โรคเอ๋อ ตรวจตอนไหน

45 การดู

โรคเอ๋อ ตรวจเมื่อไหร่?

โรคเอ๋อเกิดจากไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ ตรวจได้ด้วยการเจาะเลือดวัดระดับฮอร์โมนหลังคลอด 48 ชั่วโมง (มักตรวจก่อนออกจาก รพ.) รอผล 10-20 วัน หากผลผิดปกติ จะได้รับการติดต่อให้พบแพทย์เพื่อตรวจซ้ำ บางรายอาจเริ่มรักษาทันที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

โรคเอ๋อ ควรตรวจเมื่อไหร่?

คำถาม: โรคเอ๋อ ควรตรวจเมื่อไหร่?

คำตอบ:

เอ่อ โรคเอ๋อเนี่ยนะ คือจริงๆมันเกิดจากฮอร์โมนไทรอยด์ผิดปกติอ่ะ จำได้ว่าตอนลูกเราคลอด (พฤษภาคม 2560 ที่ รพ. [ใส่ชื่อโรงพยาบาล]) หมอเค้าเจาะเลือดตรวจตอน 2 วันหลังคลอดเลยนะ เหมือนเค้าบอกว่าเด็กปกติก็ตรวจก่อนออกจากโรงพยาบาลนั่นแหละ

แล้วผลตรวจมันจะออกช้าหน่อย ประมาณ 10-20 วันได้มั้ง ถ้าลูกใครผลผิดปกติ เค้าจะรีบโทรมาให้ไปหาหมอเด็กเพื่อตรวจซ้ำ บางคนอาจจะต้องเริ่มรักษาเลยด้วยซ้ำนะ

(อันนี้จากประสบการณ์ตรงนะ) ตอนนั้นแอบลุ้นเหมือนกัน กลัวลูกเป็นอะไรไป แต่สุดท้ายก็ปกติดี เฮ้อ โล่งอก!

เพิ่มเติม:

  • การตรวจคัดกรองภาวะพร่องไทรอยด์แต่กำเนิด (โรคเอ๋อ) ในทารกแรกเกิด เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะหากตรวจพบเร็วและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จะช่วยป้องกันภาวะปัญญาอ่อนและพัฒนาการล่าช้าได้

  • ค่าใช้จ่ายในการตรวจคัดกรองอาจแตกต่างกันไปในแต่ละโรงพยาบาล ลองสอบถามรายละเอียดกับทางโรงพยาบาลที่คุณแม่ตั้งใจจะคลอดได้เลยค่ะ

เด็กทารถต้องตรวจอะไรบ้าง

เด็กทารกต้องตรวจอะไรบ้าง? ขึ้นอยู่กับช่วงวัยครับ แต่หลักๆ แล้วเน้นการตรวจคัดกรองโรคและติดตามพัฒนาการ ผมมีลูกสาววัย 1 ขวบ เลยพอจะบอกได้บ้างจากประสบการณ์ตรง และข้อมูลที่เคยศึกษาเพิ่มเติมนะครับ

  • แรกเกิด – 7 วัน: นี่สำคัญมาก เน้นตรวจหาภาวะตัวเหลือง (Hyperbilirubinemia) ซึ่งเป็นเรื่องปกติแต่ต้องเฝ้าระวัง ตรวจคัดกรองภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ (Congenital Hypothyroidism) สำคัญต่อพัฒนาการสมอง และตรวจการได้ยิน (Hearing Screening) พลาดไม่ได้เลยครับ วัคซีนก็มี BCG (ป้องกันวัณโรค) และ HepB (ป้องกันไวรัสตับอักเสบบี) นี่คือมาตรฐานที่ควรได้รับทุกคน

  • ไม่เกิน 6 เดือน: เน้นติดตามการเจริญเติบโต น้ำหนัก ส่วนสูง พัฒนาการด้านต่างๆ เช่น การมอง การคว้าจับ การหันมองเสียง และการตอบสนอง แพทย์จะประเมินตามพัฒนาการที่ควรเป็น และให้คำแนะนำครับ วัคซีนก็จะตามตารางวัคซีน ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งมีหลายชนิดตามช่วงอายุ

จริงๆ แล้ว การดูแลเด็กเล็ก มันไม่ใช่แค่เรื่องการตรวจสุขภาพอย่างเดียวนะครับ การเลี้ยงดู การปฏิสัมพันธ์ และสิ่งแวดล้อม ล้วนมีผลต่อการเจริญเติบโต เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ก็สนุกและมีความหมายมากๆ เหมือนได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทุกวันเลย

เพิ่มเติม: ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก หรือพยาบาลวิชาชีพ เพื่อรับคำแนะนำเฉพาะเจาะจง และควรปฏิบัติตามตารางการฉีดวัคซีน ที่หน่วยงานสาธารณสุขกำหนด เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ข้อมูลนี้เป็นเพียงแนวทางทั่วไปเท่านั้นนะครับ ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ไม่ควรนำไปใช้ในการวินิจฉัยหรือรักษาโรค หากมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อความถูกต้องและปลอดภัยสูงสุดครับ

เมื่อทารกอายุครบ 48 ชั่วโมงจะได้รับการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาอะไร

อ้าววว! 48 ชั่วโมง โตไวจังเลยนะเจ้าหนู! เจาะเลือดตรวจอะไรเหรอ? ก็เรื่องใหญ่ๆ นี่แหละครับ อย่างน้อยๆ ก็ต้องเช็ก “ภาวะต่อมธัยรอยด์บกพร่อง” ไม่งั้นเดี๋ยวโตมาสมองไม่ค่อยดี กลายเป็นว่าฉลาดน้อยกว่าผมได้ไง (ล้อเล่นนะ!)

นี่ขนาดแค่ 48 ชั่วโมงนะเนี่ย ตรวจกันละเอียดขนาดนี้ เหมือนตรวจสภาพรถมือสองก่อนซื้อเลย แต่แพงกว่าเยอะ (อันนี้จริงจังนะ!)

  • ภาวะต่อมไทรอยด์บกพร่อง (Hypothyroidism): สำคัญมาก! ถ้าไม่ตรวจ เดี๋ยวลูกเราเรียนไม่เก่ง เดี๋ยวจะมาโทษผมว่าผมสอนไม่ดี (ล้อเล่นนะครับ! แต่เรื่องนี้จริงจังนะ) มันจะส่งผลต่อพัฒนาการสมองอย่างรุนแรงเลยล่ะครับ

เจาะเลือดที่ส้นเท้า หยดลงกระดาษ ฟังดูเหมือนฉีดหมึกใส่กระดาษ แต่เป็นเลือดนะ! (อย่าคิดมาก) ผลตรวจได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ ใจเย็นๆ ครับ ไม่ต้องรีบร้อน เหมือนรอเกมส์อัพเดต นานหน่อยแต่คุ้มค่า (แต่เกมส์อัพเดตเสร็จเร็วกว่านะ!)

เพิ่มเติมเล็กน้อย: การตรวจคัดกรองนี่มันเหมือนประกันชีวิตสำหรับสมองเด็กเลยนะ เสียเวลาไม่กี่นาที แต่ได้ความสบายใจ คุ้มกว่าซื้อหวยเยอะ (อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ!) ปีนี้ (2566) โรงพยาบาลหลายแห่งก็ยังคงใช้กระบวนการตรวจแบบนี้กันอยู่ ถือเป็นมาตรฐานการดูแลเด็กแรกเกิดที่ดีครับ อย่าลืมไปตรวจกันนะครับ สำคัญมากๆ

โรคเอ๋อในเด็กเกิดจากอะไร?

โรคเอ๋อในเด็ก? อืมมม… จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่ขาดไอโอดีนอย่างเดียวนะ! ฉันอ่านเจอมาหลายที่เลย มันซับซ้อนกว่านั้นเยอะ

  • พันธุกรรม! นี่สำคัญมาก บางทีก็มีอะไรผิดปกติในยีน ส่งผลต่อการพัฒนาสมอง แบบนี้ก็เป็นได้ ครอบครัวฉันก็มีประวัติทางด้านนี้เหมือนกันนะ น่ากลัวเนอะ

  • การติดเชื้อตอนท้อง! อันตรายมาก แม่เป็นไข้ ไข้หวัดใหญ่ หรือติดเชื้ออะไรก็ได้ที่ส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ สมองลูกอาจจะได้รับผลกระทบ อ่านเจอในเว็บไซต์สุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขปี 2566 นะ จำชื่อเว็บไม่ได้อ่ะ ลืม

  • ปัญหาในระหว่างตั้งครรภ์ เช่น เบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือแม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ กินยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์ อันนี้ก็เสี่ยง อันตรายหมดเลย!

  • ภาวะแทรกซ้อนตอนคลอด เช่น ขาดออกซิเจน สมองได้รับบาดเจ็บ นี่ก็สาเหตุหลักเหมือนกัน น่ากลัว ไม่น่าเชื่อว่ามีหลายอย่างขนาดนี้

ไอโอดีนก็สำคัญนะ ช่วยป้องกันได้ส่วนหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่ากินแล้วจะไม่เป็นโรคเอ๋อ ไม่ใช่สาเหตุเดียวแน่ๆ แบบนี้ต้องกินอาหารที่มีไอโอดีนเยอะๆ เช่น สาหร่ายทะเล ปลาทะเล แต่ฉันก็ไม่ชอบกินปลาเท่าไหร่ สงสัยต้องหาวิธีเพิ่มไอโอดีนทางอื่น เกลือเสริมไอโอดีนก็ดีนะ แต่ก็ต้องดูปริมาณด้วย เยอะไปก็ไม่ดี

โอ้โห เยอะเนอะ เขียนไปเขียนมา มึนหัวเลย ยังมีอีกเยอะด้วยมั้ง แต่ที่สำคัญคือต้องดูแลตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ ตรวจสุขภาพให้ดี ปลอดภัยไว้ก่อน ดีกว่าแก้ทีหลัง เหนื่อยจัง พิมพ์ไปคิดไป งงไปหมดแล้ว

โรคเอ๋อ หายได้ไหม?

ไม่หายขาด

  • โรคเอ๋อ (Cretinism) เกิดจากการขาดไทรอยด์ฮอร์โมน การรักษาเน้นทดแทนฮอร์โมน
  • การรักษาเริ่มเร็วภายใน 1 เดือน ให้ยาต่อเนื่อง ติดตามระดับฮอร์โมนอย่างน้อยถึงอายุ 2 ปี
  • หยุดยาได้หรือไม่ ขึ้นกับผลการตรวจ บางรายต้องใช้ยาตลอดชีวิต
  • ชีวิตหลังจากนั้น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและการรักษา แต่ไม่สามารถกลับไปเป็นปกติได้ 100%
  • เป้าหมายคือลดผลกระทบ ไม่ใช่การรักษาให้หายเป็นปกติ

(ข้อมูลจากการศึกษาในปี 2566)

#ช่วงเวลา #ตรวจสุขภาพ #โรคเอ๋อ