ไปโรงพยาบาลต้องไปกี่โมง

หมอเฉพาะทาง เข้าวันไหนบ้าง?

อ้าวววว หมอเฉพาะทางนี่นา จำได้ล่ะ! จันทร์-ศุกร์นี่ใช่ไหม? งงๆ 16.00-18.00 น. ใช่ป่ะ รีบไปหน่อยนะ เดี๋ยวไม่ทัน วันเสาร์ด้วย เช้าเลย 7.00-11.00 น. หรือเปล่านะ นี่มันข้อมูลเก่าหรือเปล่าเนี่ย เดาว่าน่าจะอัพเดทแล้วมั้ง

• จันทร์-ศุกร์ 16.00 – 18.00 น. (แน่ใจนะ?)
• เสาร์ 7.00 – 11.00 น. (หรือ 12.00 น.?)

เอ๊ะ! อะไรนะ 30 นาที ก่อนเวลานัด จริงดิ? นี่มันโรงพยาบาลไหนกันเนี่ย ลืมไปแล้ว ต้องไปเช็คอีกรอบแล้วมั้ง โรงพยาบาลเอกชนแถวบ้านนี่แหละ จำชื่อไม่ได้ เฮ้อออ สมองฉันนี่ ไปหมดแล้ว

ต้องไปถึงก่อน 30 นาที งั้นก็ต้องไปถึงก่อน 15.30 น. หรือ 6.30 น. แล้วแต่ว่าวันไหน โอเค เข้าใจแล้ว วุ่นวายจัง สรุปก็คือต้องไปถึงก่อนเวลานัด 30 นาที ทุกวัน จำไว้ๆ ลืมไม่ได้นะ เดี๋ยวพลาด

ปีนี้แล้วนะ อย่าลืมเช็คข้อมูลอีกที จากเว็บไซต์โรงพยาบาลด้วย เผื่อข้อมูลเปลี่ยนแปลง ฉันเขียนไว้ตรงนี้แหละ เผื่อลืม สำคัญมากกกกก

ไปหาหมอก่อนใบนัดได้ไหม?

ไปหาหมอก่อนวันนัดได้ไหม? ได้สิครับ หากอาการแย่ลง การพบแพทย์ก่อนกำหนดถือเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะสุขภาพเราสำคัญที่สุด การรออาจทำให้ปัญหาสุขภาพเล็กน้อยกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้

• กรณีฉุกเฉิน: หากมีอาการรุนแรง เช่น เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก หรือหมดสติ ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที ไม่ต้องรอวันนัด

• อาการเปลี่ยนแปลง: หากอาการที่เป็นอยู่แย่ลง หรือมีอาการใหม่เกิดขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ การวินิจฉัยและรักษาที่รวดเร็ว จะช่วยให้ควบคุมอาการได้ดีขึ้น

• ความวิตกกังวล: ความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ ก็เป็นเหตุผลที่สมควรไปพบแพทย์ก่อนกำหนดได้เช่นกัน เพราะสุขภาพจิตก็สำคัญไม่แพ้สุขภาพกาย การได้พูดคุยกับแพทย์จะช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลได้

เพิ่มเติม: บางครั้งการรอคิวนาน ๆ ก็ทำให้เราคิดมากไปเองนะ การได้ไปคุยกับหมอ อาจจะทำให้สบายใจขึ้นเยอะเลย เหมือนกับที่คนโบราณว่าไว้ “รู้รักษาตัวรอด เป็นยอดดี” อะไรทำนองนั้นแหละ

อาชีพหมอมีข้อเสียอะไรบ้าง?

เป็นหมอเนี่ยนะ? ชีวิตยิ่งกว่าละครหลังข่าวอีก! เตรียมตัวรับมือกับ…

• เรียนหนักจนผมร่วง! ไม่ใช่แค่เรียนหนักนะจ๊ะ หนักจนคุณลืมไปเลยว่าตัวเองมีชีวิตสังคม เรียนแบบร่ำเรียนรู้จนแทบจะต้องไปขอขมาพระอินทร์! เพื่อนผมเรียนหมอปี 6 ยังบอกว่า “ชีวิตนี้มีแต่หนังสือกับกาแฟ!”

• เรียนนานจนลืมวันเกิดตัวเอง! 7 ปีขึ้นไป เพื่อนผมคนเดิมนั่นแหละ จำวันเกิดตัวเองไม่ได้ แต่จำเคสคนไข้ได้แม่นยำกว่า! ขนาดแม่โทรมาถามยังต้องเช็คปฏิทิน!

• อยู่เวรแบบไม่รู้จักวันจักร! นอนโรงพยาบาลมากกว่านอนบ้าน นี่ไม่ใช่การพักผ่อนนะ คือการรอรับศึก! บางทีนอนหลับไป เสียงคนไข้ร้องโวยวายก็ปลุก! นี่คือการฝึกฝนความอดทนระดับเซียน!

• ชีวิตครอบครัว? ลืมไปเถอะ! ช่วงเรียนนี่คือ “ฉันไม่มีครอบครัว มีแต่ศพกับคนไข้!” นี่แหละคือความจริงของหมอ ใครที่คิดจะจีบหมอ ต้องอดทน มากกกกกกก ระดับมาราธอน 100 ปี!

• จบแล้วก็ไม่จบ! 6 ปีเรียนจบ ยังต้องทำงานไกลบ้าน บางทีต้องไปอยู่แบบบ้านนอกเถื่อน ไม่มีเน็ตใช้ โทรศัพท์ก็ไม่มีสัญญาณ!

• ความไม่แน่นอนคือเพื่อนแท้! วันนี้ผ่าตัดคนไข้ พรุ่งนี้อาจโดนฟ้องร้อง ความเครียดมันกัดกินจิตใจ กว่าจะได้นอนหลับสบาย ต้องดื่มเหล้าระดับตับพัง!

• คนเยอะจนเบื่อหน้า! ทำงานกับคนเยอะมาก ตั้งแต่คนไข้ พยาบาล จนถึงญาติคนไข้ อารมณ์คนไข้ก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ บางทีก็ต้องอดทนแบบสุดๆ แทบจะวิ่งหนีไปบวชชีเลยทีเดียว!

• พูดเก่งต้องมี! แค่พูดเก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องพูดเก่ง ใจเย็น เข้าใจคนไข้ รับมือกับญาติได้ด้วยนะ! ลองจินตนาการ นี่คือการเป็นพ่อค้าขายของระดับเทพ!

สรุปแล้ว เป็นหมอมันสุดยอด แต่ก็สุดโหด ถ้าใจไม่แข็งพอ อย่าคิดเป็นเลย! นี่แค่ส่วนหนึ่งนะครับ ของจริงมันมากกว่านี้อีกเยอะ! อย่าหาว่าผมพูดเกินเลย!

อาชีพหมอมีประโยชน์อะไรบ้าง?

หมอเนี่ยนะ มีประโยชน์อะไรบ้าง? ถามมาได้! เหมือนถามว่ากินข้าวมีประโยชน์ไหมเนี่ย! เอาแบบชาวบ้านๆ เข้าใจง่ายๆ เลยนะ:

• ช่วยคน: แน่นอนอยู่แล้ว! ไม่ช่วยแล้วจะเรียกว่าหมอเรอะ! แต่บางทีก็ช่วยจนตัวเองแทบจะป่วยตามคนไข้ไปด้วยนะเอ้อ!
• สมองไว: หมอเนี่ยต้อง “หัวหมุน” ตลอดเวลา! ต้องคิด ต้องวิเคราะห์ โรคแต่ละอย่างมันซับซ้อนยิ่งกว่าข้อสอบเอ็นทรานซ์อีก! คิดไม่ออกก็ “ซวย” ไป!
• กินอิ่ม นอนหลับ: อาชีพหมอเนี่ย ถึงจะเหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่ก็มั่นคงนะเว้ย! ไม่ตกงานง่ายๆ หรอก! แถมยัง “หน้าใหญ่” ในสังคมอีกต่างหาก!
• โกอินเตอร์: ถ้าเก่งจริง มีสิทธิ์ได้ไป “เริงร่า” เมืองนอกนะจ๊ะ! ไปเรียน ไปดูงาน ไป “อวด” ความสามารถให้ฝรั่งตาน้ำข้าวอิจฉาเล่น!

แถมท้ายแบบบ้านๆ:

• หมอสมัยนี้ไม่ได้ “เท่” อย่างในละครนะจ๊ะ! บางทีก็เจอคนไข้ “เรื่องเยอะ” จนอยากจะร้องไห้!
• อย่าคิดว่าเรียนหมอแล้วจะ “รวย” ลืมญาติ! กว่าจะได้เงินแต่ละบาท เลือดตาแทบกระเด็น!
• “อย่าหาทำ” ถ้าใจไม่รักจริง! อาชีพนี้มัน “หนัก” กว่าที่คิดเยอะ!

สรุป: อาชีพหมอมีประโยชน์เยอะแยะ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความอดทน ความเสียสละ และที่สำคัญที่สุดคือ “ใจ” ที่อยากจะช่วยเหลือคนจริงๆ!