โรคตับอักเสบ หายเองได้ไหม

โรคตับอักเสบ หายเองได้ไหม

โรคตับอักเสบ เป็นภาวะการอักเสบของตับ ซึ่งอาจเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อไวรัส แอลกอฮอล์ โรคอ้วน และยาบางชนิด โดยโรคตับอักเสบที่เกิดจากไวรัสบางชนิดสามารถหายเองได้ ในขณะที่บางชนิดมักกลายเป็นเรื้อรัง

ไวรัสตับอักเสบที่หายเองได้

• ไวรัสตับอักเสบ A (HAV): ติดต่อผ่านทางการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส โดยทั่วไปจะหายเองได้ภายใน 6-8 สัปดาห์
• ไวรัสตับอักเสบ E (HEV): ติดต่อผ่านทางการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสเช่นเดียวกับ HAV มักหายเองได้ภายใน 3-4 สัปดาห์

ไวรัสตับอักเสบที่ไม่หายเองได้

• ไวรัสตับอักเสบ B (HBV): ติดต่อผ่านทางเลือดหรือสารคัดหลั่ง เช่น การมีเพศสัมพันธ์ การใช้ยาฉีดร่วมกัน HBV อาจกลายเป็นเรื้อรังได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ติดเชื้อในวัยเด็ก
• ไวรัสตับอักเสบ C (HCV): ติดต่อผ่านทางเลือดหรือสารคัดหลั่งเช่นเดียวกับ HBV เชื้อไวรัสตับอักเสบ C เกือบทั้งหมดจะกลายเป็นเรื้อรัง
• ไวรัสตับอักเสบ D (HDV): ติดต่อในผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B (HBV) อยู่แล้ว โดยเฉพาะในผู้ที่อยู่ในภูมิภาคที่ HBV มีการระบาด HDV มักทำให้เกิดตับอักเสบเฉียบพลันรุนแรง และอาจกลายเป็นเรื้อรังในเวลาต่อมา

ข้อยกเว้น

ในกรณีของไวรัสตับอักเสบ B เด็กที่ติดเชื้อในช่วงแรกเกิดหรือวัยทารกอาจหายเองได้โดยธรรมชาติได้ประมาณ 90% อย่างไรก็ตาม ในผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B มีโอกาสน้อยมากที่จะหายเองได้

การรักษา

การรักษาโรคตับอักเสบขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิด เช่น

• ไวรัสตับอักเสบ A และ E: ไม่มีการรักษาเฉพาะ จะรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาแก้ปวด ลดไข้ และพักผ่อนเพียงพอ
• ไวรัสตับอักเสบ B: มีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ และยาต้านไวรัสเพื่อยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส
• ไวรัสตับอักเสบ C: มีการรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสออกจากร่างกายได้
• ไวรัสตับอักเสบ D: ไม่มีการรักษาเฉพาะ จะรักษาตามอาการและการรักษาไวรัสตับอักเสบ B ร่วมด้วย

บทสรุป

โรคตับอักเสบที่เกิดจากไวรัสตับอักเสบ A และ E สามารถหายเองได้ ส่วนไวรัสตับอักเสบ B, C และ D มักกลายเป็นเรื้อรัง ยกเว้นในเด็กที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B อาจหายเองได้ในระยะเวลาประมาณ 90% การรักษาโรคตับอักเสบจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิด และการป้องกันที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้ติดเชื้อได้