เกรด B ได้เกรดอะไร

B ได้เกรดอะไร

อ้าว! ถามเกรด B เหรอ? นี่มันปีการศึกษา 2566 นะคะ ไม่ใช่สมัยคุณปู่คุณย่าเรียนหนังสือแล้วนะ! สมัยนี้เกรด B มันหลากหลายกว่านั้นเยอะ! อย่าไปคิดว่าแค่ 70-79 นะคะ ยุคนี้ B มันขึ้นอยู่กับอาจารย์เป็นหลักเลย! บางทีอาจารย์ใจดี ให้ B+ 80-84 ก็มีนะ บางทีอาจารย์ใจร้าย ให้ B- 67-69 ก็มี ชีวิตมันไม่แน่นอน! เหมือนหวยงวดนี้ เดาไม่ถูกเลยจริงๆ!

• B+ (80-84): เกือบ A แล้วนะ เอาใจช่วย! อีกนิดเดียวเอง!
• B (75-79): ผ่านฉลุย! แต่ก็อย่าชะล่าใจ ต้องพัฒนาต่อ! คิดซะว่าได้ 80% แสดงว่าคุณมีของ!
• B- (70-74): ใกล้เคียงกับเกรด C นิดๆ หน่อยๆ นี่ต้องรีบไปปรึกษาอาจารย์แล้ว! อย่าปล่อยให้มันตกไปเป็น C นะคะ!

เอาเป็นว่า เกรด B ในมหาลัยปัจจุบันเนี่ย เหมือนกับการลงทุนหุ้น มีความเสี่ยง! แต่ถ้าเลือกวิชาดีๆ อาจารย์ดีๆ ก็รวยเกรดได้ง่ายๆ (หมายถึงได้เกรดสูงๆ นะคะ อย่าเข้าใจผิด!)

ปีนี้ ฉันเรียนวิชาสถิติ เกรด B+ มาแบบเหนื่อยมาก สอบโคตรยาก แต่ก็ผ่านมาได้ ถือว่าประสบการณ์ชีวิต!

ปล. ถ้าอยากรู้เกรด B แบบละเอียด ต้องไปดูเกณฑ์การให้เกรดของแต่ละมหาวิทยาลัย แต่ละคณะ แต่ละภาควิชาอีกที เพราะมันไม่เหมือนกัน เหมือนกับหน้าตาคน ไม่มีใครเหมือนกันเป๊ะ!

คะแนน 83 ได้เกรดอะไร

83 คะแนน! โอ้โห แม่เจ้า! เกรด A ชัดๆ แบบว่าเดินเฉิดฉายไปเลยจ้าาาาา แสงสิบดวงส่องประกาย วิ๊งค์ๆๆ นี่ไม่ใช่แค่เกรด A ปกติ แต่เป็น A พ่วงดาวอีกหลายดวง อลังการงานสร้างยิ่งกว่าฉากจบหนังฮอลลีวูดซะอีก!

• เกรด A คือเทพเจ้าแห่งคะแนน ใครได้นี่ถือว่าปราบเซียน!
• 80-100 นี่คือดินแดนแห่งความสำเร็จ ฟ้าประทานพร โชคดีสุดๆ
• 75-79 เกรด B ก็ยังโอเคอยู่นะ แต่ต้องขยันกว่านี้หน่อย สู้ๆ!
• 70-74 เกรด B อีกแล้วเหรอ? ไปนั่งทบทวนหนังสือซะ อย่าให้ตกต่ำกว่านี้เลยนะ

ปีนี้ลูกชายผมได้ 88 คะแนน เกรด A เหมือนกัน บอกเลยว่าภูมิใจสุดๆ จะพาไปกินชาบู ฉลองใหญ่เลย! (แต่ผมก็แอบคิดนะ ว่าถ้ามันได้ 100 ผมจะพาไปเที่ยวญี่ปุ่นเลย อิอิ)

เกรด B มหาลัยดีไหม

โอ๊ยยยยย! เกรด B มหา’ลัยเนี่ยนะ ดีไหม? ถามมาได้! ก็เหมือนถามว่ากินปลาร้ากับสเต็กอะไรอร่อยกว่ากัน! มันก็ต้องแล้วแต่คนชอบป่ะวะ! แต่ถ้าให้พูดตามตรง เกรด B ก็คือ “ก็โอเค” ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้น “ว้าว! อัจฉริยะ!” อ่ะนะ

• B = ก็โอเค: คือแบบ…สอบผ่านไปได้ ไม่ต้องซ่อม ไม่ต้องรีเกรด แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นจนอาจารย์จำชื่อได้ (นอกจากว่าไปก่อเรื่องไว้)
• C = ค่อนข้างดี: อันนี้คือ “เกือบดี” ไง! อีกนิดเดียวก็จะ A แล้ว! เสียดายแทน แต่ก็ถือว่าไม่เลวนะเว้ย!
• D = พอใช้: อันนี้คือ “รอดตายหวุดหวิด” เหมือนหนังผีตอนจบที่พระเอกรอดแต่เพื่อนตายหมดอ่ะ!
• F = อ่อน: อันนี้คือ “ซวยแล้วไง!” เตรียมตัวลงทะเบียนเรียนใหม่ได้เลยจ้า!

แถมให้อีกนิด:

• เกรด A: เทพประทาน! เกิดมาเพื่อเป็นที่หนึ่ง! (แต่บางทีอาจจะไม่ได้นอน)
• เกรด B+: เหมือนถูกหวยเลขท้ายสองตัว! เกือบถูกรางวัลใหญ่แล้ว!
• เกรด C+: เฉียดฉิว! เกือบไป D แล้ว!
• เกรด S (Satisfactory): สอบผ่านแบบงงๆ! อาจารย์คงสงสาร!
• เกรด U (Unsatisfactory): สอบไม่ผ่านแบบไม่ต้องสงสัย! เจอกันใหม่เทอมหน้า!

เกรดBได้กี่คะแนน

75-79 แค่นั้นแหละ

แต่ระวังนะ บางที่มันอาจจะ 76-80 หรือ 74-79 ก็ได้ ไปเช็คที่มหาลัยเอาเอง อย่ามาถามกู

• ระบบการให้เกรดของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน
• เช็คเกณฑ์ของสถาบันนั้นๆ ปี 2566
• กูไม่รับผิดชอบถ้ามึงตก

A- กับ B+ ต่างกันยังไง

แสงสีส้ม…ตอนเย็น…ท้องฟ้า..เหมือนสีน้ำ..ละลาย…A กับ B+…ต่างกันตรงไหนนะ…

ความรู้สึกต่าง…เหมือน…มองดอกไม้…ใกล้ๆ กับไกลๆ…A คือชัด…B+ คือเบลอๆ…แต่สวย…

A…คมชัด…ทุกองศา…เหมือนรูปที่เพิ่งถ่ายเสร็จ…สดใหม่…B+…เหมือนรูปเก่าๆ…ที่ยังชอบ…

จำได้…ปีนี้…ได้ A วิชาปรัชญา…ดีใจมาก…เหมือนได้บิน…

ส่วน B+…ได้วิชาเขียนโค้ด…ก็โอเค…แต่ยังไม่สุด…อยาก A…

• A คือ excellent…เหนือกว่า…สมบูรณ์แบบ…
• B+ คือ very good…ดีมาก…แต่ยังไม่ถึงขั้น excellent…
• ความต่าง…บางทีก็เล็กน้อย…บางทีก็มากมาย…เหมือนเส้นบางๆ…ระหว่างความสุข…กับความพอใจ…

คิดถึง…ตอนได้ B+…วิชาสถิติ…ปีนี้…เสียดาย…แต่ก็…ทำดีที่สุดแล้ว…

รู้สึกเหมือน…เดินบนชายหาด…ตอนพระอาทิตย์ตก…A คือ…แสงสุดท้าย…ที่สว่างที่สุด…B+ คือ…แสงที่จางลง…แต่ยังสวยงาม…