ตั๋วเรียกเก็บเงิน Bill for Collection มี 2 ชนิด อะไรบ้าง

เจาะลึก Bill for Collection: D/P และ D/A สองทางเลือกสำหรับผู้ส่งออก

ในโลกการค้าระหว่างประเทศที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน การบริหารจัดการความเสี่ยงและหลักประกันในการชำระเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมคือ Bill for Collection (B/C) หรือ ตั๋วเรียกเก็บเงิน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ธนาคารเข้ามามีบทบาทเป็นตัวกลางในการส่งมอบเอกสารทางการค้าให้กับผู้ซื้อ แลกกับการชำระเงินหรือการให้คำมั่นสัญญาว่าจะชำระเงินในอนาคต

แม้ B/C จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่การทำความเข้าใจในรายละเอียดของแต่ละประเภทเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ผู้ส่งออกสามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยหลักๆ แล้ว B/C แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่:

1. Documents against Payment (D/P) หรือ เอกสารแลกเงินสด:

D/P เป็นรูปแบบ B/C ที่ตรงไปตรงมาที่สุด เมื่อผู้ส่งออกทำการส่งสินค้าและมอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง (เช่น ใบกำกับสินค้า ใบตราส่งสินค้า) ให้กับธนาคารต้นทาง ธนาคารจะส่งเอกสารเหล่านี้ไปยังธนาคารของผู้ซื้อ (ธนาคารเรียกเก็บ) ธนาคารเรียกเก็บจะเก็บรักษาเอกสารเหล่านี้ไว้ และจะมอบให้ผู้ซื้อต่อเมื่อผู้ซื้อทำการชำระเงินค่าสินค้าตามที่ตกลงกันเท่านั้น

ข้อดีของ D/P:

• ความเสี่ยงต่ำกว่าสำหรับผู้ส่งออก: ผู้ส่งออกมั่นใจได้ว่าผู้ซื้อจะต้องชำระเงินก่อนจึงจะได้รับเอกสารและสามารถนำสินค้าออกจากท่าเรือได้
• กระบวนการไม่ซับซ้อน: เป็นวิธีที่ค่อนข้างง่ายและตรงไปตรงมาเมื่อเทียบกับ Letter of Credit (L/C)
• ค่าธรรมเนียมต่ำกว่า: โดยทั่วไปแล้วค่าธรรมเนียมในการทำ D/P จะต่ำกว่า L/C

ข้อเสียของ D/P:

• ความเสี่ยงสูงกว่าสำหรับผู้ซื้อ: ผู้ซื้ออาจต้องชำระเงินก่อนที่จะได้ตรวจสอบสินค้า ทำให้เกิดความกังวลในเรื่องคุณภาพหรือความถูกต้องของสินค้า
• ผู้ซื้ออาจปฏิเสธการชำระเงิน: หากผู้ซื้อมีปัญหาทางการเงินหรือไม่พอใจในสินค้า ผู้ซื้ออาจปฏิเสธที่จะชำระเงิน ซึ่งจะทำให้ผู้ส่งออกต้องรับผิดชอบในการจัดการกับสินค้า

2. Documents against Acceptance (D/A) หรือ เอกสารแลกการรับรองตั๋ว:

D/A เป็นรูปแบบ B/C ที่ผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องชำระเงินทันทีเพื่อรับเอกสาร แต่จะต้องทำการ “รับรอง” ตั๋วสัญญาใช้เงิน (Bill of Exchange) ซึ่งเป็นเอกสารทางกฎหมายที่ผู้ซื้อให้คำมั่นสัญญาว่าจะชำระเงินตามวันที่กำหนดไว้ในอนาคต เมื่อผู้ซื้อรับรองตั๋วแล้ว ธนาคารเรียกเก็บจะมอบเอกสารให้กับผู้ซื้อ

ข้อดีของ D/A:

• เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผู้ซื้อ: ผู้ซื้อมีเวลามากขึ้นในการชำระเงิน ทำให้สามารถบริหารจัดการกระแสเงินสดได้ดีขึ้น
• ส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้า: การให้เครดิตแก่ผู้ซื้อสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและยั่งยืนในระยะยาว

ข้อเสียของ D/A:

• ความเสี่ยงสูงสำหรับผู้ส่งออก: ผู้ส่งออกต้องพึ่งพาคำมั่นสัญญาของผู้ซื้อว่าจะชำระเงินตามกำหนด หากผู้ซื้อไม่ชำระเงิน ผู้ส่งออกอาจต้องดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกเก็บหนี้
• ต้องประเมินความน่าเชื่อถือของผู้ซื้ออย่างรอบคอบ: ผู้ส่งออกจำเป็นต้องตรวจสอบสถานะทางการเงินและความน่าเชื่อถือของผู้ซื้อก่อนที่จะตกลงทำ D/A

สรุป:

การเลือกใช้ D/P หรือ D/A ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย สถานการณ์ทางการตลาด และระดับความเสี่ยงที่ผู้ส่งออกสามารถยอมรับได้ ผู้ส่งออกควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าก่อนตัดสินใจเลือกวิธีการชำระเงินที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าการทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ

#การเรียกเก็บ #ตั๋วเงิน #ตั๋วแลกเงิน