SET 50 วัดจากอะไร

SET50 วัดจากอะไร? มากกว่าแค่ราคาตลาด

ดัชนี SET50 เป็นดัชนีที่หลายคนคุ้นเคยและใช้เป็นตัวชี้วัดทิศทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) แต่อะไรคือปัจจัยสำคัญที่นำมาคำนวณดัชนีนี้? คำตอบนั้นไม่ได้เรียบง่ายเพียงแค่ “มูลค่าตามราคาตลาด” อย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะ SET50 มีความซับซ้อนมากกว่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึง SET50 Free Float (SET50FF) ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่นิยมใช้กันมากขึ้นในปัจจุบัน

SET50 เลือกหุ้นขนาดใหญ่ 50 บริษัทที่มีสภาพคล่องสูง โดยพิจารณาจากมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) เป็นหลัก แต่ที่แตกต่างคือ SET50FF ไม่ได้ ใช้มูลค่าตลาดทั้งหมดของบริษัทนั้นๆ มาคำนวณโดยตรง แต่จะใช้ มูลค่าตามราคาตลาดที่ปรับด้วยสัดส่วนการถือครองของนักลงทุนรายย่อย (Free Float) นั่นหมายความว่า หุ้นที่อยู่ภายใต้การถือครองของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เช่น รัฐบาล บริษัทแม่ หรือกลุ่มทุน จะถูกหักออกจากการคำนวณ

ทำไมต้องใช้ Free Float? เพราะสัดส่วนการถือครองของนักลงทุนรายใหญ่สามารถบิดเบือนภาพสะท้อนความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นได้ ลองนึกภาพว่าบริษัทหนึ่งมีมูลค่าตามราคาตลาดสูงมาก แต่หุ้นส่วนใหญ่ถูกถือครองโดยกลุ่มทุนเพียงไม่กี่ราย นักลงทุนรายย่อยแทบไม่มีโอกาสซื้อขาย การใช้มูลค่าตลาดทั้งหมดมาคำนวณดัชนี จึงอาจไม่สะท้อนความเป็นจริงของตลาดได้อย่างแท้จริง SET50FF จึงแก้ปัญหานี้ด้วยการคำนวณจากส่วนของหุ้นที่ซื้อขายได้อย่างอิสระ ทำให้ดัชนีมีความแม่นยำและสะท้อนภาพรวมของตลาดได้ดียิ่งขึ้น

ดังนั้น SET50FF จึงเป็นตัวแทนของหุ้น Blue Chip ที่นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงและซื้อขายได้จริง ทำให้ดัชนีนี้เหมาะสำหรับการวิเคราะห์การลงทุนในระยะยาว และเป็นตัวชี้วัดความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย อย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าการพิจารณาเพียงแค่ราคาตลาดรวมของหุ้น 50 บริษัท อย่างผิวเผิน

สรุปได้ว่า SET50 วัดจากมูลค่าตามราคาตลาดของหุ้น 50 บริษัท แต่ SET50FF ซึ่งเป็นดัชนีที่ใช้กันแพร่หลาย จะคำนวณจากมูลค่าตามราคาตลาดที่ปรับด้วยสัดส่วนการถือครองของนักลงทุนรายย่อย เพื่อให้ได้ภาพสะท้อนการเคลื่อนไหวของตลาดที่แม่นยำและเป็นจริงมากขึ้น เน้นความเคลื่อนไหวของหุ้นที่ซื้อขายได้อย่างอิสระ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อนักลงทุนทุกระดับ.

#ดัชนี Set50 #ภาคธุรกิจ #หุ้นขนาดใหญ่