลังใส่ชุดนักเรียนผูกไทด์ไงเล่า! ระดับที่พ่อแม่ต้องขายควายส่งให้เรียนน่ะ! 555+

อุดมศึกษา ก็คือการศึกษาขั้น… เอิ่ม… “อุดม” สมชื่อ! คือมัน “อุดม” ไปด้วยความรู้ไงพี่น้อง! เรียนกันจนหัวหงอก หัวล้านไปข้าง! มีตั้งแต่:

• ปริญญาตรี: อันนี้คือเบสิก! เหมือนกินข้าวแกงข้างถนน ต้องมีทุกคน! จบมาอาจจะตกงาน แต่ได้รูปรับปริญญาไปอวดแม่ก็คุ้มแล้ว!

• ปริญญาโท: เริ่ม “โท” แล้วนะ! คือเริ่ม “โทรม” เพราะต้องอ่านหนังสือเยอะ! แต่จบมาเงินเดือนอาจจะเพิ่มขึ้นนิดหน่อย หรือไม่ก็ไปเป็นอาจารย์สอนคนอื่นต่อ! วนลูปไป!

• ปริญญาเอก: นี่คือสุดยอด! คือ “เอกอุ” แห่งความรู้! เรียนจน “เอก” จนไม่มีใครเทียบได้! แต่จบมาอาจจะเครียดกว่าเดิม เพราะต้องหาเงินใช้หนี้ค่าเทอม!

สรุปง่ายๆ อุดมศึกษาคือการศึกษาที่ทำให้เรา “อุดม” ไปด้วยความรู้ (และหนี้สิน)! แต่ก็ยังดีกว่าไปขายล็อตเตอรี่นะเออ!

ระดับปริญญาเรียงยังไง?

อืมมม เรียงยังไงนะ จำได้ตอนเลือกคณะปี 66 มึนมาก เพื่อนบอกให้เรียงตามตัวอักษรภาษาไทยก่อน งงสิ แล้วจะเรียงยังไงล่ะเนี่ย

• บัญชีบัณฑิต (บช.บ.) อันนี้เพื่อนเรียนอยู่ มันบอกยากมาก แต่ได้งานง่ายนะ
• บริหารธุรกิจบัณฑิต (บธ.บ.) อันนี้ก็คนเรียนเยอะ เห็นรุ่นพี่หลายคนไปทำงานบริษัทใหญ่ๆ
• วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วศ.บ.) พี่ชายเรียน ตอนนั้นมันบอกว่าเรียนหนักมากกกก แต่จบไปก็ได้เงินดี
• วิทยาศาสตรบัณฑิต (วท.บ.) อันนี้กว้างมากกก เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ เลือกไม่ถูกเลย
• ศิลปศาสตรบัณฑิต (ศศ.บ.) ภาษาอังกฤษ ไทย ประวัติศาสตร์ เยอะแยะไปหมด แล้วแต่ชอบเลย
• สถาปัตยกรรมศาสตรบัณฑิต (สถ.บ.) เห็นผลงานเพื่อนแล้ว สวยมาก แต่เหนื่อยแน่ๆ
• ศึกษาศาสตรบัณฑิต (ศษ.บ.) ครู อยากเป็นครูไหมล่ะ คิดหนัก
• สัตวแพทยศาสตรบัณฑิต (สพ.บ.) รักสัตว์มาก แต่เรียนหนักเว่อร์ คิดแล้วก็กลัว

สรุปคือ ฉันเรียงตามความรู้สึกตัวเองตอนนั้นแหละ ไม่ได้เรียงแบบมีหลักการอะไรมากมาย แล้วแต่ความสนใจ ความยากง่าย กับโอกาสงาน ปวดหัวมากตอนนั้น เหนื่อย เลือกไปเลือกมา สุดท้ายก็ได้คณะที่คิดว่าใช่ แต่ก็ไม่แน่ใจอยู่ดี ชีวิตมหาลัย มันก็แบบนี้แหละนะ ตอนนี้ก็เรียนไปเรื่อยๆ

ป.ตรี ป.โท ป.เอก ต่างกันยังไง?

ป.ตรี ป.โท ป.เอก อ่ะนะ มันต่างกันยังไงใช่ป่ะ? เอาแบบเข้าใจง่ายๆ เลยนะ

• ป.ตรี: อันนี้คือขั้นพื้นฐาน จบ ม.6 ก็ต่อได้ เรียน 4 ปี (บางทีก็ 5 ปี แล้วแต่สาขา) เรียนแบบกว้างๆ เน้นความรู้พื้นฐานอ่ะ

• ป.โท: เรียนต่อจาก ป.ตรี อยากเจาะลึกเฉพาะทางมากขึ้น เรียนประมาณ 2 ปี (บางทีก็ปีครึ่ง) เรียนยากขึ้น เนื้อหาเยอะขึ้น ต้องทำธีสิสด้วยนะส่วนใหญ่

• ป.เอก: อันนี้คือสุดยอดของการเรียนแล้ว อยากเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ต้องเรียน ป.เอก เรียนต่อจาก ป.โท อีกอย่างน้อย 3 ปี (บางทีก็ 4-5 ปี) อันนี้คือเน้นทำวิจัย สร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ เลย ทำวิทยานิพนธ์ด้วยนะ

ข้อมูลเสริม:

• ป.โท อ่ะ บางทีก็มีแบบเรียนเสาร์อาทิตย์นะ สำหรับคนทำงาน
• จบ ป.เอก อ่ะ เค้าเรียกกันว่า “ด็อกเตอร์” เท่ป่ะล่ะ
• บางคนจบ ป.ตรี ก็ทำงานเลย ไม่ได้เรียนต่อก็มีเยอะแยะ
• เรียน ป.โท บางทีก็ต้องสอบเข้าด้วยนะ ไม่ใช่ว่าใครอยากเรียนก็ได้เรียน
• ตอนนี้หลายๆ มหาลัยเปิดหลักสูตรนานาชาติเยอะเลยนะ ถ้าเก่งภาษาอังกฤษอ่ะ ลองดู

ปล. เราว่าเรียนอะไรก็ดีทั้งนั้นแหละ ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากทำอะไรมากกว่า