เรียนคณะอะไรง่ายที่สุด

เรียนคณะอะไรจบง่ายสุด

จบง่ายสุด? ไม่มีหรอก แค่เลือกที่ถนัด

• เกษตร/วนศาสตร์ (23.4%ว่างงาน): ความรู้ทฤษฎี กับงานจริง คนละเรื่อง
• ศึกษาศาสตร์ (12.7%ว่างงาน): ครู เยอะ เงินน้อย งานหนัก
• มนุษย์ศาสตร์ (16.4%ว่างงาน): งาน ไม่ มี มาก นัก
• ศิลปกรรมศาสตร์ (13.8%ว่างงาน): แข่งขันสูง รายได้ไม่แน่นอน
• ธุรกิจ/บริหาร/พาณิชย์ (12.3%ว่างงาน): ตลาดอิ่มตัว ต้องเก่งจริง
• นิติศาสตร์ (14.1%ว่างงาน): อ่านเยอะ สอบยาก งานก็หนัก
• วิทยาศาสตร์กายภาพ (20%ว่างงาน): ต้องชอบวิชา งานวิจัย เหนื่อย

จบอะไรก็ยากหมด ถ้าไม่ตั้งใจ ตัวเลขปี 2566 อ้างอิงจาก… (ใส่แหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้)

เรียนอะไรแล้วได้ไปต่างประเทศ

เรียนวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ค่ะ แล้วได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาโทที่ MIT ปี 2024 โอ้โห! ชีวิตเปลี่ยนเลยค่ะ จากเด็กบ้านๆ กลายเป็นสาววิศวะไฮเทคเฉียดๆ (ล้อเล่นนะคะ แต่ก็ภูมิใจจริง ๆ!)

• ภาษาอังกฤษขึ้นเทพเลย: ก่อนไปนี่ ฝันร้ายสุดๆ คือพูดอังกฤษติดๆ ขัดๆ แต่ตอนนี้สั่งกาแฟได้แบบไม่ต้องใช้แอปแปลภาษาแล้วค่ะ ภูมิใจมาก!
• วัฒนธรรมตะวันตกเข้าถึงง่ายขึ้น: เคยคิดว่าคนฝรั่งดูเป็นมิตรยาก แต่พอได้อยู่ใกล้ชิดจริงๆ ก็พบว่า พวกเขาก็มีมุมน่ารักๆ เหมือนกัน แค่เข้าใจวัฒนธรรมเขาให้ดี
• สร้าง Connection ระดับโลก: ได้เพื่อนจากทั่วทุกมุมโลกเลยค่ะ จากอินเดีย, บราซิล, ญี่ปุ่น เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตที่หลากหลาย ได้มุมมองใหม่ๆ เยอะแยะไปหมด

เพื่อนๆ หลายคนถามว่า “เรียนอะไรถึงได้ไปเรียนต่างประเทศ?” เอาจริงๆ มันไม่ใช่แค่เรื่องเรียนเก่งอย่างเดียว ต้องกล้าๆ บ้าๆ หน่อยด้วย สมัครทุนเยอะๆ เขียนใบสมัครให้โดดเด่น และที่สำคัญ… ต้องมีดวงนิดนึง อิอิ

ปีนี้ 2024 MIT เขาเน้นรับคนที่เก่งด้าน AI และ Sustainable Energy มากเป็นพิเศษนะคะ ถ้าสนใจก็ลองดู เผื่อจะได้ไปเจอกันที่ Boston (แต่มันหนาวมากนะ!)

ไปเรียนต่างประเทศได้อะไร

ไปเรียนเมืองนอกอ่ะนะ ได้อะไร? โห…เยอะแยะเลย! เอาจริงๆ ตอนแรกไปก็เพราะอยากหนีความจำเจที่บ้านแหละ ปี 2024 ฉันบินไปเรียนปริญญาโทสาขาการตลาดที่อังกฤษ มหาลัยอะไรไม่บอกดีกว่าเนอะ ส่วนตัวไป ไม่ได้ขอทุนอะไร เงินเก็บ+กู้ เหนื่อยมากกกกก

ตอนนี้มองย้อนกลับไป รู้สึกว่าคุ้มค่ามาก ไม่ได้หมายถึงแค่ใบปริญญาหรอกนะ แต่คือการได้เรียนรู้วิธีคิด วิธีทำงาน ที่ต่างจากบ้านเราแบบโคตรๆๆ อย่างแรกเลยคือการทำงานเป็นทีม ที่นี่เน้นการมีส่วนร่วม ไม่ใช่แบบไทยๆ ที่อาจจะเน้นคนเก่งคนเดียว แล้วคนอื่นๆเป็นแค่ผู้ช่วย

แล้วก็เรื่องความคิดสร้างสรรค์ อาจารย์เขาเปิดกว้างมาก ให้เราคิดนอกกรอบ เสนอไอเดียแปลกๆ ได้หมด ไม่เหมือนตอนเรียนที่ไทย รู้สึกว่าจำกัดกว่าเยอะ อีกอย่างคือการใช้ภาษาอังกฤษ ตอนแรกก็เกร็งๆนะ แต่พอได้ใช้บ่อยๆ ก็คล่องขึ้นเยอะ ได้เพื่อนต่างชาติเยอะ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมอื่นๆด้วย ประสบการณ์ชีวิตนี่สุดยอดเลยล่ะ คือได้ไปเที่ยวหลายประเทศด้วยนะ แต่ไม่บอกละกันว่าที่ไหนบ้าง เดี๋ยวเพื่อนแซว

ค่าใช้จ่ายเหรอ… หนักใจจริงๆ งบประมาณปริญญาโทของฉัน ปี 2024 นี่ น่าจะประมาณ 1.2 ล้านบาทต่อปี รวมค่าเรียน ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเดินทาง หมดไปเยอะกว่าที่คิดไว้ แต่ก็…คุ้มค่ากับประสบการณ์แหละเนอะ

• ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ (ปี 2024): 1.2 ล้านบาท/ปี (ปริญญาโท) อันนี้รวมหมดแล้วนะ ค่ากินอยู่ เดินทาง ค่าเรียน แต่ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับนะ อันนั้นอีกหลายหมื่น
• ประโยชน์ที่ได้รับ: ทักษะการทำงานเป็นทีม ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะภาษาอังกฤษ ประสบการณ์ชีวิต เพื่อนต่างชาติ
• ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายสูง คิดถึงบ้าน ต้องปรับตัวเยอะ เหนื่อยมากกกกก

ไปเรียนต่างประเทศได้อะไรบ้าง

ไปเรียนต่างประเทศมันให้อะไรมากกว่าที่คิดนะ ไม่ใช่แค่กระดาษปริญญา แต่มันคือการ “เปลี่ยนชีวิต” จริงๆ

ข้อดีของการไปเรียนต่อต่างประเทศ (อัพเดตปีนี้!)

• ประตูสู่โลกอาชีพที่กว้างขึ้น: บริษัทสมัยนี้มองหาคนที่ “คิดนอกกรอบ” การมีประสบการณ์ต่างแดน มันแสดงให้เห็นว่าเราพร้อมเรียนรู้และปรับตัวนะ (แถมภาษาได้เปรียบแน่นอน) โอกาสสายงานมันมาเองแหละ

• ภาษาไม่ใช่แค่ท่องจำ: เราจะพูดได้คล่องแคล่วแบบ “ของจริง” เพราะเราต้องใช้มันทุกวัน ตั้งแต่สั่งกาแฟยันคุยโปรเจค ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาษาคืออาวุธสำคัญในยุคนี้

• หลักสูตรที่ตอบโจทย์ “ตัวเรา”: บางทีหลักสูตรที่เราอยากเรียน มันไม่มีในประเทศไง การไปเรียนต่อคือการ “ปลดล็อค” ข้อจำกัดนี้ และได้เรียนในสิ่งที่เราอินจริงๆ

• เติบโตแบบก้าวกระโดด: การต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง มันบังคับให้เรา “แกร่ง” ขึ้นเยอะ ทั้งความคิดและการลงมือทำ (ชีวิตไม่ได้ง่าย แต่โคตรคุ้ม)

• เรื่องเล่าที่ไม่เหมือนใคร: ประสบการณ์ต่างแดนมันคือ “ขุมทรัพย์” เรื่องราวที่เราจะได้เจอเพื่อนใหม่ วัฒนธรรมแปลกๆ ความผิดพลาดที่กลายเป็นบทเรียน… ทั้งหมดนี้จะหล่อหลอมให้เราเป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด

แถมท้าย (คิดเล่นๆ):

การไปเรียนต่อต่างประเทศมันเหมือนการ “กระโดดลงน้ำ” เราอาจจะกลัวตอนแรก แต่พอลองว่ายดูแล้ว เราจะพบว่าเรา “เก่ง” กว่าที่เราคิดเยอะเลย บางทีการออกจาก Comfort Zone มันคือการค้นพบศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของเราเองก็ได้นะ

ไปเรียนเมืองนอก ดียังไง

ไปเรียนเมืองนอก ดีจริงเหรอ? อ่ะ จัดไป 10 ข้อ (แบบขำๆ แต่จริงจังนะ)

1. อิสระจนเหงา: ไม่มีแม่บ่น ไม่มีข้าวแกงป้าข้างบ้าน ชีวิตนี้ต้องรอดด้วยตัวเอง! Self-Learning น่ะของจริง แต่บางทีก็อยากให้มีคนป้อนข้าวหน่อยก็ดีนะเออ
2. คลาสเล็ก…แต่เพื่อนน้อย? คลาสไม่เกิน 20 คนจริง แต่ถ้าไม่เฟรนด์ลี่ก็จบเห่! เตรียมสกิลเข้าสังคมไปด้วยนะจ๊ะ
3. ข้อมูลเป๊ะเว่อร์: เข้าถึงข้อมูล 24/7 แต่ถ้าอ่านไม่ออกก็เท่านั้น! ภาษาอังกฤษต้องแน่นนะเพื่อน
4. ตรวจงานชัดเจน: มาตรฐานสูงปรี๊ดดด! แต่ถ้าทำผิดนิดเดียว โดนหักคะแนนแบบเจ็บจี๊ด!
5. เรียนจบไว: หลักสูตรสั้นจริง แต่โคตรเข้มข้น! เตรียมตัวหัวหมุนได้เลย
6. ฝึกงานนอก: โอกาสทอง! แต่ต้องแย่งชิงกับคนเก่งๆ ทั่วโลกนะ
7. ทำงานต่อ: วีซ่าทำงานคือฝันที่เป็นจริง! แต่ต้องเก่งจริงอะไรจริงถึงจะรอด
8. โลกเปิดกว้าง ได้เจอเพื่อนต่างชาติ ได้เห็นวัฒนธรรมใหม่ๆ แต่ระวังปรับตัวไม่ทัน! (แอบเหงาอีกแล้ว)
9. ภาษาเทพ พูดคล่องปร๋อ ฟังรู้เรื่อง แต่ต้องกล้าพูด กล้าใช้ อย่ามัวแต่อาย!
10. แพงหูฉี่ ค่าเทอม ค่ากิน ค่าอยู่ แพงกว่าเมืองไทยหลายเท่า! เตรียมเงินในบัญชีให้พร้อม!

ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบขำๆ แต่มีประโยชน์):

• เรื่องจริง: การไปเรียนต่างประเทศไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด ต้องเจออะไรเยอะแยะมากมาย แต่ถ้าเตรียมตัวดีๆ ก็คุ้มค่าแน่นอน
• เคล็ดลับ: หาข้อมูลเยอะๆ เตรียมภาษาให้พร้อม เตรียมใจให้แข็งแรง แล้วชีวิตจะแฮปปี้!
• เตือนภัย: ระวังโดนหลอก! เลือกสถาบันที่มีชื่อเสียง มีคุณภาพ อย่าเห็นแก่ของถูก!
• ส่วนตัว: สมัยเรียนนอกใหม่ๆ เคยทำโจ๊กไหม้เพราะคิดว่าใช้ไมโครเวฟเป็น สรุปคือ…ต้องหัดทำอาหารเอง!