ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A กินกี่วัน
ไข้หวัดใหญ่ A: ยาต้านไวรัส ควรเริ่มภายใน 48 ชม. หลังสัมผัสเชื้อ รับประทานวันละครั้ง ระยะเวลา:
- ทั่วไป: อย่างน้อย 10 วัน
- พื้นที่ระบาด: สูงสุด 6 สัปดาห์
- ภูมิคุ้มกันบกพร่อง: สูงสุด 12 สัปดาห์
ป้องกันไข้หวัดใหญ่ A และ B: ฉีดวัคซีนเป็นประจำ หมั่นล้างมือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย พักผ่อนเพียงพอ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A กินกี่วัน?
จำได้ตอนป่วยหนักเมื่อปีที่แล้ว ต้นเดือนตุลาคม 2565 ไข้หวัดใหญ่เล่นงานซะเลย หมอที่รพ.กรุงเทพ ให้ยามา จำได้ว่าเป็นยาต้านไวรัส ทานวันละเม็ด หมอบอกกินไปสิบวัน ให้หายขาด แต่ที่แน่ๆ คือ ฉันไม่ค่อยสบายตัวอยู่หลายอาทิตย์ กว่าจะหายสนิท
ตอนนั้นหมอเน้นมากนะเรื่องกินยาต่อเนื่อง เค้าบอกถ้ากินไม่ครบ เชื้ออาจดื้อยา แล้วจะหายช้ากว่าเดิมอีก เรื่องเวลาทานยา จำได้คร่าวๆ ว่าหมอไม่ได้กำหนดเวลาตายตัว แต่ก็ต้องให้เป็นเวลา เช่นเดียวกัน เพื่อนฉันที่ทำงาน เค้านอนโรงพยาบาลเพราะเป็นหนักมาก หมอบอกเค้ากินยาวนานกว่าฉัน หลายสัปดาห์เลยมั้ง แต่ของเค้าเป็นสายพันธุ์ร้ายแรงกว่า แล้วก็ภูมิต้านทานไม่ค่อยดีด้วยนะ.
สรุปคือ กินกี่วัน ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้รักษา และอาการของแต่ละคนด้วย ไม่ใช่ว่ากินสิบวันแล้วจะหายทุกคน บางคนอาจต้องนานกว่านั้น ก็ต้องฟังคำแนะนำหมอ อย่ามั่วกินเอง เด็ดขาด! อันตรายนะ.
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A รักษากี่วัน
ไข้หวัดใหญ่ A: การรักษาและอาการ
- ระยะเวลาหายป่วย: 5-7 วัน ส่วนใหญ่
- อาการ: ไข้สูง ปวดหัว กล้ามเนื้อ เจ็บคอ ไอ อาจมีอาเจียน ท้องเสีย
- ภาวะแทรกซ้อน: ปอดบวม หอบเหนื่อย อันตรายถึงชีวิตได้
ปีนี้ (2566) ข้อมูลจากกรมควบคุมโรคระบุจำนวนผู้ป่วยและอัตราการเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ A ยังคงมีอยู่ ควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ฉันเองเคยเจอเพื่อนที่ป่วยหนักถึงขั้นปอดอักเสบ จำได้ว่าหมอบอกว่าถ้าช้ากว่านี้หน่อย อาจเสียชีวิตได้ อันตรายกว่าที่คิด
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A แพร่เชื้อกี่วัน
ไข้หวัดใหญ่ A: แพร่เชื้อได้นานแค่ไหน?
- ผู้ใหญ่: 1 วันก่อนแสดงอาการ ถึง 3-5 วันหลังมีอาการ
- เด็ก: อาจยาวนานถึง 7 วันหลังมีอาการ
- ไม่มีอาการ: ยังแพร่เชื้อได้
ข้อควรระวัง: ระยะเวลาแพร่เชื้ออาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ควรป้องกันตนเองเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของโรค ปีนี้ 2566 มีรายงานการระบาดของสายพันธุ์ใหม่ๆ อยู่บ้าง ควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดจากกรมควบคุมโรค.
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A กี่วันไม่แพร่เชื้อ?
แสงสุดท้ายทาบทาลงบนผืนน้ำ… เงาไม้ไหวเอน
ไข้หวัดใหญ่เอ… นานแค่ไหน… ไม่น่ากลัว… อีกต่อไป?
- ผู้ใหญ่… ก่อนป่วย 1 วัน… หลังป่วย… 3-5 วัน
- เด็กน้อย… เกิน 7 วัน… นานกว่า… มากกว่า
เหมือนเสียงกระซิบจากสายลม… พัดผ่าน… ซ้ำๆ
จะรู้ได้ไงว่าหายจากไข้หวัดใหญ่?
หายจากไข้หวัดใหญ่รึยัง? อืม…ยากจังนะ ต้องดูหลายอย่างเลย ไม่ใช่แค่ไข้ลด
- อาการหายไปเกือบหมด ไอแห้งๆนิดหน่อยนี่ก็ยังไม่นับว่าหายสนิทนะ
- ไม่มีไข้ วัดแล้วต่ำกว่า 37.5 องศาเซลเซียส นี่สำคัญมาก
- ไม่มีน้ำมูก ไม่มีจาม นี่แหละ ถึงจะเรียกว่าหายจริงๆ
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B นี่พี่สาวฉันเป็นเมื่อเดือนที่แล้ว เกือบสองอาทิตย์เลยกว่าจะหายสนิท แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนนะ 7 วันก็มี แล้วแต่ร่างกายแต่ละคนมั้ง
งงมั้ย? ฉันก็งงเหมือนกัน คือมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยจริงๆ อายุ สุขภาพร่างกาย ความรุนแรงของโรค อะไรพวกนี้
เพื่อนฉันคนนึง เป็นสายพันธุ์ A แค่ 5 วันเองก็หายแล้ว ไวมาก! แต่เค้าแข็งแรงอยู่แล้วด้วยแหละ
- กินยาตามหมอสั่งสำคัญมากนะ อย่าหยุดเองเชียว
- พักผ่อนเยอะๆ ดื่มน้ำเยอะๆ สำคัญสุดๆ
- ถ้ายังไม่ดีขึ้นหลัง 7 วัน รีบไปหาหมอ อย่าช้า!
ฉันไม่ได้เรียนหมอนะ แค่ประสบการณ์ส่วนตัวและจากที่สังเกตคนรอบข้าง อย่าเอาไปใช้ตัดสินใจอะไรเองล่ะ ไปหาหมอดีที่สุด!
ไข้หวัดใหญ่มีภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้าง?
ปีนี้เอง พี่สาวฉันเป็นไข้หวัดใหญ่หนักมาก ช่วงปลายเดือนมีนาคม จำได้เลยว่าอาการหนักสุดๆ คือไอแบบไม่หยุด นอนไม่หลับ วันนั้นจำได้ว่าพาไปหาหมอที่ รพ.พระรามเก้า หมอบอกว่าปอดอักเสบด้วย ตกใจมาก รีบหาข้อมูลเลย
-
ปอดอักเสบ อันนี้เห็นชัดเจน เพราะหมอคอนเฟิร์ม พี่สาวฉันไอหนักมาก เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ต้องนอนโรงพยาบาลเลย เกือบอาทิตย์กว่าจะดีขึ้น
-
ไซนัสอักเสบ อันนี้ก็มี เพราะพี่สาวฉันบอกว่าหน้ามืด ปวดหัว น้ำมูกไหลไม่หยุด แต่หมอไม่ได้เน้น เน้นรักษาปอดอักเสบก่อน
-
หูชั้นกลางอักเสบ อันนี้ไม่แน่ใจ พี่สาวฉันไม่ได้บอกว่าปวดหู แต่ก็มีอาการคล้ายๆหวัด เลยไม่รู้ว่าเกี่ยวกันไหม
เรื่องแบบนี้มันน่ากลัวนะคะ ไข้หวัดใหญ่ธรรมดาๆ แต่ดันลามไปเป็นปอดอักเสบได้ เสี่ยงต่อชีวิตเลย
โชคดีที่พี่สาวฉันหายแล้ว แต่ก็ทำให้รู้ว่า อย่าประมาท ถ้าเป็นหวัดใหญ่ ควรไปพบแพทย์ อย่าปล่อยไว้นาน บางทีอาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้ ยิ่งคนที่มีโรคประจำตัว ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ
- จำได้ว่าหมอเน้นย้ำมากเรื่องการพักผ่อน ดื่มน้ำมากๆ และทานยาตามที่สั่งอย่างเคร่งครัด เราเลยดูแลพี่สาวอย่างใกล้ชิด
ไข้หวัดใหญ่ต้องแยกห้องไหม?
กักตัวเองไป อย่าริอาจแพร่เชื้อให้ใคร
- แยกห้อง: ใช่ แยกแม่งเลย จบนะ
- ดูแลตัวเอง: พักผ่อนซะ อย่าสำออยว่าไม่มีเวลา
- อันตราย: โรคแทรกซ้อนถึงตาย มึงอยากเป็นศพเหรอ?
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- สายพันธุ์: ปีนี้ระบาด A (H1N1) กับ B เตรียมตัวรับมือ
- วัคซีน: ฉีดซะ ถ้าไม่อยากซี้
- รักษา: ยาต้านไวรัส ทามิฟลู รีบกินอย่าชักช้า
แหล่งข้อมูล: กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (อัพเดทล่าสุด)
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A กับ B ต่างกันอย่างไร?
ต่างกันตรงไหน? A ร้ายกว่า B เยอะ
A เล่นงานผู้ใหญ่ B เด็กๆ โดนหนักกว่า
B อาจตายได้ อย่าประมาท
- ความรุนแรง: A รุนแรงกว่า B เสี่ยงตายมากกว่าในเด็กเล็ก
- กลุ่มเสี่ยง: A ผู้ใหญ่ B เด็ก
- ข้อมูลอ้างอิง: CDC (ตรวจสอบข้อมูลปีล่าสุดจากเว็บไซต์ CDC เอง)
ปีนี้เจอสายพันธุ์ใหม่ ไม่แน่ใจว่าร้ายกว่าเดิมรึเปล่า แต่ระวังไว้ก่อน ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ติดแล้วติดอีกได้ไหม?
โอ๊ย ปวดหัว! ไข้หวัดใหญ่ A อีกแล้วเหรอเนี่ย? ติดซ้ำได้ดิ ถามได้! คือแบบ… มันกลายพันธุ์ไง! ร่างกายเราสร้างภูมิไปแล้วก็จริง แต่เชื้อแม่งเปลี่ยนหน้า!
- H1N1 ปี 2009 อ่ะ ตัวดีเลย! ยังระบาดอยู่ทุกวันนี้เลยนะเธอ
ทำไมต้อง A วะ B ล่ะ? B ก็มีอีกเรื่องนึง เดี๋ยวค่อยว่ากัน ขี้เกียจพิมพ์!
เรื่องส่วนตัว:
- เคยเป็นตอนเด็ก ๆ หนักมาก! นอนซมเป็นอาทิตย์
- ตอนนี้ฉีดวัคซีนทุกปี แต่ก็ยังเป็นอยู่ดี เซ็งเป็ด!
- ปีนี้ (2024) หมอบอกว่าสายพันธุ์ใหม่มาอีกแล้ว ทำไงดีวะเนี่ย
- เพื่อนที่เป็นหมอบอกว่า ฉีดวัคซีนก็ช่วยได้บ้าง ไม่ใช่ว่าจะไม่เป็นเลย
- แต่ก็ดีกว่าไม่ฉีดเลยป่ะวะ อย่างน้อยก็ไม่หนักเท่าเดิมมั้ง
สรุป: ไข้หวัดใหญ่ A ติดซ้ำได้ เพราะมัน กลายพันธุ์! วัคซีนช่วยได้บ้าง แต่ไม่ใช่ยาวิเศษนะจ๊ะ!
ข้อมูลเพิ่มเติม (เผื่อใครอยากรู้):
- ไข้หวัดใหญ่ B ก็มีหลายสายพันธุ์นะ แต่ไม่ร้ายแรงเท่า A มั้ง (มั้งนะ! ไม่แน่ใจ)
- อาการไข้หวัดใหญ่ A: ไข้สูง ปวดเมื่อยตัว ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล (เหมือนเป็นทุกอย่างพร้อมกัน!)
- วิธีป้องกัน: ล้างมือบ่อย ๆ ใส่แมสก์ เลี่ยงที่คนเยอะ ๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ (ทำยากชิบหาย!)
- ถ้าเป็นแล้ว: กินยาตามหมอสั่ง พักผ่อนเยอะ ๆ ดื่มน้ำเยอะ ๆ (เบสิก!)
เฮ้อ… เหนื่อย! ไปนอนดีกว่า!
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์Aรักษาเองได้ไหม?
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A รักษาเองได้ไหม? ถามได้แสบทรวง! มันก็เหมือนถามว่า “ตกบันไดลงมา เดินเองได้ไหม?” บางทีก็ได้ บางทีก็…ไม่ไหว!
-
ถ้าอาการเบาๆ ระดับ “แมวข่วน”: นอนเยอะๆ กินน้ำเยอะๆ กินยาพาราเซตามอลลดไข้ (ตามขนาดที่แพทย์แนะนำนะจ๊ะ อย่าล้ำเส้น!) ซดน้ำขิง น้ำอุ่น หรืออะไรที่คิดว่าช่วยได้ คล้ายๆ ฤาษีดัดตน แค่ไม่ให้หนักหนาเกินไป ก็พอไหว แต่ถ้ามันหนักขึ้นกว่า “เสือคาบไป” ต้องไปหาหมอนะคะ
-
ถ้าอาการหนัก ระดับ “ช้างตกมัน”: อย่ามัวแต่หวังพึ่งพลังธรรมชาติ ไปหาหมอเถอะค่ะ! ไข้หวัดใหญ่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ โดยเฉพาะกับคนกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือคนที่มีโรคประจำตัว นี่ไม่ใช่เรื่องตลก ต้องรีบรักษา อย่าประมาท มิฉะนั้นอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
โรคไข้หวัดใหญ่คืออะไร? อธิบายง่ายๆ คือไวรัสเจ้าเล่ห์ที่ชอบแกล้งคน ทำให้จาม น้ำมูกไหล ไข้ขึ้น ปวดหัว ปวดเมื่อย เหมือนโดนผีอำ แต่ไม่ใช่ผี เป็นไวรัสต่างหาก! ปีนี้ (2566) สายพันธุ์ไหนระบาดแรง ต้องติดตามข่าวสารจากกรมควบคุมโรค อย่าเชื่อข่าวลือในเฟซบุ๊ก เดี่ยวจะเข้าใจผิด เสียเวลา เสียสุขภาพ เปล่าประโยชน์
ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566):
- กรมควบคุมโรคจะแจ้งเตือนสายพันธุ์ที่ระบาดในแต่ละปี ควรติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด
- การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด และควรทำทุกปี เหมือนกับการเติมน้ำมันรถ ต้องเติมเป็นประจำ มิเช่นนั้นก็อาจจะพังได้
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจลำบาก ไอมีเสมหะสีเขียว หรือไข้สูงติดต่อกันหลายวัน ควรไปพบแพทย์ทันที อย่ารอให้มันลุกลาม เหมือนไฟลามทุ่ง อันตรายมาก
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต