ม่วงพาสเทล ผสมยังไง

เผยเคล็ดลับ: สร้างสีม่วงพาสเทลละมุนละไมดั่งใจฝัน บนเส้นผมของคุณ

สีม่วงพาสเทล สีสันแห่งความอ่อนหวาน ละมุนละไม ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยเสน่ห์ที่ทำให้ลุคดูสดใส น่ารัก และมีสไตล์ ทำให้สาวๆ หลายคนปรารถนาที่จะมีสีผมสวยหวานนี้ประดับเรือนผม แต่การจะได้สีม่วงพาสเทลที่ใช่ อาจไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผสมสีด้วยตัวเอง

บทความนี้จึงขอเปิดเผยเคล็ดลับการสร้างสีม่วงพาสเทลที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลองทำสีผมด้วยตัวเอง โดยเน้นไปที่การผสมสีอย่างเข้าใจง่าย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจมากที่สุด

พื้นฐานที่ควรรู้ก่อนเริ่มผสมสี:

ก่อนที่เราจะเริ่มทำการผสมสี สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระดับสีผม และพื้นฐานสีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถปรับสัดส่วนการผสมสีได้อย่างแม่นยำ

• ระดับสีผม (Hair Level): เป็นตัวเลขที่บ่งบอกความสว่างของสีผม โดยระดับ 1 คือสีดำสนิท และระดับ 10 คือสีบลอนด์สว่างที่สุด การทำสีม่วงพาสเทลให้สวยงามนั้น จำเป็นต้องมีพื้นสีผมที่สว่างเพียงพอ โดยทั่วไปแล้วแนะนำให้มีระดับสีผมอย่างน้อยระดับ 7 ขึ้นไป ยิ่งระดับสีผมสว่างมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้สีม่วงพาสเทลที่ชัดเจนและสดใสมากขึ้นเท่านั้น
• แม่สี: การผสมสีม่วงพาสเทลนั้น เริ่มต้นจากการผสมสีแดงและสีน้ำเงินเพื่อให้ได้สีม่วงก่อน จากนั้นจึงทำการปรับให้เป็นโทนพาสเทลด้วยการเติมสีขาวหรือสีบลอนด์
• อันเดอร์โทน (Undertone): สีผมของแต่ละคนจะมีอันเดอร์โทนที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจเป็นอันเดอร์โทนเหลือง ส้ม หรือแดง อันเดอร์โทนเหล่านี้จะมีผลต่อสีที่ได้จากการทำสี ดังนั้นควรพิจารณาอันเดอร์โทนของสีผมตัวเองก่อนทำการผสมสี เพื่อให้ได้สีม่วงพาสเทลที่สวยงามและกลมกลืนกับสีผิว

สูตรลับ: การผสมสีม่วงพาสเทลฉบับทำเอง:

สูตรนี้เน้นการใช้สีบลอนด์อ่อนระดับ 9 (หรือสูงกว่า) เป็นพื้นฐาน เพื่อให้ได้สีม่วงพาสเทลที่สว่างและสดใส

ส่วนผสม:

• สีบลอนด์อ่อนระดับ 9 หรือสูงกว่า: ปริมาณตามความยาวและความหนาของเส้นผม
• สีม่วงเข้ม: ปริมาณเล็กน้อย (เริ่มต้นด้วยปริมาณน้อยๆ ก่อนเสมอ)
• สีขาว (Optional): สำหรับปรับสีให้สว่างและพาสเทลมากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนการผสมสี:

1. เตรียมอุปกรณ์: ถ้วยผสมสี, แปรงทาสี, ถุงมือ, ผ้าคลุมกันเปื้อน, นาฬิกาจับเวลา
2. ผสมสี:
   • เริ่มจากการใส่สีบลอนด์อ่อนลงในถ้วยผสมสี
   • ค่อยๆ เติมสีม่วงเข้มลงไปทีละนิด แล้วคนให้เข้ากัน
   • หากต้องการให้สีม่วงพาสเทลสว่างและละมุนมากขึ้น สามารถเติมสีขาวลงไปได้
3. ทดสอบสี: ทาเนื้อสีที่ผสมแล้วลงบนเส้นผมเล็กๆ (เช่น ด้านในของผม) เพื่อทดสอบสี และตรวจสอบว่าสีที่ได้ตรงตามความต้องการหรือไม่
4. ปรับสี (ถ้าจำเป็น): หากสีที่ได้เข้มเกินไป ให้เติมสีบลอนด์อ่อนเพิ่ม หากสีอ่อนเกินไป ให้เติมสีม่วงเข้มเพิ่ม
5. ลงสี: เมื่อได้สีที่ต้องการแล้ว ให้ลงสีบนเส้นผมตามวิธีการทำสีผมทั่วไป
6. จับเวลา: ปล่อยสีทิ้งไว้ตามเวลาที่ระบุบนผลิตภัณฑ์สี
7. ล้างออก: ล้างสีออกด้วยน้ำสะอาด และลงครีมนวดผมเพื่อบำรุงเส้นผม

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

• เริ่มต้นด้วยปริมาณสีม่วงเข้มที่น้อย: การเติมสีม่วงเข้มทีละนิด จะช่วยให้คุณควบคุมความเข้มของสีได้ง่ายขึ้น
• ทดสอบสีอยู่เสมอ: การทดสอบสีบนเส้นผมก่อนลงสีจริง จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าสีที่ได้ตรงตามความต้องการ
• บำรุงผมอย่างสม่ำเสมอ: การทำสีผมอาจทำให้ผมแห้งเสีย ดังนั้นควรบำรุงผมด้วยทรีตเมนต์หรือมาส์กผมเป็นประจำ
• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากไม่มั่นใจในการทำสีผมด้วยตัวเอง ควรปรึกษาช่างทำผมมืออาชีพเพื่อขอคำแนะนำ

ข้อควรระวัง:

• ควรทดสอบอาการแพ้ก่อนทำการผสมสี โดยทาสีที่ผสมแล้วลงบนผิวหนังบริเวณท้องแขน ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง หากไม่มีอาการผิดปกติเกิดขึ้น แสดงว่าสามารถใช้ผลิตภัณฑ์นั้นได้
• ปฏิบัติตามคำแนะนำบนผลิตภัณฑ์สีอย่างเคร่งครัด
• สวมถุงมือขณะทำการผสมสีและลงสี เพื่อป้องกันสีติดมือ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างสีม่วงพาสเทลที่สวยงามและเป็นธรรมชาติด้วยตัวเอง ขอให้สนุกกับการเปลี่ยนสีผมนะคะ!