SET 50 คัดจากอะไร

SET50: 50 บริษัท ยักษ์ใหญ่ที่ขับเคลื่อนดัชนี และความเชื่อมโยงกับตลาดอนุพันธ์

ดัชนี SET50 เป็นหนึ่งในดัชนีหลักที่สะท้อนภาพรวมของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า SET50 คัดเลือกบริษัทมาจากเกณฑ์อะไร และมีความสัมพันธ์กับตลาดอนุพันธ์โดยเฉพาะ SET50 Index Futures อย่างไร บทความนี้จะไขข้อข้องใจดังกล่าว

SET50 คัดเลือกจากอะไร?

SET50 ไม่ได้คัดเลือกบริษัทมาแบบสุ่มๆ แต่มีกระบวนการคัดเลือกที่เคร่งครัด โดยหลักเกณฑ์สำคัญคือ ขนาดของบริษัทและสภาพคล่อง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง รวมถึง:

• มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization): บริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูง แสดงถึงขนาดที่ใหญ่และมีความสำคัญต่อตลาด เป็นตัวบ่งชี้ความแข็งแกร่งและเสถียรภาพของบริษัท

• มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย (Average Trading Value): บริษัทที่มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยสูง สะท้อนถึงสภาพคล่องที่ดี หมายความว่าหุ้นสามารถซื้อขายได้ง่าย และราคาหุ้นไม่ผันผวนมากเกินไป นักลงทุนสามารถเข้าออกได้สะดวก

• ความถี่ในการซื้อขาย (Trading Frequency): ความถี่ในการซื้อขายเป็นอีกปัจจัยที่บ่งชี้ถึงสภาพคล่อง บริษัทที่มีความถี่ในการซื้อขายสูง จะสะท้อนถึงความสนใจจากนักลงทุน และราคาหุ้นจะตอบสนองต่อปัจจัยต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว

• สัดส่วนการถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติ (Foreign Ownership): ตลท. อาจพิจารณาถึงสัดส่วนการถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติมักให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและการกำกับดูแลที่ดี การมีนักลงทุนต่างชาติถือครองในสัดส่วนสูง อาจบ่งบอกถึงคุณภาพของบริษัท

ตลท. จะทำการทบทวนและปรับปรุงรายชื่อบริษัทใน SET50 ทุกๆ 6 เดือน เพื่อให้ดัชนีสะท้อนภาพรวมของตลาดได้อย่างแม่นยำและทันสมัย บริษัทที่มีคุณสมบัติไม่ตรงตามเกณฑ์ อาจถูกปรับออกจาก SET50 และบริษัทใหม่ๆ ที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ อาจถูกเพิ่มเข้ามาแทนที่

SET50 Index เกี่ยวข้องกับ Futures อย่างไร?

SET50 Index Futures เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงจากดัชนี SET50 หมายความว่าราคาของ SET50 Index Futures จะมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับดัชนี SET50 หากดัชนี SET50 เพิ่มขึ้น ราคา SET50 Index Futures ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และในทางกลับกัน หากดัชนี SET50 ลดลง ราคา SET50 Index Futures ก็จะลดลงเช่นกัน

ปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อดัชนี SET50 ย่อมส่งผลต่อราคา SET50 Index Futures เช่นเดียวกัน เช่น:

• ภาวะเศรษฐกิจโลกและประเทศไทย: ภาวะเศรษฐกิจที่ดี จะส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนมีผลประกอบการที่ดี และดัชนี SET50 ก็จะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคา SET50 Index Futures เพิ่มขึ้นด้วย

• นโยบายการเงินและการคลัง: นโยบายการเงินและการคลังของรัฐบาล จะมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และส่งผลต่อราคาหุ้นในตลาด ซึ่งจะสะท้อนไปยังดัชนี SET50 และ SET50 Index Futures

• เหตุการณ์ทางการเมือง: เหตุการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอน จะสร้างความไม่มั่นใจแก่นักลงทุน และอาจทำให้ราคาหุ้นลดลง ส่งผลต่อดัชนี SET50 และ SET50 Index Futures

• ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน: ผลประกอบการที่ดีของบริษัทใน SET50 จะทำให้ดัชนี SET50 เพิ่มขึ้น และราคา SET50 Index Futures ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

โดยสรุปแล้ว SET50 เป็นดัชนีที่สะท้อนถึงภาพรวมของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีสภาพคล่องสูงในตลาดหลักทรัพย์ฯ และมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับ SET50 Index Futures การทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการคัดเลือกบริษัทใน SET50 และปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อดัชนี จะช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์ตลาดและวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น