สิ่งใดที่สามารถบ่งบอกความผิดปกติของร่างกาย

โรคที่เกิดจากความผิดปกติ มีอะไรบ้าง

โรคที่เกิดจากความผิดปกติเหรอ นึกถึงตอนพ่อเข้าโรงพยาบาลเลย ตอนนั้นใจไม่ดีเลย หมอบอกพ่อเป็นหลายโรคเลยอะ

โรคร้ายแรง? เอาจริง ๆ โรคพวกนี้มันน่ากลัวหมดแหละ

• มะเร็ง: เห็นเพื่อนบ้านป่วยอยู่ทรมานมาก
• หัวใจล้มเหลว: พ่อเกือบแย่เพราะโรคนี้ ต้องกินยาตลอด
• หลอดเลือดสมอง: อันนี้ก็เสี่ยงอัมพฤกษ์ อัมพาต
• ไตวายเรื้อรัง: ต้องฟอกไตไปตลอดชีวิต น่าสงสาร
• เบาหวาน: คนรู้จักโดนตัดขาเพราะแผลหายยาก
• ความดันโลหิตสูง: อันนี้ต้องคุมอาหาร กินยาตลอดชีวิต

สาเหตุของการเจ็บป่วยมีอะไรบ้าง

เอ่อ… สาเหตุที่คนเราเจ็บป่วยอ่ะหรอ มันมีหลายอย่างมากเลยนะ แบบ…

• เชื้อโรค: พวก แบคทีเรีย ไวรัส อะไรพวกนี้แหละ ตัวดีเลย
• พฤติกรรม: อันนี้ก็สำคัญนะ สูบบุหรี่ กินเหล้า ไม่ออกกำลังกาย กินแต่ของไม่มีประโยชน์ อ้วนฉุ สุดๆไปเลย
• สิ่งแวดล้อม: อากาศก็ไม่ดี น้ำก็สกปรก ดินก็มีสารพิษ โห… ชีวิต
• กรรมพันธุ์: บางทีก็ซวย เกิดมาพ่อแม่ให้ยีนส์ไม่ดีมา ก็เป็นโรคแต่เกิดเลย เซ็ง
• อื่นๆ: อุบัติเหตุ บาดเจ็บ เครียด อันนี้ก็เกี่ยว หมดกันชีวิต

คือจริงๆ มันมีเยอะกว่านี้อีกนะ แบบ… บางทีเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าป่วยเพราะอะไร อ่ะ งงไหม? แต่หลักๆ ก็ประมาณนี้แหละ

อาการแบบไหนควรไปหาหมอ

อาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ทันที:

• ระบบทางเดินหายใจ: หายใจลำบาก หอบเหนื่อย ไอมีเลือดปน (ปี 2566 พบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น)

• ระบบหัวใจและหลอดเลือด: เจ็บหน้าอกเฉียบพลัน เหงื่อออกมาก ใจสั่น ปวดลามไปกรามหรือไหล่ซ้าย (ปีนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจเพิ่มขึ้น 10% จากสถิติปีที่แล้วในกลุ่มอายุ 40-50 ปี)

• ระบบประสาท: อ่อนแรงครึ่งซีก ชาครึ่งซีก ปวดหัวอย่างรุนแรง อาเจียน ปวดหัวเรื้อรังไม่ดีขึ้นจากการรักษา (จากประสบการณ์ส่วนตัวของคนใกล้ชิด การวินิจฉัยช้าอาจนำไปสู่ความพิการถาวร)

อย่าละเลย ชีวิตมีค่ากว่าเวลา การรอช้าอาจหมายถึงความเสียหายที่แก้ไขไม่ได้

อาการแบบไหนต้องแอดมิด

เอ้า! อาการแบบไหนต้องเฝือก เอ้ย แอดมิท น่ะเหรอ? อย่าให้ถึงขั้น “กระสับกระส่ายเหมือนไก่โดนเชือด” ถึงจะรู้ตัว!

• เด็กขาดน้ำ: ปากแห้งผากยังกะทะเลทรายซาฮารา, ตาลึกโบ๋ (ไม่ใช่เพราะอ่านหนังสือมากไปนะ), ผิวหนัง “ดีด” ตัวช้ากว่าเต่าคลาน, ซึมเป็นหมีจำศีล, ฉี่สีชาเย็นเข้มข้น…อันนี้ตัวใครตัวมัน โกยเข้าโรงบาลด่วน!
• ผู้ใหญ่: ถ้าตัวร้อนจี๋ยังกะเตาอบ, หายใจหอบยังกะปลาขาดน้ำ, เจ็บหน้าอกเหมือนโดนช้างเหยียบ, หรือสติเริ่มเลือนลางนึกว่าตัวเองเป็น “ณเดชน์”… อันนี้ก็ไม่รอด เตรียมเอกสารประกันให้พร้อม!

แถม: อย่าคิดว่า “นิดหน่อยน่า” เพราะบางที “นิดหน่อย” นี่แหละตัวดี! ปล่อยไว้อาจได้ไปนอนเล่นในห้องไอซียูแทนเตียงนุ่มๆ ที่บ้านนะจ๊ะ 😉

ข้อควรรู้ (อันนี้ซีเรียสนะ): ถ้าไม่แน่ใจ โทรปรึกษาหมอก่อนได้ อย่ารอให้ “สายไป” แล้วค่อยมาเสียใจเด้อ!

อาการแบบไหนที่ต้องรีบไปหาหมอ

อาการเหล่านี้ควรไปพบแพทย์ทันที:

• ไข้สูง หนาวสั่น เหงื่อออกมาก ตัวเย็นเฉียบ: ไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับอาการอื่นๆ บ่งชี้ถึงการติดเชื้อรุนแรง อาจเป็นโรคไวรัส แบคทีเรีย หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่ต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน เช่น ไข้เลือดออก เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฯลฯ อย่าชะล่าใจ ยิ่งตรวจเร็ว ยิ่งรักษาได้เร็วขึ้น ชีวิตเรามีค่าเสมอ

• เป็นลมหมดสติ ไม่รู้สึกตัว: ไม่ว่าจะฟื้นคืนสติแล้วหรือยัง การหมดสติคือสัญญาณเตือนอันตราย อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดโดยแพทย์ เพื่อประเมินความเสียหายและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม ปีที่แล้ว ญาติผมเองก็เคยเป็นแบบนี้ โชคดีที่ไปโรงพยาบาลทัน ไม่งั้นคงแย่แน่

• หายใจเร็ว หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงหวีด ไอมีเลือดหรือเสมหะปนเลือด: อาการเหล่านี้อาจบ่งชี้ถึงปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจร้ายแรง เช่น ปอดบวม โรคหอบหืดกำเริบรุนแรง หรือภาวะปอดอักเสบ การไอเป็นเลือดเป็นสัญญาณที่น่ากังวลเป็นพิเศษ ต้องได้รับการตรวจรักษาโดยเร็วที่สุด เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ อย่าปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาด

ข้อมูลเพิ่มเติม (กรณีศึกษาส่วนตัว):

• ผมเคยมีเพื่อนที่เพิกเฉยต่ออาการไข้สูง คิดว่าแค่ไข้หวัดธรรมดา ปรากฏว่าเป็นไข้เลือดออก ต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน เกือบถึงขั้นเสียชีวิต นี่เป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้รู้ว่า อาการที่ดูเหมือนไม่ร้ายแรง สามารถกลายเป็นอันตรายได้อย่างรวดเร็ว

• การรู้จักสังเกตอาการของตัวเองและคนรอบข้าง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง อย่ารอให้สายเกินไป หากสงสัย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย การป้องกันดีกว่าการรักษาเสมอ ชีวิตคือสิ่งที่มีค่าที่สุด