ไหวพริบ ฝึกได้ไหม

29 การดู

ไหวพริบ ฝึกได้ไหม?

ไหวพริบพัฒนาได้! แม้แต่ละคนมีพื้นฐานต่างกัน การฝึกฝนช่วยเสริมสร้างได้จริง ต้องอาศัยการเรียนรู้จากประสบการณ์ วิเคราะห์สถานการณ์อย่างถี่ถ้วน การตัดสินใจจะเฉียบคมขึ้นเมื่อฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ฝึกไหวพริบได้หรือไม่?

อืมม.. ไหวพริบเนี่ยนะ? ฉันว่ามันฝึกได้แหละ แต่ไม่ใช่ว่าพรุ่งนี้ตื่นมาแล้วจะฉลาดปราดเปรื่องขึ้นทันทีเลยนะ เหมือนตอนที่ฉันเรียนปีสาม วิชาการเงิน งานกลุ่มนี่โคตรหนัก เพื่อนฉันนึง ไอ้ต้า มันไหวพริบดีกว่าฉันเยอะ มันวางแผนจัดการทุกอย่างได้เนียนมาก เสร็จก่อนกำหนดอีก ฉันนี่งงเลย แบบว่าทำไมมันคิดเร็วได้ขนาดนั้นวะ

ตอนนั้นฉันเลยพยายามสังเกตมันดู วิธีคิดมัน วิธีแก้ปัญหา มันไม่ใช่แค่ฉลาดอย่างเดียวนะ มันมีประสบการณ์มาเยอะด้วย งานกลุ่มเล็กๆน้อยๆก่อนหน้านี้ มันก็ลุยมาหมดแล้ว แบบว่าฝึกฝนมาเรื่อยๆ ฉันถึงได้เข้าใจว่าไหวพริบมันไม่ได้มาง่ายๆ มันมาจากการลงมือทำ เจอปัญหา แล้วแก้ไขมันไปเรื่อยๆ แล้วก็เรียนรู้จากความผิดพลาดด้วย ปีนั้นฉันเลยพยายามรับผิดชอบงานกลุ่มมากกว่าเดิม ผลก็คือดีขึ้นมาก แต่ก็ไม่เท่าไอ้ต้าหรอกนะ มันเก่งจริงไรจริง

สรุปคือ ฝึกได้ แต่ต้องใช้เวลา และต้องลงมือทำจริง ไม่ใช่แค่คิดว่าจะฝึกแล้วจะเก่งขึ้น ต้องเจอปัญหาจริง แก้ปัญหาจริง แบบว่าต้องลงสนาม ถึงจะได้ประสบการณ์ และไหวพริบจะพัฒนาขึ้นเอง มันไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอดทน และมีความพยายาม ถึงจะเห็นผล งงมั้ย? ฉันก็งงเหมือนกันตอนแรกๆแหละ

ทำยังไงให้สมองไวขึ้น

ทำไงให้สมองไวขึ้นเหรอ… มันเหมือนเราพยายามจุดไฟในที่มืดเลยนะ

  1. ทำอะไรใหม่ ๆ: ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำดิ จริงจังนะ ไม่ต้องยิ่งใหญ่ก็ได้ แค่เปลี่ยนเส้นทางกลับบ้าน เดินเล่นในซอยที่ไม่เคยเข้า หรือลองทำอาหารที่ไม่เคยกิน

  2. เขียนไดอารี่: ฉันว่ามันเหมือนการจัดระเบียบความคิดนะ เขียนอะไรก็ได้ที่อยู่ในหัว ไม่ต้องสวยหรู แค่ให้มันออกมา

  3. เล่นเกมฝึกสมอง: อันนี้ก็ช่วยได้นะ แต่เลือกเกมที่ชอบจริง ๆ ไม่ใช่เล่นเพราะอยากฉลาด ถ้าฝืนเล่นมันก็ไม่สนุกหรอก

  4. อ่านหนังสือ: ไม่ต้องอ่านหนังสือที่ดูฉลาดก็ได้ อ่านอะไรที่อยากอ่านจริง ๆ นิยาย การ์ตูน หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เราอยากรู้เรื่องต่อไป

  5. สงสัย: อย่าเชื่ออะไรง่าย ๆ ถามตัวเอง ถามคนอื่น หรือถาม Google ก็ได้ แค่อย่าหยุดสงสัย

  6. คิดบวก: อันนี้ยากนะ แต่ถ้าเรามองโลกในแง่ดีได้บ้าง มันก็ช่วยให้เราเปิดใจรับอะไรใหม่ ๆ ได้มากขึ้น

  7. คิดเลขเอง: ไม่ต้องถึงกับแก้สมการยาก ๆ แค่คิดเลขในชีวิตประจำวันบ้างก็ได้นะ เช่น คำนวณค่าใช้จ่าย หรือทิป

  8. ใช้แผนที่: สมัยนี้มี Google Maps ก็จริง แต่ลองใช้แผนที่กระดาษดูบ้างก็ได้นะ มันช่วยให้เราทำความเข้าใจพื้นที่ได้ดีขึ้น

มันคงไม่ได้ทำให้เราฉลาดล้ำอะไรหรอก แต่มันอาจจะทำให้เรา “คิด” ได้ดีขึ้น คิดในแบบของเราเอง

ทํายังไงให้สมองปลอดโปร่ง

ทำไงให้สมองปลอดโปร่ง? อืม…

  • ใช้สมองบ่อยๆ เนี่ย เข้าใจเลย เหมือนยิ่งใช้ยิ่งคม?
  • คิดต่างจากเดิม… อันนี้ยากนะ บางทีก็ตันๆ แต่ต้องลองดิ
  • ออกกำลังกาย วิ่งๆ ไป เผื่อไอเดียมันวิ่งตามมาด้วย 555
  • กินดีๆ อันนี้สำคัญจริงจัง กินคลีนๆ รู้สึกสมองมันแล่นปรื๊ดดด
  • เครื่องดื่ม… ชา กาแฟ? แต่กินเยอะไปก็ไม่ดีอีก วุ่นวายชีวิต
  • เล่นดนตรี… อันนี้ชอบเลย ปลดปล่อยสุดๆ อาจจะช่วยให้สมองโล่งจริง
  • พักผ่อนนนนน สำคัญมากกกก นอนน้อยนี่เบลอไปหมด
  • อย่าเครียด เข้าสังคม? คุยกับเพื่อนก็ช่วยได้นะ บางทีปัญหาที่คิดไม่ออก เพื่อนอาจจะช่วยได้
    • แต่เข้าสังคมมากไปก็เหนื่อยนะ ต้องบาลานซ์ๆๆ

*เพิ่มเติม: ตอนนี้กินวิตามินบีรวมอยู่ด้วย รู้สึกดีขึ้นนะ อาจจะคิดไปเองก็ได้ 555+

  • แล้วก็… อ่านหนังสือด้วย! อ่านเยอะๆ จะได้มีอะไรให้คิดเยอะๆ ไง!
  • แอบสปอยล์ตัวเองบ้าง ดูซีรีส์ที่ชอบ ไรงี้ รีเฟรชๆ หน่อย

เน้น: พักผ่อนสำคัญจริง นอนให้พอ!

กินอะไรบำรุงสมองเพิ่มความจำ

กินอะไรบำรุงสมอง? ความจำไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

  • โฮลเกรน: โฟเลต, B6, ไทอะมิน…สมองต้องการอาหารดิบๆ
  • ไข่: โคลีน โปรตีน…พลังงานสมองไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
  • ถั่ว: วิตามินอี สังกะสี แมกนีเซียม… เคี้ยวช้าๆ
  • เบอร์รี่: แอนโทไซยานิน…สีม่วงไม่ใช่แค่สวย
  • เมล็ดพืช: โอเมก้า 3…เล็กแต่ร้าย
  • แซลมอน: DHA…ไขมันดีที่สมองรอคอย
  • อะโวคาโด: ไขมันไม่อิ่มตัว…ลื่นแต่ดี
  • มะเขือเทศ: ไลโคปีน…แดงแบบมีสมอง

อาหารไม่ช่วยถ้า…พักผ่อนน้อยความเครียดฆ่าความจำ

ข้อมูลเสริม:

  • วิตามิน B12: สำคัญต่อการทำงานของระบบประสาท พบในเนื้อสัตว์, ผลิตภัณฑ์จากนม, ไข่
  • ขมิ้นชัน: เคอร์คูมิน สารต้านอนุมูลอิสระ…แต่กินเยอะไปก็ไม่ดี
  • ใบแปะก๊วย: กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต…ปรึกษาหมอก่อนกิน
  • ชาเขียว: L-Theanine…ดื่มแต่พอดี

บางที…ความจำดีก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป

มีวิธีฝึกทักษะสมองอย่างไรบ้าง

การพัฒนาสมองนั้นเปรียบเสมือนการบ่มเพาะต้นไม้ ต้องอาศัยความสม่ำเสมอและการดูแลอย่างเหมาะสม นี่คือ 10 วิธีการฝึกฝนสมองอย่างมีประสิทธิภาพ อิงหลักการทางวิทยาศาสตร์ปนปรัชญาเล็กน้อยนะครับ จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมที่ชอบศึกษาเรื่องนี้ โดยเฉพาะการเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ :

  • เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ: การเรียนรู้ภาษาใหม่ เล่นดนตรี หรือฝึกทักษะใหม่ๆ กระตุ้นการสร้างเซลล์ประสาทใหม่ และเพิ่มความยืดหยุ่นของสมอง ลองเรียนรู้การเขียนโค้ด ปีนี้ผมกำลังศึกษาภาษาสเปนอยู่ สนุกดีครับ

  • เขียนบันทึกประจำวัน: การจดบันทึกช่วยเสริมสร้างความทรงจำ การวิเคราะห์ และการจัดระเบียบความคิด ยิ่งถ้าเขียนถึงเรื่องราวที่ท้าทายความคิดยิ่งดี

  • เล่นเกมฝึกสมอง: เกมปริศนา เกมจำลองสถานการณ์ หรือเกมที่ต้องใช้กลยุทธ์ ช่วยฝึกความคิด การวางแผน และการแก้ปัญหา ผมชอบเล่น Sudoku ครับ ช่วยให้จิตใจสงบ

  • อ่านหนังสืออย่างสม่ำเสมอ: การอ่านช่วยเพิ่มพูนความรู้ เสริมสร้างจินตนาการ และกระตุ้นการทำงานของสมอง ยิ่งเป็นหนังสือแนววิชาการยิ่งดี ลองหาหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ หรือ neuroscience ดูครับ

  • ฝึกการตั้งคำถาม: การตั้งคำถามอย่างมีวิจารณญาณช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น และการค้นหาคำตอบ เป็นหัวใจสำคัญของการเรียนรู้

  • ฝึกการคิดเชิงบวก: มุมมองเชิงบวกส่งผลดีต่อสุขภาพจิต และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ลองฝึกสติหรือทำสมาธิก็ได้นะครับ ช่วยได้จริงๆ

  • ฝึกการคำนวณ: การคำนวณเลขโดยไม่ใช้เครื่องคิดเลข ช่วยฝึกความจำ และความแม่นยำ ผมมักจะคำนวณค่าใช้จ่ายในแต่ละวันด้วยตัวเอง

  • ใช้แผนที่: การใช้แผนที่ช่วยพัฒนาความจำ ทักษะการสังเกต และความเข้าใจเชิงพื้นที่ ลองใช้แผนที่แบบอนาล็อกดูบ้างนะครับ ดีกว่าใช้ Google Maps อย่างเดียว

  • ออกกำลังกาย: การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมอง ส่งผลให้สมองทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ปีนี้ผมพยายามวิ่งอาทิตย์ละ 3 วัน

  • พักผ่อนอย่างเพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ สำคัญต่อการซ่อมแซมเซลล์ประสาท และเสริมสร้างความจำ ควรนอนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน

การพัฒนาสมองไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นกระบวนการที่คุ้มค่า อย่าลืมว่าการเรียนรู้เป็นสิ่งที่ไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนกับการเดินทางที่ยังไม่มีจุดหมายปลายทาง สนุกกับการเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ครับ

วิธีแก้สมองตัน

สมองตัน? แก้ได้สิ

  • พัก : ห่างจากหน้าจออย่างน้อย 30 นาที ทุก 2 ชั่วโมง ปีนี้ฉันทำแบบนั้นทุกวัน ผลลัพธ์? งานเสร็จไวขึ้น

  • น้ำ : ขาดน้ำ สมองไม่ทำงาน ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ ง่ายๆ แต่จำเป็น

  • เปลี่ยนกิจกรรม : วาดรูป, ฟังเพลงคลาสสิค(ปีนี้กำลังฟัง Beethoven’s 5th) เปลี่ยนสภาพแวดล้อมทางความคิด

  • ความรู้ใหม่ : อ่านหนังสือหรือบทความเฉพาะทาง ไม่ใช่เฟซบุ๊ค ปีนี้กำลังอ่านเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์มหภาค

  • ธรรมชาติ : แสงแดดช่วยได้ เดินเล่นในสวนสาธารณะ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ จริงจังนะ

  • สังคม : พบปะผู้คนหลากหลาย ความคิดใหม่ๆ ปีนี้เข้าร่วมกลุ่มพูดคุยด้าน AI ได้ไอเดียดีๆหลายอย่าง

  • จัดระเบียบ : เช็คลิสต์งาน เรียงลำดับความสำคัญ ไม่ใช่แค่เขียน ต้องทำตาม

  • ดนตรี : ดนตรีคลาสสิคช่วยเรื่องสมาธิ หรือดนตรีแนวที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เลือกให้เหมาะกับตัวเอง อย่าฟังแต่เพลงป๊อป

คิดนอกกรอบบ้าง ชีวิตไม่ใช่แค่ทำงาน อย่าลืมเรื่องส่วนตัว สมดุลชีวิตสำคัญกว่าที่คิด

#ฝึกฝน #พัฒนา #ไหวพริบ