ทำประกันกี่วันถึงจะคุ้มครอง

สมัครประกันแล้วใช้ได้เลยไหม

สมัครประกันแล้วใช้ได้เลยไหม? ส่วนใหญ่ ไม่ได้ ทันทีครับ จะมีสิ่งที่เรียกว่า “ระยะเวลารอคอย” (Waiting Period)

• ระยะเวลารอคอยคืออะไร: คือช่วงเวลาหลังจากที่คุณเริ่มทำประกัน ที่คุณจะไม่สามารถเคลมค่ารักษาพยาบาลสำหรับบางโรคได้ (โดยทั่วไป) เหมือนเป็นช่วง “กักกัน” ก่อนที่เราจะเข้าไปใช้บริการจริงจัง

• ทำไมต้องมี: บริษัทประกันเขาก็ต้องป้องกันคนที่ไม่สบายอยู่แล้ว (แต่ยังไม่รู้ตัว) มาทำประกันเพื่อเคลมทันที มันไม่แฟร์กับคนที่สุขภาพดีๆ ที่จ่ายเบี้ยมาตลอด

• ถ้าป่วยในช่วงรอคอย: บริษัทประกันส่วนใหญ่จะไม่จ่ายค่ารักษาให้ครับ อาจจะยกเลิกความคุ้มครอง (เฉพาะโรคที่เป็น) หรือยกเลิกกรมธรรม์ไปเลย (อันนี้แล้วแต่เงื่อนไข) มันเป็นเหมือน “กติกา” ที่ต้องยอมรับกัน

• แล้วรอนานแค่ไหน: อันนี้ขึ้นอยู่กับแผนประกันและบริษัท แต่ส่วนใหญ่โรคทั่วไปก็รอประมาณ 30 วัน โรคร้ายแรงอาจจะ 90-120 วัน บางทีก็มีประกันที่รอแค่ 14 วัน (แต่เบี้ยอาจจะสูงกว่า)

• หลังจากพ้นระยะรอคอย: ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น (ตรวจไม่เจอโรค) ก็สบายใจได้ คุณก็ได้รับการคุ้มครองตามเงื่อนไขในกรมธรรม์นั้นแหละ

หมายเหตุ: ประกันอุบัติเหตุส่วนใหญ่คุ้มครองทันทีหลังกรมธรรม์อนุมัติ (แต่ก็ต้องอ่านเงื่อนไขให้ดีนะ)

มุมมองส่วนตัว: ผมว่าระยะเวลารอคอยก็สมเหตุสมผลดีนะ มันเป็นการรักษาสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของบริษัทประกันและผู้บริโภค แต่สิ่งสำคัญคือเราต้อง อ่านรายละเอียดกรมธรรม์ให้ถี่ถ้วน ก่อนตัดสินใจทำประกัน จะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาทีหลัง

ทำประกันใช้สิทธิได้ตอนไหน

ใช้สิทธิได้ตอนไหนเนี่ยนะ? งง! อ่านเอกสารประกันทีไรปวดหัวทุกที เอาแบบง่ายๆเลยละกัน

• คุ้มครองทันที! อุบัติเหตุนะ อุบัติเหตุ! ตกบันได รถชน อะไรแบบนี้ ตรงนี้ชัดเจนมาก

• โรคทั่วไป รอ 30 วัน เห้อ นานไปมั้ยเนี่ย แต่ก็เข้าใจแหละ มันต้องตรวจสอบอะไรหลายอย่าง

• โรคร้ายแรง 120 วัน!! นานมากกกก นี่มันอะไรกัน มะเร็งเนื้องอก รอไปก่อนเลยเหรอ เซ็งเป็ด

ปีนี้ฉันทำประกันสุขภาพกับ บ. แอ็กซ์ จำกัด เบี้ยแพงโคตร แต่ก็หวังว่าจะคุ้มค่า คิดไปคิดมาก็ปวดหัว

เดี๋ยวนะ ฉันต้องไปเช็คเงื่อนไขในกรมธรรม์อีกที จำไม่ได้แล้วว่ามีอะไรบ้าง อ่านละเอียดๆอีกทีดีกว่า เอกสารเยอะจนตาลาย

• เดี๋ยวนะ ฉันสงสัยอย่างนึง ถ้าเป็นโรคเรื้อรัง แต่เพิ่งตรวจพบ มันนับเป็นโรคก่อนทำประกันมั้ยเนี่ย? ต้องโทรถามบริษัทแล้วล่ะ

สรุปคือ อ่านเอกสารประกันให้ละเอียด อย่ามัวแต่คิดมาก ถ้าไม่เข้าใจ โทรถามเลย ง่ายกว่าเยอะ อย่าลืมเช็คเงื่อนไขเรื่องระยะเวลารอคอยด้วยนะ มันสำคัญมากกกก

ประกันคุ้มครองทันที ไหม

ต่อประกันเดิมนี่แหละ ง่ายดีเนอะ! จ่ายก่อนหมดอายุใช่ไหม อืมมม…

• คุ้มครองทันทีเลย ถ้าจ่ายครบก่อนหมดอายุนะ แบบนี้สบายใจกว่าเยอะ
• แต่ถ้าลืมจ่ายล่ะ? เสียวว่ะ ต้องเช็กดีๆ ปีนี้ตั้งเตือนในมือถือแล้วนะ ไม่งั้นเดือดร้อนแน่
• บริษัทประกันรถยนต์ก็เยอะแยะ แต่ผมต่อกับเจ้าเดิมนี่แหละ คุ้นเคยดี
• ปีที่แล้วทำกับ AXA ปีนี้ก็ AXA บริการโอเค เคลมง่ายด้วย สำคัญมากนะ เรื่องนี้

อ้อ! ลืมบอกไป เคยพลาดมาแล้ว จ่ายช้าไปวันเดียว เครียดเลย ระแวงไปหมด ช่วงนั้นขับรถระวังสุดๆ กลัวเกิดอุบัติเหตุ โชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เลยจำขึ้นใจ ตั้งแต่ปีนี้ จะไม่ปล่อยให้ถึงวันหมดอายุเด็ดขาด!

คิดแล้วก็เหนื่อย เรื่องประกันนี่ ละเอียดอ่อน พลาดไม่ได้เลย ต้องจดๆ จำๆ ไว้ดีๆ เฮ้อ…

สมัครประกันกี่วันรู้ผล

โดยทั่วไปแล้ว การรู้ผลการสมัครประกันสุขภาพ (กรณีไม่มีโรคประจำตัว) ใช้เวลาประมาณ 2-4 วันทำการ นับจากวันที่ยื่นเอกสารครบถ้วนและชำระเบี้ยประกันเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันด้วยนะคะ บางแห่งอาจเร็วกว่าหรือช้ากว่านี้เล็กน้อย

• ระยะเวลาพิจารณา: 2-4 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท)
• นับจาก: วันที่ยื่นเอกสารครบถ้วนและชำระเบี้ยประกัน
• เริ่มคุ้มครอง: หลังจากได้รับการอนุมัติแล้ว แต่ส่วนใหญ่เริ่มนับระยะรอคอยตั้งแต่วันที่ทำสัญญา (ควรตรวจสอบเงื่อนไขในกรมธรรม์อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ)

ปีนี้ฉันเองก็ได้ลองสมัครประกันสุขภาพกับบริษัท A และได้รับการอนุมัติภายใน 3 วันทำการค่ะ แต่เพื่อนอีกคนสมัครกับบริษัท B ใช้เวลาถึง 5 วัน เห็นไหมคะว่ามันขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทจริงๆ อีกอย่าง เงื่อนไขการพิจารณาของแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน บางที่เน้นความรวดเร็ว บางที่อาจจะตรวจสอบละเอียดกว่าเพื่อลดความเสี่ยง

ข้อควรระวัง: แม้ว่าส่วนใหญ่จะใช้เวลาไม่นาน แต่ก็ควรเตรียมเอกสารให้พร้อมและครบถ้วน เพื่อให้กระบวนการพิจารณาเป็นไปอย่างราบรื่น ยิ่งเอกสารครบ ก็ยิ่งเร็วขึ้นค่ะ เพราะบริษัทประกันไม่ต้องติดต่อขอเอกสารเพิ่มเติม

ประกันAIAเริ่มคุ้มครองตอนไหน

อืมม… งงๆ นะ ประกัน AIA เนี่ย

ถ้าเจ็บป่วย ต้องรออย่างน้อย 30 วันหลังสัญญาเริ่ม นานเนอะ… รู้สึกเหมือนโดนหลอกขาย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เสียเงินไปแล้วนี่นา

ส่วนอุบัติเหตุ ใช้ได้เลยทันที อย่างน้อยก็ยังมีตรงนี้ให้ชื่นใจหน่อย… แต่ก็ยังคิดหนักอยู่นะ ประกันมันก็ไม่ใช่ของฟรีนี่

• เจ็บป่วย: รอ 30 วันหลังสัญญาเริ่ม หรือหลังต่ออายุ ปีนี้ก็ยังเหมือนเดิมเลย เซ็ง
• อุบัติเหตุ: ใช้ได้เลยทันที อย่างน้อยก็ตรงนี้ ดีหน่อย

คิดแล้วก็เหนื่อยใจ ทำไมต้องมีเงื่อนไขเยอะขนาดนี้ด้วย… เงินเดือนก็ไม่เยอะ แต่ก็ต้องผ่อนประกัน แบบนี้ต่อไปจะไหวมั้ยเนี่ย สงสัยต้องลองหาข้อมูลประกันอื่นดูบ้างแล้ว ปีหน้าคงต้องเปลี่ยนแน่ๆ หมดสัญญาเมื่อไหร่จะรีบเปลี่ยนเลย

ปีนี้ก็ยังคงกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลอยู่ดี เงินเก็บก็มีไม่มาก หวังว่าจะไม่เจ็บป่วยหนักๆ นะ

ประกันสุขภาพอันไหนไม่ต้องสำรองจ่าย

อื้อหือ ประกันไม่ต้องสำรองจ่ายเนี่ยนะ ยากอยู่นะ แบบไหนวะ?

• จำได้ว่าเคยเห็นโฆษณาประกัน แบบแฟกซ์เคลม Direct Billing อะไรนี่แหละ โม้ว่าไม่ต้องสำรองจ่าย จริงป่าวเนี่ย?
• แต่ก็ต้องโรงพยาบาลในเครือข่ายใช่มั้ย งั้นก็ต้องเช็คดีๆ ว่าโรงพยาบาลที่เราไปใช้บริการประจำ อยู่ในเครือข่ายรึเปล่า ปีนี้ฉันไปตรวจที่ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท นี่มันอยู่ในเครือข่ายประกันไหนบ้างวะ? ต้องไปเช็คละเอียดๆ เลย
• แบบนี้มันก็สะดวกดีนะ ไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายเองก่อน แต่ แต่ แต่ ค่าเบี้ยประกันแพงมั้ยเนี่ย? นี่มันเรื่องใหญ่เลยนะ
• เพื่อนฉัน นางใช้ประกันแบบนี้ บอกว่าสบายเลย ไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน แต่ เดี๋ยวนะ เค้าบอกว่า ถ้าไป รพ.ที่ไม่อยู่ในเครือข่าย ก็ต้องจ่ายเองก่อน งงเลย
• สรุปแล้ว ประกันที่ไม่ต้องสำรองจ่าย ก็คือแบบที่เบิกกับโรงพยาบาลในเครือข่ายได้โดยตรง ใช่ป่ะ? แต่ต้องเช็คให้ดีก่อนว่าโรงพยาบาลที่เราไป อยู่ในการคุ้มครองหรือไม่ งงงงงง
• แบบนี้สินะ ต้องอ่านรายละเอียดให้ดีๆ ก่อนซื้อ ไม่งั้นเดี๋ยวเสียเงินฟรี ปีนี้ฉันตั้งใจจะเปลี่ยนประกัน ต้องหาข้อมูลเยอะๆ

ปีนี้ฉันอายุ 30 แล้ว ต้องเริ่มวางแผนเรื่องสุขภาพ เรื่องประกันนี่สำคัญมาก