ทำยังไงให้สิวประจำเดือนไม่ขึ้น

สิวประจำเดือน เกิดขึ้นได้อย่างไร และจะรับมืออย่างไร

สิวประจำเดือนหรือสิวฮอร์โมนเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้หญิง ซึ่งมักเกิดบริเวณคางและกรามก่อนมีประจำเดือน 1-2 สัปดาห์ สิวประเภทนี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในรอบเดือน โดยเฉพาะในช่วงก่อนมีประจำเดือนที่ระดับโปรเจสเตอโรนจะลดลงและระดับแอนโดรเจนจะเพิ่มขึ้น สิ่งนี้กระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันส่วนเกิน ซึ่งเมื่อรวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้วจะอุดตันรูขุมขนและกลายเป็นสิวได้

วิธีลดโอกาสเกิดสิวประจำเดือน

แม้ว่าสิวประจำเดือนจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างสมบูรณ์ แต่คุณสามารถลดโอกาสที่สิวจะขึ้นได้โดยการปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้:

• ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน: ล้างหน้าวันละสองครั้งด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนและไม่รุนแรง หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงหรือมีส่วนผสมที่ทำให้ระคายเคือง เพราะอาจทำร้ายผิวและกระตุ้นให้เกิดสิวได้

• ลดการสัมผัสใบหน้า: แม้ว่าจะยาก แต่พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า เพราะอาจถ่ายเทแบคทีเรียจากมือไปยังใบหน้า ซึ่งจะทำให้เกิดการอักเสบและสิวได้

• บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบา: การทำให้ผิวชุ่มชื้นสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแห้งและระคายเคือง ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดสิว เลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์แบบเนื้อบางเบาและปราศจากน้ำมัน ซึ่งจะไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน

• พักผ่อนให้เพียงพอ: การอดนอนสามารถเพิ่มระดับความเครียด ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดสิวได้ พยายามนอนหลับให้ได้ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน

• จดบันทึกรอบเดือน: การบันทึกรอบเดือนสามารถช่วยคุณระบุช่วงเวลาที่สิวประจำเดือนมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งจะทำให้คุณเตรียมตัวรับมือและป้องกันได้

การรักษาสิวประจำเดือน

หากคุณมีสิวประจำเดือนที่รุนแรง คุณอาจต้องใช้การรักษาที่รุนแรงขึ้น มีตัวเลือกการรักษาต่างๆ เช่น:

• ยาเฉพาะที่ลดการอักเสบ: ยาทาเฉพาะที่มีส่วนผสม เช่น เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ ซาลิไซลิกแอซิด หรือเรตินอยด์ สามารถช่วยลดการอักเสบและการผลิตน้ำมันส่วนเกิน

• ยาเม็ดคุมกำเนิด: ยาเม็ดคุมกำเนิดสามารถช่วยปรับระดับฮอร์โมนและลดการเกิดสิว แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะใช้ยาใดๆ

• ยาปฏิชีวนะ: ในกรณีที่สิวอักเสบรุนแรง แพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดแบคทีเรีย

ข้อสรุป

สิวประจำเดือนเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงหลายคนต้องเผชิญ แต่มีวิธีต่างๆ ที่จะช่วยลดโอกาสในการเกิดสิวได้ หากคุณมีสิวประจำเดือนที่รุนแรงหรือไม่สามารถควบคุมได้ด้วยวิธีการรักษาที่บ้าน ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหารือเกี่ยวกับตัวเลือกการรักษาอื่นๆ