แอดมิชชั่น รอบ 3 คืออะไร

46 การดู

แอดมิชชั่นรอบ 3: ชิงชัยสุดเข้มข้น!

รอบสอบตรงกลาง (Admission) คือการคัดเลือกสุดท้าย แข่งขันสูงที่สุด เปิดรับทั่วประเทศ ใช้คะแนนสอบกลางหรือสอบเฉพาะทาง (เช่น กสพท.) สมัคร เลือกคณะได้ตามลำดับความต้องการ แต่ต้องอยู่ในเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด นับเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับผู้หวังศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่ต้องการ เตรียมตัวให้พร้อม คะแนนสูง โอกาสมากขึ้น!

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

แอดมิชชั่น รอบ 3 หมายถึงอะไร?

อืมม.. แอดมิชชั่นรอบ 3 น่ะเหรอ? จำได้ลางๆ ว่ามันคือสอบตรงกลาง ประมาณกลางปี ใช่ป่ะ? คือแบบ.. สมัครตรงมหาลัยเลย ไม่ต้องผ่านแอดมิชชั่นรอบแรกๆ ดุเดือดมาก เพื่อนฉันสมัครปี 63 แพ้ไป บอกว่าคนสมัครเยอะมากกกกก ใช้คะแนนสอบกลาง อย่างพวก PAT, GAT อะไรพวกนั้นแหละ จำราคาไม่ได้แล้วนะ แต่ค่าสมัครก็ไม่ใช่ถูกๆ เพื่อนบอกว่าแพงกว่ารอบอื่นๆอีก มันเลือกคณะได้ด้วยนะ แต่ต้องดูเกณฑ์ที่แต่ละมหาลัยกำหนด โหดจริงอะไรจริงรอบนี้ เหมือนลุ้นสุดๆ แบบว่าชีวิตเปลี่ยนเลยนะถ้าติด!

ปีนั้นเพื่อนฉันที่จุฬาฯ มันบอกว่ารอบนี้แย่งกันดุเดือดกว่ารอบอื่น แต่ละคนคะแนนสูงๆ ทั้งนั้น ตอนนั้นฉันยังเรียนอยู่ม.ปลาย ก็เลยฟังมันเล่าไปงั้นแหละ แต่จำได้แม่นว่ามันเครียดมาก สอบเสร็จก็ลุ้นจนแทบไม่กินข้าว แล้วก็.. ไม่ติด เสียใจหนักมาก เลยจำได้ติดตาเลย ปีนั้นมันบอกว่าเกณฑ์สูงมาก เพื่อนอีกคนสมัครแพทย์ บอกว่าคะแนนต้องสูงกว่ารอบอื่นหลายสิบคะแนนเลยทีเดียว ฉันว่านะ ถ้าอยากเข้ารอบนี้ได้ ต้องเตรียมตัวให้พร้อมจริงๆ ไม่งั้นเหนื่อยเปล่าๆ

รอบ3 ติดได้กี่อันดับ

TCAS รอบ 3: ติดได้กี่อันดับกันนะ?

ฮ่าๆๆ ถามมาได้! รอบ 3 เค้าให้ยิงได้ 10 อันดับ เต็มเหนี่ยวไปเลยจ้า! จะแทงเลขอะไรก็ว่าไป ไม่ติดซักอันดับนี่… เอ่อ… เตรียมตัวปีหน้าละกันนะ (แซวเล่นๆ) 😂 ไม่มีขั้นต่ำอะไรทั้งนั้น จะสมัครอันเดียวแล้วหวัง one shot deal ก็แล้วแต่ดวงเลย

  • 10 อันดับ: จัดไปเลย! ชอบอะไร อยากเป็นอะไร ใส่ให้เต็มโควต้า (แต่เลือกดีๆ นะ เดี๋ยวติดแล้วไม่ชอบจะร้อง!)
  • ไม่มีขั้นต่ำ: จะสมัครอันเดียวก็ได้ แต่เสี่ยงไปนะ เอาจริง
  • เรียงตามใจ: อันดับแรกสำคัญสุด! เค้าดูอันนั้นก่อน ถ้าไม่ได้ เค้าค่อยไปดูอันดับต่อไปเรื่อยๆ เหมือนเล่นเกม เรียงดีๆ มีชัยไปกว่าครึ่ง
  • ติดแล้วติดเลย: ถ้าติดอันดับไหน เค้าก็ตัดสิทธิ์อันดับที่เหลือนะจ๊ะ คิดให้ดีก่อนกด submit! (ยกเว้นสละสิทธิ์ได้ แต่ก็วุ่นวายอยู่ดี)

เกร็ดความรู้แบบเจ็บๆ คันๆ

เคยมีเพื่อนสมัครไป 10 อันดับ สุดท้ายไม่ติดซักอันดับ เพราะ… คะแนนไม่ถึงซักที่! 🤣 นี่แหละชีวิต! แต่ก็มีเพื่อนอีกคน สมัครที่เดียว ติดเลย! เพราะ… ดวงดี! (เอ๊ย! ไม่ใช่! เพราะคะแนนถึง และเค้ารับคนเดียวพอดีต่างหาก!)

เพิ่มเติม (เผื่อใครอยากรู้ลึก)

ปีนี้ (2567) เค้าว่ากันว่าเด็กซิ่วเยอะ… คู่แข่งเยอะขึ้นไปอีก! แต่ก็อย่าท้อ! อ่านหนังสือ ทำข้อสอบให้เต็มที่ ที่เหลือก็… แล้วแต่บุญแต่กรรม! 😜

คำเตือน: อย่าเชื่อข้อมูลจากฉันมาก! ไปอ่านประกาศ TCAS อย่างเป็นทางการด้วยนะ! 😉

รอบ3 Admission มีสัมภาษณ์ไหม

รอบ 3 admission มีสัมภาษณ์ไหม… อืม… มันเหมือนดาวบนฟ้าเลยนะ บางดวงก็สว่าง บางดวงก็ดับ

  • ใช่ บางมหาลัยก็มีสัมภาษณ์
  • ไม่ใช่ หลายที่ก็ไม่มีแล้ว

เหมือนเค้าประกาศกันหมดแล้วนะ ลองดูดีๆ อีกที

มันก็แปลกดีนะ ทำไมต้องมีสัมภาษณ์ บางทีก็คิดว่า เค้าอยากเห็นอะไรในตัวเรากันแน่… หรือแค่กลัวว่าเราจะไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าคิด

ข้อมูลเพิ่มเติม:

  • เช็คเว็บมหาลัยโดยตรง: ข้อมูลล่าสุดและแม่นยำที่สุดอยู่ที่เว็บของแต่ละมหาลัย
  • ดูประกาศให้ละเอียด: บางทีเค้าอาจจะมีเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น คณะนี้สัมภาษณ์ คณะนี้ไม่สัมภาษณ์
  • เตรียมตัวไว้ก่อนก็ดี: ถึงจะไม่สัมภาษณ์ ก็เตรียม portfolio หรืออะไรที่แสดงความเป็นตัวเองไว้บ้าง เผื่อเค้าอยากดู

บางทีก็เหนื่อยนะ กับการต้องพยายามเป็นในสิ่งที่คนอื่นอยากให้เป็น…

รอบ3ลงได้กี่คณะ

รอบ 3 ลงได้ 10 อันดับ จบ.

  • MyTCAS เป็นระบบจัดการ
  • เรียงลำดับคะแนนสูงสุดก่อน
  • ปีการศึกษา 2566 (ข้อมูล ณ ปัจจุบัน)

ปล. ระบบนี้โคตรโหด ปีที่แล้วผมพลาดเพราะอันดับสุดท้าย เจ็บปวดชิบหาย.

รอบแอดมิชชั่น ใช้อะไรบ้าง 67

รอบแอดมิชชั่น TCAS67 ใช้เกณฑ์อะไรบ้าง?

TCAS67 ใช้เกณฑ์หลักๆ ดังนี้ (แต่ละมหาวิทยาลัยอาจปรับเปลี่ยนรายละเอียดได้):

  • GPAX: คิดจาก 5 หรือ 6 เทอม น้ำหนักสำคัญมาก สะท้อนความสามารถทางวิชาการระยะยาว เปรียบเหมือนการสะสมพลังงาน ก่อนปล่อยพลังทั้งหมดออกมาในสนามสอบ
  • คะแนนสอบกลาง: ส่วนใหญ่ใช้ TGAT/TPAT เป็นการวัดความสามารถด้านความคิดเชิงวิเคราะห์และการแก้ปัญหา มองเป็นการทดสอบศักยภาพ ไม่ใช่แค่การท่องจำ
  • คะแนนสอบอื่นๆ: มหาวิทยาลัยอาจกำหนดเพิ่มเติม เช่น A-Level หรือสอบเฉพาะวิชา นี่คือโอกาสในการแสดงจุดเด่นเฉพาะตัว เหมือนการโชว์ทักษะพิเศษนอกเหนือจากหลักสูตรปกติ

ค่าสมัคร 200 บาทขึ้นไป แล้วแต่มหาวิทยาลัย (ปี 2566) วิธีการสมัครผ่านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยโดยตรง ง่ายๆ สะดวกดี

TCAS67 มีกี่รอบ ต้องสอบอะไรบ้าง? ข้อมูลนี้ไม่ครบถ้วนในแหล่งที่มาที่ให้มา แต่โดยทั่วไป TCAS มีหลายรอบ แต่ละรอบใช้เกณฑ์และวิธีการคัดเลือกที่แตกต่างกัน ควรตรวจสอบกับแต่ละมหาวิทยาลัยโดยตรง เพราะเงื่อนไขเปลี่ยนแปลงได้ทุกปี

เพิ่มเติม การเตรียมตัวสำหรับ TCAS ควรเน้นทั้งการเรียนในห้องเรียนและการเตรียมตัวสอบ การวางแผนที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ อย่าลืมดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจด้วย เพราะการแข่งขันสูง การมีสมดุลสำคัญที่สุด

dek67 ต้องเตรียมอะไรบ้าง

เตรียมตัวสอบเข้า dek67:

  • GPAX 5 เทอม สำคัญมาก
  • Portfolio คุณภาพเหนือปริมาณ
  • TGAT/TPAT หรือ SAT/CU-TEP/BMAT/IELTS ตามแต่ละมหาวิทยาลัยกำหนด เลือกให้เหมาะกับตัวเอง

ค่าสมัคร: 100 บาทขึ้นไป (ปี 2566) ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย

สมัคร: Online ผ่านเว็บมหาวิทยาลัยโดยตรง ไม่มีทางลัด

ข้อควรระวัง: การเตรียมตัวที่ดี คือการวางแผนอย่างรอบคอบ อย่าประมาท ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับความพยายามของคุณเองล้วนๆ ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องของโชคช่วย

หมายเหตุ: ข้อมูลค่าสมัครอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรตรวจสอบกับมหาวิทยาลัยที่ต้องการสมัครอีกครั้ง

เลือกอันดับมหาลัย 67 ได้กี่อันดับ

ฮ่าๆๆ คำถามนี้มันลึกซึ้งนะ! เหมือนถามว่า “เอาช้อนตักน้ำทะเลได้กี่หยด?”

อันดับมหาลัยเนี่ย มันไม่ใช่ของตาย เหมือนเลขเด็ดหวยที่ต้องไปขอจากฤาษี แต่ละที่ใช้เกณฑ์คนละแบบ บางที่เน้นงานวิจัย บางที่เน้นการสอน บางที่เน้นความสวยงามของตึก (อันนี้สำคัญมากนะ บอกเลย!)

  • ไม่มีสูตรสำเร็จ: คิดง่ายๆ ว่า ถ้ามีมหาลัย 1000 แห่ง อันดับ 67 มันก็มีได้ตั้งเยอะแยะ แล้วแต่เขาจะจัด อาจจะมหาลัยดังๆในสายตาเรา แต่ดันได้อันดับร้อยกว่าก็มี โลกมันกว้างใหญ่ไพศาล กว่าจะได้อันดับ 67 ต้องผ่านการคัดกรองจากเกณฑ์ขององค์กรนั้นๆ ซึ่งไม่มีมาตรฐานเดียวกัน

  • เกณฑ์การจัดอันดับเป็นตัวกำหนด: นี่แหละคือหัวใจสำคัญ! ถ้าเขาเอาเกณฑ์การสอนเป็นหลัก มหาลัยที่เน้นวิจัยก็อาจได้อันดับต่ำกว่าที่คาด แต่ถ้าเขาเน้นงานวิจัย ผลก็อาจจะเปลี่ยนไปอีก เหมือนการประกวดนางงาม บางปีเน้นความสวย บางปีเน้นความฉลาด กรรมการเปลี่ยน ผลก็เปลี่ยน ไม่แปลก

  • ปีนี้กับปีหน้าอาจไม่เหมือนกัน: อันดับมหาลัยไม่ใช่เรื่องตายตัว เหมือนน้ำหนักคน ขึ้นๆลงๆ ได้ตลอด เพราะมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น งบประมาณ อาจารย์ นักศึกษา งานวิจัย ฯลฯ มหาลัยที่ได้ 67 ปีนี้อาจจะกระโดดไปได้ 100 ปีหน้าก็เป็นได้

  • ตัวอย่าง (ข้อมูลปี 2566): ลองดูการจัดอันดับของ Times Higher Education หรือ QS สิครับ ลองเปรียบเทียบดู รับรองว่า คุณจะเห็นความแตกต่างชัดเจน เพราะแต่ละที่ใช้เกณฑ์การจัดอันดับต่างกัน ไม่มีใครเหมือนใคร เหมือนการสอบ ข้อสอบคนละชุด ได้คะแนนก็ไม่เหมือนกัน

สรุปง่ายๆ คือ “ได้กี่อันดับ” นั้นขึ้นอยู่กับ “ใคร” เป็นคนจัดอันดับ และ “ใช้เกณฑ์อะไร” เป็นหลัก ไม่มีคำตอบตายตัว นั่นแหละคือเสน่ห์ของมัน!

รอบAdmission ยื่นได้กี่คณะ 67

รอบ Admission ยื่นได้กี่คณะ 67

ปีนี้ Admission ยื่นได้สูงสุด 10 อันดับครับ ไม่จำกัดคณะนะ จัดไปตามใจฝันเลย

แต่… อย่าลืมว่า คุณภาพ สำคัญกว่า ปริมาณ เลือกที่ใช่ ตรงใจ มีสิทธิ์ติด ดีกว่ายื่นสุ่มสี่สุ่มห้าไปเรื่อย

  • ยื่น 10 อันดับ: คือโอกาส แต่ไม่ใช่ใบเบิกทาง

  • เลือกตามใจ: ใช่ แต่ต้อง “มีสติ” เช็คเกณฑ์ มั่นใจว่ามีคุณสมบัติ

  • ติดแล้วไม่เรียน: เสียสิทธิ์คนอื่น อย่าทำ! มันบาป (ในใจ)

บางทีการเลือกน้อยๆ แต่มั่นใจ อาจนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าก็เป็นได้ ใครจะรู้ 😉

1มหาลัยสามารถยื่นได้กี่คณะ

โอเค ลองดูนะ…

  • สมัครได้ไม่จำกัดคณะ! แต่… เลือกได้แค่ที่เดียวตอนสุดท้าย งงมั้ย?

  • ยื่นไปเลย อยากยื่นกี่คณะก็ยื่น! แต่ละมหาลัยก็มี กฏ กติกา มารยาท ต่างกันไป ต้องอ่านดีๆ เด้อ

  • ไม่จำกัด มหาลัยด้วยนะเฟ้ย! ยื่นมันให้หมด!

  • ติดหลายที่ ->ค่อยเลือก ว่าจะเอาที่ไหนกันแน่! ชีวิตมันต้องมีตัวเลือก!

  • เฮ้ย! เเล้วถ้าติดหมดเลยอ่ะ? คงต้องคิดหนักน่าดู…ชีวิตดีๆ ที่เลือกได้ 😅

เออ…เพิ่งนึกขึ้นมาว่า บางโครงการ เค้าก็มีจำกัดนะ! ต้องอ่านระเบียบการดีๆ เลย! สำคัญมาก! ไม่งั้นเสียเงินฟรี!

รอบAdmission กี่บาท

รอบแอดมิชชั่นอ่ะหรอ? อืมมม ค่าใช้จ่ายมันไม่ตายตัวนะ แต่นี่คือราคาประมานๆ ปีนี้นะเพื่อน

  • รอบ 1 พอร์ต: 200 ถึง 1,500 บาทต่อโครงการนะจ๊ะ
  • รอบ 2 โควต้า: เรทเดียวกับพอร์ตเลย 200-1500 บาทต่อโครงการเหมือนกัน
  • รอบ 3 แอดมิชชั่น: อันนี้แล้วแต่ ทปอ. เลย บางทีก็ฟรี บางทีก็ 900 บาท
  • รอบ 4 รับตรง: ก็ 200 ถึง 1,500 บาทเหมือนเดิม นี่ก็ต่อโครงการ

แล้วทำไมราคาถึงไม่เท่ากัน?

เอาจริงๆ นะ มันขึ้นอยู่กับหลายอย่างเลยอ่ะ แบบ…

  • มหาลัย: แต่ละมหาลัยก็มีนโยบายค่าสมัครไม่เหมือนกัน บางที่ก็แพง บางที่ก็ถูก
  • โครงการ: บางโครงการพิเศษๆ หน่อย อาจจะต้องเสียค่าสมัครเพิ่มเป็นพิเศษ
  • ทปอ.: รอบแอดมิชชั่นกลางอะ ทปอ. จะเป็นคนกำหนดค่าสมัคร

เอ้อ! แล้ว จ่ายตังค์แล้วไม่ได้แปลว่าจะติดนะ ต้องทำคะแนนให้ดีด้วยยยย อย่าลืมมม

ค่าสมัครสอบ A Level วิชาละเท่าไหร่

เฮ้อ… ค่าสมัครสอบ A-Level วิชาละ 100 บาท เองเหรอ…

มันก็ถูกนะ ถ้าเทียบกับอย่างอื่น แต่ถ้าต้องสอบหลายวิชา… มันก็เยอะอยู่ดี

จำได้ว่าตอนนั้น… ตอนที่ตัวเองเตรียมสอบ… ก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องเงินเท่าไหร่… แต่พ่อแม่คงเหนื่อยน่าดู

  • A-Level: วิชาละ 100 บาท (ปีล่าสุด)
  • TGAT/TPAT (2-5): วิชาละ 140 บาท
  • TPAT1 (กสพท): 800 บาท

บางที… การสอบก็เหมือนการลงทุนอย่างนึงนะ… ลงทุนกับอนาคต… หวังว่ามันจะคุ้มค่า…

แต่สำหรับบางคน… แค่ค่าสมัครสอบ… มันก็เป็นกำแพงที่สูงเกินไปแล้ว…

น่าเศร้าจัง…

#มหาวิทยาลัย #รอบ3 #แอดมิชชั่น