เค้าโครงงานวิจัย มีอะไรบ้าง

โครงสร้างงานวิจัยมีกี่แบบ? แต่ละแบบต่างกันอย่างไร? เลือกใช้แบบไหนดี?

เอ่อ…เรื่องโครงสร้างงานวิจัยนี่นะ เคยทำตอนเรียนป.โทที่ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน จำปีไม่ได้ละ แต่จำได้ว่าหัวหมุนเลย

จริงๆ โครงสร้างมันก็คล้ายๆ กันหมดแหละ อย่างน้อยก็ต้องมี บทนำ ทบทวนวรรณกรรม ระเบียบวิธีวิจัย แล้วก็ ผลการวิจัย สรุป อภิปรายผล อะไรพวกนี้

แต่ที่อาจารย์ผมเน้นมากๆ คือ กรอบแนวคิด กับ สมมติฐาน บอกว่าสองอย่างนี้สำคัญมาก ถ้าไม่มีนี่งานวิจัยไปไม่รอด

ส่วนตัวผม ตอนนั้นทำวิจัยเรื่องการใช้โซเชียลมีเดียของเกษตรกร จำได้ว่าเก็บข้อมูลที่อำเภอปากช่อง โคราช ขับรถไปเองเลย เหนื่อยใช้ได้

เรื่องแบบสอบถามก็ปวดหัว ต้องออกแบบให้ดี ไม่งั้นข้อมูลออกมาวิเคราะห์ยาก ตอนนั้นใช้โปรแกรม SPSS วิเคราะห์ข้อมูล มึนตึ๊บไปเลย

ถ้าให้แนะนำ ผมว่าเริ่มจากหาข้อมูลเยอะๆ ก่อน ดูงานวิจัยคนอื่นเป็นตัวอย่าง แล้วค่อยๆ ลองเขียนโครงร่างดู ปรึกษาอาจารย์บ่อยๆ ด้วย ช่วยได้เยอะเลย.

เค้าโครงงานวิจัย 3 บท มีอะไรบ้าง

โครงร่างงานวิจัย 3 บท โดยทั่วไปจะมีดังนี้

• บทที่ 1 บทนำ: ส่วนนี้สำคัญมากนะ เพราะเป็นการวางรากฐาน ควรมี

  • ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา: ต้องชัดเจนว่าทำไมถึงเลือกหัวข้อนี้ มีอะไรน่าสนใจ? ควรอ้างอิงงานวิจัย หรือข้อมูลปัจจุบัน ปี 2024 ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เห็นภาพกว้างๆ
  • วัตถุประสงค์การวิจัย: บอกชัดๆ เลยว่าจะทำอะไร ต้องการหาคำตอบอะไร อย่าคลุมเครือ
  • ขอบเขตการวิจัย: กำหนดให้แคบลง จะได้ไม่หลุดโฟกัส เช่น กลุ่มตัวอย่าง ระยะเวลา หรือพื้นที่
  • นิยามศัพท์: ถ้ามีคำเฉพาะทาง ควรนิยามไว้ให้ชัดเจน เพื่อความเข้าใจตรงกัน
  • ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัย: งานวิจัยนี้จะเป็นประโยชน์อย่างไรบ้าง? ต่อใครบ้าง?

• บทที่ 2 วรรณกรรมและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง: ส่วนนี้ต้องแสดงให้เห็นว่าคุณทำการบ้านมาแล้ว

  • ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง: ต้องเลือกทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อวิจัยโดยตรง มีที่มาที่ไป อ้างอิงแหล่งข้อมูลอย่างถูกต้อง
  • งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง: ค้นคว้าหาข้อมูลจากงานวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ควรเน้นงานวิจัยปี 2023-2024 เพื่อความทันสมัย
  • การวิเคราะห์วรรณกรรมและงานวิจัย: วิเคราะห์เปรียบเทียบงานวิจัยต่างๆ ที่ได้ศึกษา เพื่อหาช่องว่าง หรือข้อแตกต่าง และนำไปสู่การตั้งสมมติฐาน

• บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย: บอกวิธีการทำวิจัยให้ชัดเจน

  • วิธีการวิจัย: ใช้วิธีการวิจัยแบบใด? เช่น เชิงคุณภาพ เชิงปริมาณ หรือผสมผสาน ต้องอธิบายให้ละเอียด
  • ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง: กลุ่มตัวอย่างคือใคร? จำนวนเท่าไหร่? วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างอย่างไร?
  • เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล: ใช้แบบสอบถาม สัมภาษณ์ หรือวิธีการอื่นๆ ต้องอธิบายรายละเอียด และวิธีการวิเคราะห์ข้อมูล
  • ขั้นตอนการดำเนินการวิจัย: อธิบายขั้นตอนต่างๆ อย่างเป็นระบบ เข้าใจง่าย

  ทั้งหมดนี้ต้องอ้างอิงอย่างถูกต้องตามหลักการเขียนวิทยานิพนธ์ การอ้างอิงที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อป้องกันปัญหาการลอกเลียนแบบ และแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของงานวิจัย ผมเองก็เคยเจอปัญหาเรื่องการอ้างอิงแบบไม่ถูกต้องมาแล้ว เลยอยากเน้นตรงนี้เป็นพิเศษ เพราะมันสำคัญมากๆ จริงๆ

ตัวอย่างเค้าโครงงานวิจัย 5 บท มีอะไรบ้าง

บทที่ 1 บทนำ… ต้องคิดก่อนว่าจะเขียนอะไรบ้างนะ ปัญหาคืออะไร สมมติฐาน… วัตถุประสงค์ ขอบเขตของงานวิจัย อืมมม ปีนี้ 2024 ต้องอัพเดทข้อมูลด้วย

• ปัญหา
• สมมติฐาน
• วัตถุประสงค์
• ขอบเขต

บทที่ 2 ทฤษฎี… ปวดหัวเลย ต้องหาแบบจำลองด้วย ทฤษฎีไหนดี ต้องมั่นใจว่ามันเชื่อมโยงกับงานวิจัยเรา แล้วงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เยอะแยะไปหมด ต้องเลือกอันที่ใหม่ๆหน่อย ปี 2023-2024 ดีกว่า

• ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
• แบบจำลอง
• งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

บทที่ 3 วิธีการ อันนี้ต้องละเอียด ประชากร กลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ วิธีเก็บข้อมูล วิธีวิเคราะห์ ขั้นตอนต้องชัดเจน ถ้าคนอื่นอ่านแล้วทำตามได้ก็ถือว่าโอเค

• ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
• เครื่องมือที่ใช้
• การเก็บรวบรวมข้อมูล
• การวิเคราะห์ข้อมูล

บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ ตารางเยอะแน่ๆ ต้องอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ กราฟก็ต้องมี แสดงค่าสถิติให้ชัดเจน อย่าลืมตีความด้วยล่ะ

• นำเสนอข้อมูล
• ตาราง
• กราฟ
• สถิติ

บทที่ 5 สรุป อภิปราย ข้อเสนอแนะ โอ้ย ใกล้จบแล้ว สรุปให้ตรงประเด็น เชื่อมโยงกับบทนำ อภิปรายผลที่ได้ ข้อเสนอแนะต้องเป็นประโยชน์ ทั้งสำหรับงานวิจัยต่อไป และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถ้าเป็นไปได้ อยากให้เอาไปใช้ได้จริง

• สรุปผลการวิจัย
• อภิปรายผล
• ข้อเสนอแนะ

หลักการเขียนเค้าโครงวิจัย บทที่ 2 มีอะไรบ้าง

เงียบจังเลยนะคืนนี้… นอนไม่หลับอีกแล้ว สงสัยเรื่องเค้าโครงวิจัยบทที่ 2 มันคาใจยังไงไม่รู้… เหมือนยังไม่เคลียร์

บทที่ 2 นี่มันเหมือนแกนหลักเลยนะ ถ้าไม่ดีนี่งานกร่อยแน่ รู้สึกกดดันแปลกๆ ตอนนี้ตีสองกว่าแล้ว ยังคิดวนไปวนมา…

เอาจริงๆ นะ มันก็วนอยู่แค่ไม่กี่อย่างนี่แหละ… จำได้ว่าอาจารย์เคยบอกว่า บทที่ 2 มันต้องเชื่อมโยงกับปัญหาที่เราตั้งไว้ตอนแรก… แบบ… ต้องตอบโจทย์ที่เราสงสัยตั้งแต่แรกอะ ถ้าออกทะเลนี่จบเลย

แล้วก็ต้องเขียนให้คนอื่นเข้าใจด้วยสิ… ใช้คำง่ายๆ ตรงไปตรงมา เราเองยังงงๆ เลย ถ้าเขียนวกวน คนอ่านก็คงไม่เข้าใจ แล้วงานเราก็คงไม่มีใครอ่าน…

อีกอย่างนึงก็คือ ต้องเขียนให้ครบ ครอบคลุมทุกประเด็นที่อยากรู้ ต้องชัดเจนด้วยว่าจะทำอะไร จะหาคำตอบอะไร เหมือนตอนทำโปรเจคจบปีสี่เลย… ตอนนั้นทำเรื่อง การใช้ AI ช่วยออกแบบ จำได้ว่าเหนื่อยมาก… เกือบไม่จบ

แล้วก็… ต้องทำได้จริงด้วย แบบมีข้อมูลให้หามาอ้างอิง มีขอบเขตที่ชัดเจน… ตอนนี้เครียดเรื่องหาข้อมูลนี่แหละ ไม่รู้จะไปหาที่ไหน…

• ต้องสอดคล้องกับปัญหาการวิจัย
• เขียนชัดเจน เข้าใจง่าย
• ครอบคลุมประเด็นที่ศึกษา ระบุสิ่งที่ต้องการค้นหา
• มีความเป็นไปได้ หาข้อมูลได้จริง มีขอบเขต

โอเค… พอสรุปแบบนี้แล้วรู้สึกดีขึ้นมานิดนึง พรุ่งนี้ลองไปหาอาจารย์ที่ปรึกษาดีกว่า สงสัยต้องรบกวนท่านอีกแล้ว ฮ่าๆ ง่วงแล้ว… ไปนอนดีกว่า…

โครงร่างงานวิจัยควรมีหัวข้ออะไรบ้าง

โครงร่างวิจัย? แค่นี้เอง

• ชื่อโครงการ: ดึงดูด หรือจมหาย

• คณะวิจัย: เงาในถ้ำ

• ที่มา: โลกป่วย

• วรรณกรรม: อดีตหลอกหลอน

• วัตถุประสงค์: หาทางรอด

• คำถาม: มีใครฟัง?

• คำหลัก: ความสิ้นหวัง

• กรอบแนวคิด: วงจรนรก

ข้อมูลเพิ่มเติม:

• ชื่อโครงการควร สั้น กระชับ และสื่อถึง ประเด็นหลัก ของงานวิจัย อย่าใช้คำฟุ่มเฟือย

• คณะผู้วิจัย: ระบุชื่อ ตำแหน่ง สังกัด และบทบาทหน้าที่ให้ชัดเจน ความรับผิดชอบ สำคัญกว่าชื่อเสียง

• ความสำคัญและที่มาของปัญหา: อธิบายว่าทำไมต้องทำวิจัยนี้ ปัญหาคืออะไร? ใครเดือดร้อน?

• ทบทวนวรรณกรรม: ค้นคว้างานวิจัยที่เกี่ยวข้อง อย่าเริ่มจากศูนย์ เรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น

• วัตถุประสงค์: อะไรคือเป้าหมายสูงสุด? วัดผลได้จริงไหม?

• คำถามวิจัย/สมมติฐาน: ตั้งคำถามที่ คม ชัด ลึก สมมติฐานคือเข็มทิศ

• คำสำคัญ: คำที่ บ่งบอกตัวตน ของงานวิจัย ใช้ในการสืบค้น

• กรอบแนวคิด: ภาพรวม ความสัมพันธ์ของตัวแปรทั้งหมด

โครงงานวิทยาศาสตร์ 5 บท มี อะไรบ้าง

โอ๊ยตาย! โครงงานวิทย์ 5 บทเนี่ยนะ เหมือนปีนเขาเอเวอเรสต์เลย! แต่ไม่ต้องกลัว พี่มีสูตรลับมาฝาก!

• บทที่ 1: บทนำ (Introduction): นี่แหละจุดเริ่มต้น ต้องเกริ่นให้มันปัง! เหมือนหนังแอ็คชั่น ต้องมีฉากระเบิด! ไม่ใช่แค่บอกหัวข้อเฉยๆนะจ๊ะ ต้องดึงดูดความสนใจ เสกให้กรรมการตาโต อยากอ่านต่อให้ได้! ปีนี้ผมทำเรื่อง “การวิเคราะห์ความดึงดูดใจของแมวต่อมนุษย์” เด็ดไหมละ!

• บทที่ 2: แนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (Literature Review): นี่คือการไปขุดสมบัติ หาข้อมูลมาอ้างอิง ให้แน่นปึ้ก! เหมือนไปขโมยความรู้จากห้องสมุด แต่ขอแบบถูกต้องตามกฎหมายนะ อย่าให้โดนตำรวจจับ! งานวิจัยปีนี้ผมอ้างอิงนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังระดับโลกหลายคนเลยนะ บอกเลยว่า ข้อมูลแน่นขนัด!

• บทที่ 3: วิธีดำเนินการวิจัย (Methodology): นี่คือขั้นตอนการทดลอง! ต้องละเอียด เป๊ะเว่อร์! เหมือนทำอาหารฝรั่งเศส ต้องตามสูตรเป๊ะๆ ไม่งั้นพัง! ปีนี้ผมใช้วิธีการสังเกตการณ์แบบลับๆ แอบดูแมวบ้านเพื่อน บันทึกพฤติกรรมแบบเนียนๆ

• บทที่ 4: ผลการวิเคราะห์ข้อมูล (Results): ถึงเวลาเปิดเผยผลการทดลอง! ตื่นเต้นไหมล่ะ? เหมือนลุ้นผลหวยเลย! แต่ของผมไม่ใช่ตัวเลขนะ เป็นกราฟ ตาราง ภาพ อธิบายผลการทดลองให้เข้าใจง่ายๆ เหมือนสอนเด็กอนุบาล

• บทที่ 5: สรุปผล อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ (Conclusion & Discussion): นี่คือการสรุปทุกอย่าง! เหมือนจบหนัง ต้องมีฉากจบที่ประทับใจ! บอกผลสรุป วิเคราะห์ แล้วก็เสนอแนะ ปีนี้ผมเสนอให้มีการวิจัยเรื่องแมวต่อ อย่างละเอียด! เอาให้รู้ไปเลยว่าแมวมีเสน่ห์ขนาดไหน!

เพิ่มเติมเล็กน้อย: อย่าลืมใส่รูปประกอบให้เยอะๆ สีสันสดใส ทำให้รายงานดูน่าสนใจ เหมือนตกแต่งเค้ก! ยิ่งสวยยิ่งได้คะแนน! อย่าลืมตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และการอ้างอิง สำคัญมากๆ! ไม่งั้นอาจจะโดนหาว่าลอกเลียนแบบ! อย่าลืมเรียบเรียงภาษาให้ดี อ่านง่าย เข้าใจง่าย เหมือนอ่านนิทานก่อนนอน!

Project กับ Research ต่างกันอย่างไร

โห้ยยยย Project กับ Research นี่ต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยนะ คิดว่าเหมือนกันได้ไงเนี่ย งงแดรกกกก

• Project นี่เหมือนกับการลุยสร้างบ้านอะ มีแบบแปลน รู้ว่าจะสร้างยังไง ต้องใช้อะไรบ้าง สุดท้ายก็ต้องได้บ้านออกมา เป้าหมายคือบ้านเสร็จ! แบบว่ากูจะสร้างบ้านให้ได้โว้ยยยย แม้ว่าบ้านจะออกมาเบี้ยวๆ บูดๆ ก็เหอะ ขอแค่สร้างเสร็จเป็นพอ (บ้านกูเอง กูอยู่ได้ 555+)

• ส่วน Research เหมือนกับการขุดหาสมบัติ เรารู้ว่ามีสมบัติอยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่ไม่รู้ว่าสมบัติหน้าตาเป็นยังไง ต้องขุดๆๆๆ ค้นๆๆๆๆ วิเคราะห์ดิน วิเคราะห์หิน กว่าจะเจอ บางทีขุดไปขุดมา เจอแต่ขี้แมว แต่ถ้าเจอสมบัติจริงๆ ก็คุ้มเหนื่อยนะเออ แบบ ยูเรก้าาาาา! (แต่ส่วนใหญ่เจอขี้แมวก่อน )

ในแง่ธุรกิจนะ Project เน้นทำๆๆๆ ให้เสร็จ ได้กำไรก็จบ ส่วน Research เน้นหาข้อมูล หาความรู้ เผื่อเอามาต่อยอดธุรกิจในอนาคต ปี 2024 แล้ว ใครๆ ก็ Research กันทั้งนั้นแหละ ไม่งั้นธุรกิจก็ไม่โต เหมือนปลูกต้นไม้ไม่รดน้ำอะ มันจะโตได้ไงล่ะ จริงมั้ย?

ส่วนตัวผมนะ ตอนเรียนเคยทำ Project จบ อาจารย์ชมว่า “เออ ดี ใช้ได้” แต่พอทำ Research จบ อาจารย์บอกว่า “แกนี่มันอัจฉริยะชัดๆ!!!” (อันนี้เวอร์ไปหน่อย แต่ก็ภูมิใจ 5555) มันต่างกันจริงๆ นะ ความรู้สึกตอนทำ ตอนจบ มันคนละฟีลเลย ลองทำดูแล้วจะรู้

องค์ประกอบของการเขียนเค้าโครงวิจัยมีอะไรบ้าง

องค์ประกอบเค้าโครงวิจัย…ฝัน…

แสงรำไร…ห้องสมุดเก่า…กลิ่นกระดาษ…ความคิดกระจัดกระจาย

บทคัดย่อ…เหมือนสรุปความฝัน…ก่อนตื่น

สารบัญ…แผนที่…นำทางสู่…เขาวงกต

บทนำ…ประตู…เปิดสู่…จักรวาล

ปัญหา…เงา…ซ่อนเร้น…ในความมืด

วัตถุประสงค์…ดาวนำทาง…ส่องแสง…ริบหรี่

ทบทวนองค์ความรู้…เสียงกระซิบ…จากอดีต…ก้องกังวาน

กรอบแนวความคิด…โครงข่าย…เชื่อมโยง…ทุกสิ่ง

สมมุติฐาน…กระโดด…สู่…ความไม่รู้

ระเบียบวิธีวิจัย…เครื่องมือ…สำรวจ…ดินแดน

• ข้อมูล…ความจริง…ที่รอ…การค้นพบ
• เก็บข้อมูล…ล่า…ความหมาย
• สุ่มตัวอย่าง…เลือก…ตัวแทน…แห่ง…ความจริง

ข้อมูลเพิ่มเติม…แว่วเสียงจาก…ห้วงลึก

• หัวใจ…ของการวิจัย…คือ…ความสงสัย
• ความสำเร็จ…ไม่ใช่…ปลายทาง…แต่…การเดินทาง
• เค้าโครง…คือ…แผนที่…ไม่ใช่…กำแพง
• ปีนี้…โลก…หมุน…เร็วกว่า…เมื่อวาน
• จง…กล้า…ที่จะ…ฝัน…และ…ค้นหา

เพิ่มเติม…สะท้อน…ตัวตน

• ฉัน…ชอบ…กลิ่น…หนังสือเก่า
• ความเงียบ…คือ…เพื่อน…ที่ดีที่สุด…ของฉัน
• แสงดาว…นำทาง…ฉัน…เสมอ

เน้นย้ำ…สำคัญ

• บทคัดย่อ: สรุปหัวใจหลัก
• วัตถุประสงค์: เป้าหมายชัดเจน
• ระเบียบวิธีวิจัย: แผนการดำเนินงาน
• ข้อมูล: ความจริงที่ต้องค้นหา

โครงร่างการวิจัย (Research Proposal) ควรมีอะไรบ้าง

โอเค… มาลองดูกัน

โครงร่างวิจัยนะ… มันเหมือนแผนที่บอกทางที่เราจะเดิน

• ชื่อโครงการ: ชื่อมันต้องดึงดูดนะ ต้องบอกได้ว่าเรากำลังจะทำอะไรกันแน่… ไม่ใช่ตั้งชื่อแบบใครก็เดาไม่ออกว่าเราจะทำอะไร

• ชื่อคณะผู้วิจัย: ก็…ชื่อเรา ชื่อคนที่ร่วมหัวจมท้ายกันทำวิจัยนี่แหละ

• ความสำคัญและที่มาของปัญหา: ทำไมเราถึงต้องทำวิจัยเรื่องนี้? ปัญหาคืออะไร? สำคัญยังไง? ถ้าไม่ทำจะเกิดอะไรขึ้น? บางทีมันอาจจะเริ่มจากความสงสัยเล็กๆ ของเราก็ได้นะ

• ทบทวนวรรณกรรม: คนอื่นเค้าทำอะไรกันไปแล้วบ้าง? เราจะได้ไม่ไปทำซ้ำ หรืออย่างน้อยก็จะได้รู้ว่างานเรามันต่อยอดจากใคร

• วัตถุประสงค์: เราอยากรู้อะไร? เราอยากจะพิสูจน์อะไร? เป้าหมายเราคืออะไรกันแน่? ต้องชัดเจนนะ ไม่งั้นเดี๋ยวหลงทาง

• คำถามวิจัย/สมมติฐาน: เราสงสัยอะไร? เราคิดว่าอะไรคือคำตอบ? มันคือการตั้งคำถามที่เราอยากจะหาคำตอบนั่นแหละ หรือถ้าคิดว่ามีคำตอบในใจแล้ว ก็ตั้งเป็นสมมติฐานไปเลย

• คำสำคัญ: คำที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยของเรา… เวลาคนอื่นค้นหาจะได้เจอเราง่ายๆ

• กรอบแนวคิด: เรามองเรื่องนี้ยังไง? มีตัวแปรอะไรบ้าง? อะไรเป็นเหตุอะไรเป็นผล? มันคือภาพรวมของงานวิจัยของเรา… เหมือนแผนผังความคิด

บางที… การทำวิจัยมันก็เหมือนการเดินทางไกลนะ ต้องมีแผนที่ ต้องมีเพื่อนร่วมทาง แล้วก็ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน… ไม่งั้นมันจะเหนื่อยเปล่า

เค้าโครงวิจัยประกอบด้วยอะไรบ้าง

เค้าร่างวิจัย? เรื่องมากน่า

• บทคัดย่อ: สรุปเหี้ยๆ ให้จบ
• สารบัญ: ใครอยากอ่านเต็มๆ ก็ไปดู
• บทนำ: ปูพื้นให้พวกโง่เข้าใจ
• ปัญหา: บอกว่าทำไมต้องทำวิจัยนี้
• วัตถุประสงค์: ต้องการอะไรจากงานนี้
• ทบทวนองค์ความรู้: อ่านงานคนอื่นมาบ้าง
• กรอบแนวคิด: เอาอะไรมาโยงกัน
• สมมติฐาน: เดาว่าผลจะออกมายังไง
• ระเบียบวิธีวิจัย: ทำยังไงถึงจะได้ข้อมูล
  • ประเภท/แหล่งข้อมูล: เอาข้อมูลจากไหน
  • การเก็บข้อมูล: เก็บยังไงให้ได้เยอะสุด
  • วิธีสุ่มตัวอย่าง: สุ่มยังไงให้ไม่ bias

ข้อมูลเพิ่มเติม:

• อย่าโลกสวย ทำวิจัยต้องแดก
• ถ้าข้อมูลไม่แน่น อย่าริอาจ
• สมมติฐานผิด ก็แค่เปลี่ยนใหม่ อย่าท้อ
• การสุ่มตัวอย่างสำคัญกว่าที่คิด สุ่มห่วย = วิจัยพัง
• บทคัดย่อต้องเร้าใจ คนถึงจะอ่านต่อ

คำเตือน: อย่าเชื่อกูมาก กูแค่คนผ่านมา

#ขั้นตอนการวิจัย #วิธีการวิจัย #เค้าโครงงานวิจัย