ยาพาราช่วยลดไข้จริงไหม

20 การดู
จริง ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า พารา มีฤทธิ์ลดไข้และบรรเทาอาการปวดได้ผล อย่างไรก็ตาม พาราเซตามอลไม่ได้รักษาต้นเหตุของไข้ แต่ช่วยลดอุณหภูมิร่างกายให้อยู่ในระดับปกติชั่วคราว ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร และควรรักษาที่สาเหตุของอาการป่วยควบคู่ไปด้วย
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

พาราเซตามอล: ยาลดไข้ที่คุ้นเคย ทำงานอย่างไร และใช้อย่างไรให้ปลอดภัย

เมื่อเอ่ยถึงอาการไข้หวัด ปวดหัว หรือปวดเมื่อยตามตัว ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) หรือที่เรียกกันติดปากว่า พารา มักจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่หลายคนนึกถึง ด้วยความที่หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง และมีสรรพคุณในการบรรเทาอาการต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้พาราเป็นยาสามัญประจำบ้านที่แทบทุกครัวเรือนต้องมีติดไว้

พาราเซตามอลลดไข้ได้อย่างไร?

ความจริงที่ว่าพาราเซตามอลช่วยลดไข้ได้นั้นได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน กลไกการทำงานหลักๆ ของพาราเซตามอลในการลดไข้คือการเข้าไปยับยั้งการสร้างสารที่ชื่อว่า โพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ในสมอง สารโพรสตาแกลนดินนี้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย เมื่อพาราเซตามอลเข้าไปลดปริมาณสารนี้ลง สมองก็จะส่งสัญญาณให้ร่างกายลดอุณหภูมิลงตามไปด้วย ผลที่ตามมาคืออาการไข้ลดลง ทำให้รู้สึกสบายตัวมากขึ้น

ไม่ใช่ยารักษา แต่เป็นยาบรรเทาอาการ

สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ พาราเซตามอลไม่ได้รักษาต้นเหตุของอาการไข้หวัด หรืออาการปวดเมื่อยต่างๆ พาราเซตามอลเป็นเพียงยาบรรเทาอาการเท่านั้น กล่าวคือ ช่วยลดไข้ ลดอาการปวด แต่ไม่ได้เข้าไปกำจัดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุของอาการป่วย ดังนั้น หากอาการป่วยนั้นเกิดจากการติดเชื้อ หรือมีสาเหตุอื่นๆ ที่ซับซ้อน การรักษาที่ตรงจุดจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง

ใช้พาราเซตามอลอย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

การใช้ยาพาราเซตามอลอย่างถูกต้องและเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ข้อควรจำในการใช้ยาพาราเซตามอลมีดังนี้:

  • อ่านฉลากยาอย่างละเอียด: ก่อนรับประทานยา ควรอ่านฉลากยาอย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจขนาดยาที่เหมาะสม วิธีการรับประทาน และข้อควรระวังต่างๆ
  • รับประทานตามขนาดที่แนะนำ: ไม่ควรรับประทานยาเกินขนาดที่ระบุไว้บนฉลากยา หรือตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร การรับประทานยาเกินขนาดอาจเป็นอันตรายต่อตับได้
  • เว้นระยะห่างในการรับประทาน: โดยทั่วไปแล้ว ควรกินยาพาราเซตามอลทุก 4-6 ชั่วโมง เมื่อมีอาการ แต่ไม่ควรเกิน 8 เม็ดต่อวัน (สำหรับผู้ใหญ่)
  • ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร: หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ยาพาราเซตามอล หรือมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
  • สังเกตอาการข้างเคียง: หากมีอาการผิดปกติหลังรับประทานยา เช่น ผื่นคัน บวม หายใจลำบาก ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

สรุป

ยาพาราเซตามอลเป็นยาที่มีประโยชน์ในการลดไข้และบรรเทาอาการปวดต่างๆ แต่การใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ควบคู่ไปกับการรักษาที่ต้นเหตุของอาการป่วย เพื่อให้หายจากอาการป่วยได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย