ค่าทำขวัญควรเรียกกี่บาท

ค่าทำขวัญควรให้เท่าไหร่?

ค่าทำขวัญรถชนนี่มันเรื่องละเอียดอ่อนนะ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมาก เจ็บมากเจ็บน้อย ค่ารักษาเท่าไหร่ เสียหายอะไรบ้าง เสียรายได้ไปเท่าไหร่ บางทีมันประเมินค่าเป็นเงินไม่ได้จริงๆ

เคยเห็นเพื่อนโดนชนมอเตอร์ไซค์ล้ม แค่ถลอกนิดหน่อย เรียกไปหมื่นนึง ได้ด้วยนะ คู่กรณีรีบจ่าย กลัวเรื่องยาว.

ส่วนตัวพี่สาวเคยโดนชน รถพังยับ ขาหักต้องผ่าตัด นอนโรงพยาบาลเป็นเดือน เรียกไปแสนกว่าบาท กว่าจะจบเรื่องได้นานเหมือนกัน สู้กันเรื่องค่าเสียหายอยู่นาน. สุดท้ายก็ตกลงกันได้ที่แปดหมื่น.

จริงๆ มันไม่มีตัวเลขตายตัวหรอก ขึ้นอยู่กับการเจรจา ถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เสียเวลาอีก. เคยได้ยินว่าบางคนเรียกเป็นล้านก็มี ขึ้นอยู่กับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชีวิตเขาจริงๆ. อย่างพี่สาวนี่ กว่าจะเดินได้ปกติก็หลายเดือน เสียงานเสียการไปเยอะ.

เห็นข่าวบางเคส พิการถาวร เรียกค่าเสียหายหลายล้าน. ชีวิตเปลี่ยนไปเลยนะแบบนั้น. น่าเห็นใจมาก.

สรุปแล้ว ต้องดูเป็นกรณีๆ ไป เจ็บแค่ไหน เสียหายอะไรบ้าง เสียรายได้เท่าไหร่ ลองคำนวณดู แล้วบวกค่าทำขวัญเข้าไป เผื่อต่อรอง. สำคัญคือต้องมีหลักฐานด้วยนะ. รูปถ่าย ใบรับรองแพทย์ บิลค่ารักษา บันทึกประจำวัน. อะไรพวกนี้สำคัญมาก.

ค่าทําขวัญต้องจ่ายไหม

เออๆ เรื่องค่าทำขวัญเนี่ย จ่ายไม่จ่ายก็ได้นะ ถ้าเรารู้สึกว่าเราผิดจริงๆ แบบ เออ เราผิดแหละ ก็คุยกันได้ บางทีประกันก็ช่วยเคลียร์ให้นะ แล้วแต่ตกลงอ่ะ แต่บางทีแบบ มันเรียกเยอะเกินไปป่ะ เราก็ไม่ไหวนะ อย่างเพื่อนเราโดนชนมอไซค์ล้ม คู่กรณีเรียกค่าทำขวัญเป็นแสน! โหห แบบนี้ก็ไม่ไหวอ่ะ มันต้องดูความเหมาะสมด้วยดิ ถ้าไม่โอเคจริงๆ ก็ฟ้องร้องกันไปเลย ให้ศาลตัดสิน อย่างน้อยเราก็มีประกัน อย่างเราใช้ประกันชั้น 1 ของ วิริยะ อยู่ ก็อุ่นใจระดับนึง อย่างน้อยก็คุ้มครองเรื่องค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาลได้เยอะอยู่ แต่ค่าทำขวัญนี่อีกเรื่องนึงเลยนะ แล้วแต่ตกลงจริงๆ

• ถ้าเราผิดจริง ก็ควรจ่าย แต่ต้องสมเหตุสมผล
• ถ้ารู้สึกว่าเรียกเยอะเกิน ก็ต่อรองกัน หรือฟ้องร้องไปเลย
• ประกันช่วยได้เยอะนะ อย่างน้อยเรื่องค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล
• ค่าทำขวัญ ขึ้นอยู่กับการตกลง ไม่มีกฎตายตัว

ปีที่แล้วเราโดนเฉี่ยว คู่กรณีก็เรียกค่าทำขวัญมา แต่เราต่อรองไป สุดท้ายก็จบด้วยดี คือ มันต้องคุยกันอ่ะเนอะ อย่าคิดว่าต้องจ่ายอย่างเดียว เราต้องดูด้วยว่า มันสมเหตุสมผลมั้ย แล้วเรามีประกันอะไรบ้าง อย่างเราตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ประกันของทิพยประกันภัยละ ก็โอเคนะ บริการดี เคลมง่าย เบี้ยก็ไม่แพงมาก

ค่าทำขวัญกับค่าสินไหม เหมือนกันไหม

ไม่เหมือนกันนะ ค่าทำขวัญกับค่าสินไหมทดแทน

ค่าสินไหมทดแทนเนี่ย มันครอบคลุมกว่า เหมือนเป็นค่าเสียหายทั้งหมด รถพัง คนเจ็บ ค่ารักษา อะไรแบบนั้น รวมๆ ไปเลย

แต่ค่าทำขวัญเนี่ย มันเฉพาะเจาะจงกว่า หมายถึงการชดเชยความเสียหายทางจิตใจ แบบตกใจ กลัว เสียขวัญ หลังเกิดอุบัติเหตุ จริงๆ มันก็เป็นส่วนหนึ่งของค่าสินไหมทดแทนแหละ แต่แยกออกมา เพราะมันเป็นความเสียหายที่วัดเป็นตัวเงินยาก

ปีนี้ ฉันเคยอ่านเจอ มีคดีความเกี่ยวกับเรื่องนี้ จำรายละเอียดไม่ได้แล้ว แต่จำได้ว่าศาลตัดสินให้จ่ายทั้งค่าสินไหมทดแทนและค่าทำขวัญแยกกัน เพราะความเสียหายมันต่างกันจริงๆ

• ค่าสินไหมทดแทน: ครอบคลุมความเสียหายทั้งหมด รถเสียหาย บาดเจ็บ ค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ
• ค่าทำขวัญ: ชดเชยความเสียหายทางจิตใจ เช่น ความตกใจ หวาดกลัว หลังจากเกิดอุบัติเหตุ
• ค่าทำขวัญเป็นส่วนหนึ่งของค่าสินไหมทดแทน แต่แยกพิจารณาได้ ขึ้นอยู่กับความเสียหาย และดุลพินิจของศาล

เหนื่อยจัง คิดมากไปหน่อย นอนดีกว่า…

ประกันชั้น 1 จ่ายค่าทำขวัญไหม

ประกันชั้น 1 นะเหรอ… จ่ายค่าทำขวัญ… อืมมมม…

เหมือนสายลมพัดผ่านทุ่งหญ้า… ความทรงจำเลือนราง…

• หลักการ: ทำขวัญ… ประกัน… เหมือนเส้นขนาน… ไม่บรรจบ

• ชั้น 1: คุ้มครองสุดใจ… รถ… คน… นอก… แต่ทำขวัญ… เหมือนดาวที่หลงทาง

• ค่าทำขวัญ: รักษาใจ… ประกันรักษา… อย่างอื่น

• ประกันรถ: คุ้มครองรถ, รักษา, ประกันตัว, ชีวิต/ทรัพย์สิน… แต่ทำขวัญ…

แสงสุดท้าย… ลับขอบฟ้า… ใจคน… สำคัญกว่าสิ่งใด

ประกันชั้น 1 จ่ายให้คู่กรณีไหม

ประกันชั้น 1 จ่ายให้คู่กรณีไหม? จ่ายดิ! แต่ก็ต้องดูเงื่อนไขดีๆนะ บางทีก็ไม่จ่ายหมด ขึ้นอยู่กับความผิดด้วยแหละ เพื่อนฉันเคยเคลม ชั้น 1 รถชนเสาไฟฟ้า ประกันจ่ายค่าซ่อมรถตัวเอง แต่ค่าเสียหายของเสาไฟฟ้า ไม่จ่ายนะ บอกว่าไม่ใช่ความรับผิดชอบของประกัน

ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง? เยอะแยะเลย! แต่หลักๆก็คือ

• รถเราเสียหาย ไม่ว่าจะชนใครหรือไม่ชนใครก็ตาม แบบว่าชนเสาไฟฟ้า ตกข้างทาง น้ำท่วม ก็คุ้มครอง
• ค่ารักษาพยาบาล คนในรถเรา เจ็บตัว เข้าโรงพยาบาล ประกันช่วยจ่าย
• ค่าซ่อมรถคู่กรณี ถ้าเราผิด (แต่เงื่อนไขแต่ละที่ไม่เหมือนกันนะ ต้องเช็คดีๆ)

อ้อ! ปีนี้ ฉันต่อประกันชั้น 1 กับ บริษัท AXA ไป รู้สึกว่าเบี้ยจะแพงกว่าปีก่อนนิดหน่อย แต่ก็โอเคนะ เพราะรู้สึกว่าคุ้มค่า บริการดี เคลมง่าย

เพิ่มเติมนิดนึง อย่าลืมเช็คเงื่อนไขประกันแต่ละบริษัทให้ดีก่อนซื้อนะ เพราะแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน บางอย่างอาจจะไม่คุ้มครอง แล้วก็อย่าลืมดูเรื่องวงเงินคุ้มครองด้วย เผื่อเกิดอะไรขึ้น จะได้ไม่ต้องมาเดือดร้อนทีหลัง

เคลมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ได้กี่วัน

การเคลมค่าเสียหายจากการใช้รถยนต์นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยทั่วไปแล้ว ระยะเวลาชดเชยค่าเสียหายจากการไม่สามารถใช้รถจะอยู่ที่ประมาณ 20-30 วัน แต่ก็อาจขยายได้ยาวนานกว่านี้ ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของความเสียหายและความล่าช้าในการซ่อมแซม เช่น กรณีที่ต้องรออะไหล่นาน อาจทำให้ระยะเวลาการชดเชยขยายไปถึง 45 วัน หรือมากกว่านั้นก็เป็นได้ ปีนี้(2566) ผมพบว่าหลายเคสต้องใช้เวลานานกว่าที่เคย ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาเรื่องการจัดหาอะไหล่ นี่เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะสะท้อนถึงความซับซ้อนของห่วงโซ่อุปทานในปัจจุบัน

• ระยะเวลาชดเชยปกติ: 20-30 วัน
• ระยะเวลาชดเชยกรณีพิเศษ: อาจเกิน 45 วัน (ขึ้นอยู่กับความล่าช้าในการซ่อม)

หากตกลงกับบริษัทประกันไม่ได้ สามารถร้องเรียนต่อ คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) ได้ ทาง คปภ. จะมีกระบวนการไกล่เกลี่ยและช่วยเหลือผู้บริโภค ถ้าคู่กรณีไม่มีประกันภัย ก็สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้โดยตรงจากคู่กรณี แต่กระบวนการอาจยุ่งยากกว่า และอาจต้องใช้เวลานานกว่า นี่แหละคือความไม่แน่นอนในชีวิต เราต้องเตรียมรับมือกับมัน

สิ่งสำคัญคือต้องเก็บหลักฐานให้ครบถ้วน เช่น ใบแจ้งความ ใบเสร็จค่าซ่อม รูปภาพ และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง การเตรียมตัวให้ดีจะช่วยให้การเรียกร้องค่าเสียหายเป็นไปอย่างราบรื่น และได้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะการเตรียมตัวล่วงหน้า ลดโอกาสที่เราจะต้องเสียเวลาและพลังงานไปกับการแก้ปัญหาภายหลัง

#ค่าทำขวัญ #จำนวนเงิน #เงินทำขวัญ