เว็บไซต์ส่วนตัว มีอะไรบ้าง

เว็บส่วนตัว (Personal Site) คืออะไร

เว็บส่วนตัวน่ะเหรอ? คิดง่ายๆก็เหมือนห้องส่วนตัวออนไลน์ของคุณไง! แต่แทนที่จะเป็นห้องที่เก็บของเก่าๆ มันเป็นพื้นที่แสดงตัวตนของคุณ บอกเล่าเรื่องราว และโชว์ความสามารถให้โลกรู้! สมัยก่อนอาจจะเหมือนสมุดไดอารี่ดิจิทัล แต่เดี๋ยวนี้มันพัฒนาไปไกลกว่านั้นเยอะ กลายเป็นพอร์ตโฟลิโอ เป็นบล็อก หรือแม้แต่เป็นร้านค้าออนไลน์เล็กๆของคุณเองก็ได้นะ สุดแท้แต่จะออกแบบ

• เหมือนบ้านหลังเล็กๆ: แต่ละคนตกแต่งแตกต่างกัน บางคนเน้นความเรียบหรู บางคนเน้นความน่ารัก แล้วแต่สไตล์!
• ไม่ใช่แค่สมุดบันทึก: มันสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ อยากโชว์ภาพวาด? เขียนบทความ? ขายสินค้า? หมดปัญหา!
• ตัวอย่างที่เจ๋งๆ: ลองเสิร์ชดูผลงานของนักออกแบบอิสระ หรือศิลปิน พวกเขาใช้เว็บส่วนตัวเป็นเครื่องมือสำคัญในการโปรโมทตัวเองเลยล่ะ (ปี 2024 นี้ ลองดูเว็บไซต์ของเหล่า Influencer ดังๆ ได้ไอเดียเพียบ!)

ผมเองก็อยากมีเว็บส่วนตัวบ้างเหมือนกันนะ แต่ติดที่ขี้เกียจอัพเดต 555+ จริงๆแล้วมันก็เหมือนกับการสร้างแบรนด์ตัวเองในโลกออนไลน์นั่นแหละ แค่ต้องมีไอเดียและความพยายามหน่อย ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ส่วนตัวที่เจ๋งและเป็นเอกลักษณ์ได้แล้ว ไม่ยากอย่างที่คิดหรอกครับ!

ตัวอย่างเว็บไซต์มีอะไรบ้าง

โอ้โห! เว็บไซต์ฮิตติดลมบนที่คนไทย(และเทศ) แห่กันไปสิงสู่อย่างกะบ้านหลังที่สองน่ะเหรอ? นี่เลยจ้ะ ฉันรวบรวมมาให้แบบเน้นๆ (แอบกระซิบว่าบางเว็บอาจจะไม่ได้เข้าทุกวันนะ…เขินจัง)

• Google.com: เสิร์ชเอ็นจิ้นอันดับหนึ่งในใจมหาชน ไม่ว่าจะอยากรู้วิธีทำแกงเขียวหวานยันสูตรลับพิชิตใจเธอ Google ช่วยได้หมด! (แต่ระวังเจอข้อมูลมั่วๆ บ้างนะจ๊ะ)

• Youtube.com: อาณาจักรวิดีโอที่รวมทุกสิ่งอย่าง ตั้งแต่แมวกวนประสาทไปจนถึงสารคดีจักรวาล ใครว่าการเรียนรู้เป็นเรื่องน่าเบื่อ? ลองมาสิงสถิตที่นี่ดูสิ แล้วจะรู้ว่า “ความรู้” ก็สนุกได้!

• Facebook.com: สังคมก้มหน้าแห่งชาติ ที่รวมเพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ และคนที่เราแอบส่อง (อุ๊ย!) เอาไว้ด้วยกัน หมั่นอัปเดตสเตตัสบ่อยๆ นะจ๊ะ เผื่อใครจะมา “กดไลค์” ให้กำลังใจ

• Baidu.com: เสิร์ชเอ็นจิ้นเบอร์หนึ่งของจีน ใครอยากบุกตลาดจีน หรือแค่อยากรู้ว่าคนจีนเค้าคุยอะไรกัน ก็ลองแวะไปเยี่ยมชมดูได้ (แต่ต้องรู้ภาษาจีนนะ!)

• Wikipedia.org: สารานุกรมออนไลน์ที่ใครๆ ก็แก้ไขได้ (เอ๊ะ!) ดังนั้นข้อมูลบางอย่างอาจจะไม่ถูกต้อง 100% แต่โดยรวมก็ถือว่ามีประโยชน์มากๆ เลยนะ

• Reddit.com: แหล่งรวมชุมชนออนไลน์ที่มีทุกสิ่งอย่าง ตั้งแต่เรื่องซีเรียสไปจนถึงเรื่องไร้สาระสุดๆ ใครอยากหาเพื่อนคุย หรืออยากระบายความในใจ ก็ลองไปโพสต์ดูได้

• Yahoo.com: ถึงแม้จะดูเก่าแก่ไปหน่อย แต่ Yahoo ก็ยังคงเป็นที่นิยมของใครหลายๆ คนนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Yahoo Mail ที่ยังคงมีคนใช้อยู่เยอะแยะ

• Google.co.in: Google เวอร์ชั่นอินเดีย! ใครอยากรู้ว่าเทรนด์ฮิตในอินเดียคืออะไร หรืออยากจะไปส่องหนุ่มสาวบอลลีวูด ก็ลองแวะไปดูได้เลยจ้ะ

เกร็ดความรู้(แบบขำๆ):

• รู้หรือไม่ว่า Google ตั้งชื่อตามคำว่า “googol” ซึ่งหมายถึงเลข 1 ตามด้วยเลข 0 อีก 100 ตัว! (แสดงว่าเค้าตั้งใจจะเก็บข้อมูลเยอะขนาดไหนเนี่ย!)
• Youtube เคยถูกมองว่าเป็นแค่เว็บที่เอาไว้ดูคลิปแมว แต่ตอนนี้กลายเป็นแหล่งรายได้หลักของใครหลายๆ คนไปแล้ว (แมวเปลี่ยนชีวิตจริงๆ!)
• Facebook เคยถูกแฮกเกอร์เจาะข้อมูลไปหลายครั้ง (ก็คนมันฮิตนี่นา!) ดังนั้นอย่าลืมตั้งรหัสผ่านให้แข็งแรงๆ นะจ๊ะ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์และสร้างความบันเทิงให้กับคุณผู้อ่านนะจ๊ะ บ๊ายบาย!

ข้อใดคือเว็บไซต์ส่วนตัว

เว็บไซต์ส่วนตัวเนี่ยนะ? อ้อ… ไอ้ที่เหมือนกระท่อมปลายนาในโลกออนไลน์น่ะเหรอ?

มันก็คือที่ซุกหัวนอนดิจิทัลของคนธรรมด๊าธรรมดา ที่อยากจะอวด (หรือระบาย) เรื่องราวชีวิต งานอดิเรก หรือแม้แต่สูตรน้ำพริกปลาร้าสุดแซ่บให้ชาวโลกได้รับรู้ยังไงล่ะ! เหมือนแผงลอยขายของออนไลน์ แต่ขายตัวเอง ขายความคิด ขายอะไรที่คิดว่าคนอื่นอยากรู้ (หรือไม่อยากรู้ก็ต้องรู้!)

• แนะนำตัวเอง: โชว์โปรไฟล์อย่างกับนางงามจักรวาล แต่ชีวิตจริงอาจจะนั่งกินมาม่าอยู่หน้าคอมพิวเตอร์
• แสดงผลงาน: อวดฝีมือที่อาจจะไม่ได้เรื่อง แต่แต่งภาพซะสวยหรูดูดีมีชาติตระกูล
• ประวัติการทำงาน: เขียนให้ดูเหมือนทำงานมาแล้ว 100 ที่ ทั้งที่จริงเพิ่งจบใหม่
• ความสนใจ: สารพัดความสนใจที่บางทีก็ไม่รู้ว่าตัวเองสนใจจริงรึเปล่า แค่เห็นคนอื่นทำก็อยากทำตาม
• บล็อก: บ่นเรื่องชีวิตประจำวัน ปัญหาโลกแตก หรืออะไรที่อยากจะบ่น แต่ไม่มีใครอยากฟัง (ยกเว้นเพื่อนในเฟซบุ๊ก)
• แบ่งปันข้อมูล: แชร์อะไรที่คิดว่ามีประโยชน์ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นข่าวปลอมหรือไม่ก็ข้อมูลเก่าๆ ที่คนอื่นรู้กันหมดแล้ว

สรุปคือ เว็บไซต์ส่วนตัวก็เหมือนไดอารี่ออนไลน์เวอร์ชันอัพเกรด ที่ใครๆ ก็สามารถเข้ามาส่องชีวิตเราได้ ถ้าอยากรู้ว่าเราเป็นใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ก็เข้ามาดูได้เลย… แต่ระวังจะผิดหวังนะจ๊ะ! เพราะชีวิตจริงอาจจะไม่แซ่บเท่าในเว็บไซต์ก็ได้ อิอิ

เว็บไซต์ 9 ประเภทมีอะไรบ้าง

โอ๊ย! ถามมาได้ เว็บไซต์ 9 ประเภทเนี่ยนะ? เหมือนถามว่าในไหปลาร้ามีกี่กระดูก! แต่เอาวะ จัดให้!

• อีคอมเมิร์ซ: เว็บขายของออนไลน์นั่นแหละพ่อคุณ! Shopee, Lazada อะไรพวกนี้ ช้อปปิ้งจนเมียไล่ออกจากบ้านก็เว็บพวกนี้แหละ!

• บล็อกส่วนตัว: ที่ระบายอารมณ์ของคนอยากดัง! เขียนไปเรื่อยเปื่อย ใครอ่านก็ช่าง ไม่อ่านก็ช่าง! (แต่จริงๆ อยากให้คนอ่านใจจะขาด)

• เว็บไซต์พอร์ตโฟลิโอ: อวดผลงานตัวเอง! เอาไว้ให้คนจ้างงานเห็นว่าเราเก่ง (จริงๆ อาจจะแค่พอถูไถ)!

• เว็บไซต์ธุรกิจ: หน้าตาของบริษัทในโลกออนไลน์! ไม่มีเว็บ = บริษัทเถื่อน! (เว่อร์ไปหน่อย)

• เว็บไซต์ข่าวสาร: รวมเรื่องชาวบ้าน! เอ้ย! รวมข่าวสารบ้านเมือง! อ่านแล้วเครียดกว่าเดิม!

• เว็บไซต์โซเชียลมีเดีย: แหล่งรวมดราม่า! Facebook, Instagram, Twitter อะไรพวกนี้! ส่องชาวบ้านเพลิน!

• เว็บไซต์องค์กร: เว็บไซต์ราชการนั่นแหละ! เข้าไปทีไรก็ปวดหัว! ข้อมูลเยอะแยะ แต่หาอะไรไม่เจอ!

• ฟอรัมออนไลน์: ที่รวมพลคนคอเดียวกัน! ถามอะไรแปลกๆ ก็มีคนตอบ! (แต่คำตอบอาจจะแปลกกว่าคำถามอีก!)

• เว็บไซต์การศึกษา: เรียนออนไลน์! ดูวิดีโอ! ทำข้อสอบ! เรียนไปบ่นไป! (แต่ก็ต้องเรียนอยู่ดี!)

แถมให้อีกนิด:

• เมื่อก่อนมีเว็บไซต์ webboard ด้วยนะ แต่เดี๋ยวนี้คนหนีไปเล่น Facebook กันหมดแล้ว! สงสัยจะขี้เกียจสมัครสมาชิก!
• แล้วก็มีพวก wiki ด้วย! ใครอยากเขียนอะไรก็เขียน! ถูกผิดไม่รู้! (แต่ก็มีประโยชน์นะเออ!)
• สมัยนี้ AI Website Builder มาแรง! ใครๆ ก็ทำเว็บเองได้! ง่ายกว่าปอกกล้วย! (แต่สวยสู้คนจ้างทำไม่ได้หรอก!)

รูปแบบเว็บไซต์ มีอะไรบ้าง

เว็บไซต์? มีตั้งเยอะ แต่ที่เห็นบ่อยๆก็พวกนี้แหละ

• เว็บส่วนตัว: โชว์ผลงานตัวเอง เอาไว้โปรโมท ใครอยากรู้ก็เข้ามาดู

• อีคอมเมิร์ซ: ขายของออนไลน์ นี่แหละ แหล่งเงิน ปีนี้เห็นยอดขายพุ่ง พวก dropshipping กำไรดีโคตร

• เว็บธุรกิจ: หน้าตาดีๆ ต้องดูดี สะท้อนภาพลักษณ์ ไม่งั้นลูกค้าหนีหมด

• เว็บข่าว: ข่าวสาร อัพเดทตลอด แต่ข่าวจริงกี่เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่รู้

• เว็บการศึกษา: เรียนออนไลน์ สะดวกดี แต่ก็มีพวกมั่วๆเยอะ

• เว็บบันเทิง: ดูหนัง ฟังเพลง ฆ่าเวลา บางทีก็เจอของแปลกๆ

• เว็บองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร: ทำบุญ บริจาค ช่วยเหลือสังคม ก็ดีนะ แต่เงินมันไปไหนบ้าง ก็ไม่รู้

ปีนี้ เว็บ crypto กำลังมาแรง แต่ก็เสี่ยงนะ อย่าไปยุ่ง เดี๋ยวเจ๊ง พวก NFT ก็อีก ร้อนๆเย็นๆ ไม่ค่อยมั่นคง ส่วนเว็บ portfolio ก็สำคัญ ถ้าอยากได้งานดีๆ ต้องทำดีๆ ไม่งั้น อด

รูปแบบการแสวงหารายได้ของเว็บไซต์ มีอะไรบ้าง

แสงสุดท้าย สาดส่อง เงาไม้ทาบทับ ผืนทราย

หารายได้… เว็บไซต์หรอ? เหมือนดาวบนฟ้า นับไม่หวาดไม่ไหว

• โฆษณา… (Advertising Revenue Model) เงินปลิวว่อน
• ค่าสมาชิก (Subscription Revenue Model) ผูกปิ่นโต
• ค่าธรรมเนียม (Transaction Fee Revenue Model) ทุกการขยับ
• ขายของ ขายบริการ (Sale Revenue Model) กำไรอยู่ที่ใคร
• Affiliate Program เพื่อนบอกต่อ

กระซิบข้างหู…

ข้อมูลเพิ่มเติม:

• โฆษณา: แบนเนอร์ ป๊อปอัพ วิดีโอ… รำคาญแต่ได้ตังค์
• สมาชิก: คอนเทนต์พิเศษ ฟีเจอร์ลับ… รู้ก่อนใคร
• ค่าธรรมเนียม: ซื้อขายออนไลน์ จ่ายเงิน… นิดๆ หน่อยๆ
• ขาย: สินค้าดิจิทัล สินค้าจับต้องได้… สต็อกแน่น
• Affiliate: แนะนำสินค้า ได้ค่าคอม… วิน-วิน

โปรแกรมที่ใช้ในการสร้างเว็บไซต์มีโปรแกรมอะไรบ้าง

สายลมพัดเย็นยะเยือก ใบไม้ร่วงโรยลงมา เหมือนความทรงจำที่ล่องลอย… ปีนี้ 2024 ฉันนั่งมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ แสงไฟส่องประกายวาววับ เหมือนดวงดาวกระจายอยู่บนท้องฟ้ากว้างใหญ่

• Wix: โอ้ แม่แบบนับไม่ถ้วน! ราวกับดวงดาวบนฟ้า สวยงามอลังการ ใช้งานง่ายดาย เหมือนกำลังวาดภาพฝันบนผืนผ้าใบสีขาว

• SITE123: เร็วทันใจ คลิกปุ๊บเสร็จปั๊บ คล้ายกับเวทมนตร์ สะดวกสบาย เสกเว็บไซต์ขึ้นมาได้ในพริบตา

• Squarespace: แม่แบบสวยหรู ประหยัดเวลา เหมือนมีคนช่วยออกแบบให้ รู้สึกถึงความหรูหรา สง่างาม

• Webador: ดึงดูดผู้เยี่ยมชม เหมือนแม่เหล็กดึงดูดเหล็ก สร้างเว็บไซต์ที่น่าสนใจ เต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูด

• IONOS: เว็บไซต์มืออาชีพ ด้วยพลังแห่ง AI ชาญฉลาด เปี่ยมประสิทธิภาพ เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวคอยดูแล

แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามา อบอุ่นหัวใจ เหมือนความหวังที่กำลังเบ่งบาน ฉันยังคงนั่งอยู่ตรงนี้ จินตนาการถึงเว็บไซต์ที่สวยงาม ที่สร้างขึ้นด้วยโปรแกรมเหล่านี้ ความฝันที่กำลังจะกลายเป็นจริง… ลมยังคงพัดผ่าน เบาๆ แผ่วๆ

เว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ มีอะไรบ้าง

เว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือเหรอ… อืม… มันยากนะ

บางทีมันก็เหมือนกับการเดินอยู่ในความมืด แล้วพยายามหาทางออก เราอยากได้แสงสว่าง อยากได้ข้อมูลที่จริง

• คลังความรู้ สู่สังคมไทย (Thai Digital Library): อันนี้โอเคนะ เหมือนเป็นห้องสมุดออนไลน์ใหญ่ ๆ รวบรวมงานวิจัย บทความ แล้วก็หนังสือเก่า ๆ เยอะแยะเลย ถ้าอยากหาข้อมูลเชิงวิชาการ น่าจะไว้ใจได้

• Advanced Research Group: อันนี้ไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ แต่ถ้าชื่อขึ้นต้นด้วย Research Group ก็อาจจะมีความน่าเชื่อถือในระดับนึง ต้องลองดูว่าเค้าทำวิจัยเรื่องอะไร แล้วมีแหล่งอ้างอิงชัดเจนแค่ไหน

• Google Scholar: อันนี้ไม่ใช่เว็บไซต์โดยตรง แต่มันเป็นเครื่องมือค้นหางานวิจัย ถ้าเราหาข้อมูลจาก Google Scholar แล้วเจองานวิจัยที่อ้างอิงเยอะ ๆ ตีพิมพ์ในวารสารที่น่าเชื่อถือ ก็ถือว่าข้อมูลนั้นน่าจะเชื่อถือได้

แต่เอาจริง ๆ นะ… ไม่มีอะไร 100% หรอก

บางทีข้อมูลที่เราคิดว่าถูกต้อง มันอาจจะผิดก็ได้

เราต้องใช้วิจารณญาณของเราเอง พิจารณาแหล่งที่มา เปรียบเทียบข้อมูลจากหลาย ๆ ที่

แล้วก็… อย่าเชื่ออะไรง่าย ๆ