เสลดกับเสมหะต่างกันอย่างไร

14 การดู

เสมหะเป็นของเหลวเหนียวข้นที่ร่างกายสร้างขึ้นในระบบทางเดินหายใจ ประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ ผสมกับสารต่างๆ เช่น เอนไซม์, แอนติบอดี, และเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำหน้าที่ดักจับสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่นละอองและแบคทีเรีย ก่อนจะถูกขับออกจากร่างกายด้วยการไอหรือกลืนลงไป ปริมาณและความข้นเหนียวของเสมหะอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวะสุขภาพ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เสลดกับเสมหะ: ความแตกต่างที่คุณควรรู้

เสลดและเสมหะเป็นสิ่งที่หลายคนสับสน โดยเข้าใจว่าเป็นสิ่งเดียวกัน ซึ่งแท้จริงแล้วมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งลักษณะและบทบาทหน้าที่ในร่างกาย

เสมหะ

เสมหะคือของเหลวที่มีความหนืดและเหนียวที่ร่างกายสร้างขึ้นในระบบทางเดินหายใจ มีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำผสมกับสารต่างๆ เช่น เอนไซม์ แอนติบอดี และเซลล์เม็ดเลือดขาว โดยมีหน้าที่ดักจับสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่นละออง แบคทีเรีย หรือไวรัส จากนั้นจะขับสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ให้ออกจากร่างกายด้วยการไอหรือการกลืนลงไป

ปริมาณและความข้นเหนียวของเสมหะจะเปลี่ยนแปลงได้ตามสุขภาพของเรา หากร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ เสมหะจะใสและมีปริมาณน้อย แต่เมื่อระบบทางเดินหายใจเกิดการระคายเคืองหรือติดเชื้อ สร้างเสมหะเพิ่มมากขึ้นและมีความเหนียวข้นมากขึ้น เพื่อช่วยดักจับและกำจัดสิ่งแปลกปลอมให้ออกจากร่างกาย

เสลด

เสลดเป็นคำที่ใช้เรียกอาการที่มีเสมหะมากเกินไปในลำคอหรือหลอดลม ทำให้รู้สึกไม่สบายคอ ไอ หรือมีเสียงหายใจดัง ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น

  • ภาวะหวัดหรือไข้หวัดใหญ่
  • การติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ
  • โรคภูมิแพ้
  • โรคหอบหืด
  • กรดไหลย้อน

วิธีแยกแยะเสลดกับเสมหะ

แม้ว่าเสลดและเสมหะจะมีความเกี่ยวข้องกัน แต่ก็สามารถแยกแยะได้จากลักษณะดังนี้

  • ปริมาณ: เสลดจะมีปริมาณมากเกินไปในลำคอและหลอดลม ขณะที่เสมหะเป็นของเหลวที่ร่างกายสร้างขึ้นตามปกติ
  • ความเหนียว: เสลดจะมีความเหนียวข้นกว่าเสมหะปกติ ทำให้รู้สึกไม่สบายคอและไอ
  • สาเหตุ: เสลดส่วนใหญ่เกิดจากการระคายเคืองหรือติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ขณะที่เสมหะเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันตามปกติของร่างกาย

การรักษา

การรักษาเสลดและเสมหะจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิด หากเกิดจากการติดเชื้ออาจจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะหรือยาต้านไวรัส สำหรับผู้ที่มีอาการเสลดมากอาจใช้ยาละลายเสมหะเพื่อช่วยให้ขับเสมหะออกได้ง่ายขึ้น

การดูแลตนเองอย่างเหมาะสม เช่น การดื่มน้ำอุ่นมาก ๆ การสูดดมไอน้ำ และการพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยบรรเทาอาการเสลดและเสมหะได้เช่นกัน