ทําไมตกขาวถึงไม่หายไปเอง

ตกขาวไม่หาย…เพราะอะไร? ไขความลับที่คุณอาจไม่เคยรู้

ตกขาว เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่พบได้ในผู้หญิงทุกวัย เป็นการขับสารคัดหลั่งจากช่องคลอด ซึ่งมีหน้าที่ทำความสะอาดและปกป้องช่องคลอดจากการติดเชื้อ โดยปกติแล้วตกขาวจะมีลักษณะใสหรือขาวขุ่น ปริมาณน้อย ไม่มีกลิ่น และไม่ก่อให้เกิดอาการคันหรือแสบร้อน แต่หากตกขาวของคุณไม่หายไปเอง หรือมีลักษณะผิดปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่คุณไม่ควรมองข้าม

เหตุผลที่ตกขาวอาจไม่หายไปเอง และยังคงแสดงอาการผิดปกติ นั้นมีหลายสาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อหรือความผิดปกติทางด้านสุขภาพ โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้:

1. การติดเชื้อ: นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้ตกขาวมีลักษณะผิดปกติและไม่หายไปเอง การติดเชื้อสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายชนิดของเชื้อโรค เช่น:

• เชื้อราแคนดิดา: มักทำให้ตกขาวเป็นสีขาวข้นคล้ายนมเปรี้ยว มีกลิ่นเปรี้ยว และทำให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรง
• แบคทีเรีย: การติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด (Bacterial Vaginosis หรือ BV) อาจทำให้ตกขาวมีสีเทาหรือสีเขียว มีกลิ่นเหม็นคาวคล้ายปลาเน่า
• โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs): เช่น โรคหนองใน โรคซิฟิลิส หรือคลามัยเดีย สามารถทำให้ตกขาวมีสีเหลืองเขียว มีกลิ่นเหม็น และมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวปริมาณมาก แสบร้อน ปวดท้องน้อย

2. ปัจจัยอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง:

• การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: ในช่วงก่อนมีประจำเดือน ระหว่างตั้งครรภ์ หรือวัยหมดประจำเดือน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจทำให้ปริมาณและลักษณะของตกขาวเปลี่ยนแปลงไปได้
• การใช้ยาบางชนิด: ยาบางชนิดอาจส่งผลต่อสมดุลของจุลินทรีย์ในช่องคลอด และทำให้เกิดตกขาวผิดปกติ
• การแพ้สารเคมี: สบู่ น้ำยาซักผ้า หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดช่องคลอดบางชนิดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและตกขาวผิดปกติ
• ภาวะสุขภาพอื่นๆ: บางครั้งตกขาวผิดปกติอาจเป็นอาการแสดงของโรคอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง

สิ่งที่ควรทำเมื่อตกขาวไม่หาย:

หากตกขาวของคุณมีลักษณะผิดปกติ เช่น สีเหลืองเขียว มีกลิ่นแรง ปริมาณมาก คัน หรือแสบร้อน อย่ารอช้า รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยสาเหตุ และรับการรักษาที่เหมาะสม การรักษาตนเองอาจทำให้โรครุนแรงขึ้น หรือทำให้การรักษาเป็นไปได้ยากขึ้น การไปพบแพทย์จะช่วยให้คุณได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่ตรงจุด เพื่อให้คุณหายจากอาการตกขาวผิดปกติได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

บทสรุป: ตกขาวไม่หายไปเองเสมอไป หากมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อรักษาสุขภาพช่องคลอดให้แข็งแรงและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต