โรคติกส์ ต้องหาหมออะไร

เมื่ออาการ “ติก” ไม่ใช่แค่ความเคยชิน: ต้องไปพบแพทย์เฉพาะทางใด?

โรคติกส์ (Tics) เป็นความผิดปกติทางระบบประสาทที่แสดงออกในรูปของการเคลื่อนไหวหรือเสียงที่ไม่สมัครใจซ้ำๆ เช่น การกระตุกตา การกระดิกจมูก การส่งเสียงแปลกๆ หรือการสบถคำหยาบคาย แม้ว่าบางครั้งอาการติกส์อาจดูเหมือนเป็นพฤติกรรมที่ควบคุมได้ แต่ความจริงแล้ว ผู้ป่วยไม่สามารถหยุดอาการเหล่านี้ได้ง่ายๆ และมักสร้างความกังวลใจและความลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าโรคติกส์เป็นเพียงนิสัยที่ไม่ดี หรือความเคยชินที่แก้ไขได้ด้วยตัวเอง แต่ความจริงแล้ว โรคติกส์อาจมีสาเหตุที่หลากหลายและซับซ้อน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การปล่อยปละละเลยอาจส่งผลให้เกิดความรุนแรงมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมีนัยสำคัญ

แล้วต้องไปพบแพทย์เฉพาะทางใด?

สำหรับการวินิจฉัยและรักษาโรคติกส์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสองสาขาหลัก ได้แก่:

• จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น (Child and Adolescent Psychiatrist): โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอาการติกส์มีร่วมกับปัญหาทางจิตเวชอื่นๆ เช่น โรคสมาธิสั้น (ADHD) โรคย้ำคิดย้ำทำ (OCD) หรือความผิดปกติทางอารมณ์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นจะประเมินทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึงการใช้ยาหรือการบำบัดทางจิตวิทยาต่างๆ เช่น การบำบัดด้วยพฤติกรรม (Behavioral Therapy) หรือการบำบัดด้วยความรู้ความเข้าใจ (Cognitive Behavioral Therapy – CBT)

• แพทย์ระบบประสาท (Neurologist): แพทย์ระบบประสาทจะเน้นการตรวจสอบหาสาเหตุทางกายภาพของโรคติกส์ เช่น การติดเชื้อในสมอง ความผิดปกติทางโครงสร้างของสมอง หรือโรคทางพันธุกรรมบางชนิด แพทย์อาจทำการตรวจทางร่างกาย การตรวจภาพทางการแพทย์ เช่น MRI หรือ CT scan เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

กระบวนการวินิจฉัยและการรักษา

แพทย์จะเริ่มต้นด้วยการสอบถามประวัติอาการอย่างละเอียด รวมถึงประวัติครอบครัว การสังเกตอาการ และการประเมินความรุนแรงของอาการ จากนั้นจึงทำการตรวจร่างกายและอาจสั่งการตรวจเพิ่มเติม การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ บางกรณีอาการอาจดีขึ้นเองตามธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้ยา แต่บางกรณีอาจจำเป็นต้องใช้ยาเพื่อควบคุมอาการ หรืออาจต้องใช้การบำบัดทางจิตวิทยาควบคู่กันไป

สรุป

โรคติกส์ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย หากคุณหรือบุตรหลานมีอาการติกส์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นหรือแพทย์ระบบประสาท เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสม การได้รับการดูแลอย่างทันท่วงทีจะช่วยลดความรุนแรงของอาการและช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อย่าปล่อยให้ความไม่รู้ทำให้คุณหรือคนที่คุณรักต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการนี้ต่อไป