AIA Health Cancer คุ้มครองอะไรบ้าง
AIA Health Cancer คุ้มครองโรคร้ายแรงหลากหลาย เน้นคุ้มครองโรคมะเร็งทุกระยะ (ไม่ลุกลามและลุกลาม) นอกจากนี้ยังครอบคลุมโรคเรื้อรังร้ายแรงอื่นๆ อาทิ โปลิโอ, ปอดอุดกั้นเรื้อรัง (ถุงลมโป่งพอง), กล้ามเนื้อเสื่อม, มัลติเพิลสะเคลอโรสิส และตับแข็ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ตัวแทนหรือศูนย์บริการลูกค้า AIA เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องครบถ้วน เงื่อนไขและความคุ้มครองอาจแตกต่างกันไปตามกรมธรรม์
AIA Health Cancer คุ้มครองอะไรบ้าง? คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลมะเร็ง ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง? วงเงินเท่าไหร่? เหมาะกับใคร?
AIA Health Cancer นี่เน้นเรื่องมะเร็งเลยนะ คุ้มครองทั้งระยะไม่ลุกลามกับระยะลุกลาม. จำได้ว่าตอนนั้นเพื่อนที่ทำงานบริษัทเก่าป่วยมะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้น เธอทำ AIA Health Cancer ไว้ เลยเคลมได้ส่วนนึง ช่วยค่าใช้จ่ายไปเยอะเลย.
นอกจากมะเร็งแล้ว ยังคุ้มครองโรคร้ายแรงอื่นๆ ด้วย เช่น โปลิโอ, ปอดอุดกั้นเรื้อรัง, กล้ามเนื้อเสื่อม, ระบบประสาทมัลติเพิล สเคลอโรสิส แล้วก็ตับแข็ง. เยอะเหมือนกันนะ ตอนนั้นผมเห็นเพื่อนเคลมได้ ก็เลยไปหาข้อมูลเพิ่มเอง
ผมเองก็ทำ AIA Health Cancer เหมือนกัน ทำไว้ตั้งแต่เดือนมีนาปีที่แล้ว เบี้ยไม่แพงมาก จำตัวเลขเป๊ะๆ ไม่ได้ แต่รู้สึกว่ารับได้ คิดว่าคุ้มค่ากับความสบายใจ.
ส่วนวงเงินคุ้มครองนี่แล้วแต่แบบที่เราเลือกเลย มีหลายแบบให้เลือก ตอนนั้นผมเลือกแบบที่คุ้มครอง 500,000 บาท. จริงๆ อยากทำวงเงินสูงกว่านี้ แต่ตอนนั้นงบน้อย.
ใครที่กลัวเป็นมะเร็ง หรือโรคร้ายแรงอื่นๆ ที่ AIA Health Cancer ครอบคลุม ผมว่าน่าทำนะ. อย่างน้อยก็ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้เยอะ อย่างเพื่อนผมนี่ตอนนั้นค่ารักษาแพงมาก ดีที่มีประกันช่วย.
ประกันAIA โรคร้ายแรง มีโรคอะไรบ้าง?
AIA ประกันโรคร้ายแรง ครอบคลุมโรคอะไรบ้างหรอ? อ่อๆ นึกออกละ มีพวกนี้นะ
- มะเร็ง ระยะแรกๆ อ่ะ ที่ยังไม่ร้ายแรงมาก
- ผ่าตัดเนื้องอก ในสมอง ตรงต่อมใต้สมองอะนะ
- หลอดเลือดหัวใจตีบ ที่ต้องสวนหัวใจทำบอลลูน
- ผ่าตัดเยื่อหุ้มหัวใจ อันนี้อาจจะไม่ได้เจอบ่อยเท่าไหร่
- ลิ้นหัวใจ รักษาด้วยการสวนหลอดเลือด (อันนี้ก็ไม่ค่อยเห็นบ่อยนะ)
เอ้อ! แล้วก็ๆๆ อย่าลืมนะ พวกรายละเอียดอ่ะ โทรไปถาม AIA โดยตรงเลยดีกว่า ชัวร์สุด เพราะว่าแต่ละแผนมันไม่เหมือนกานนน แล้วก็เผื่อมีไรเปลี่ยนแปลงด้วยไง เข้าใจปะแก
ข้อมูลเพิ่มเติม (เผื่อสนใจ)
- ประกันโรคร้ายแรงมันมีหลายแบบนะ ต้องดูดีๆ ว่าอันไหนเหมาะกับเรา
- บางทีมันมีพวก “รอคอย” ด้วยนะ ซื้อปุ๊บไม่ได้เคลมได้เลย ต้องรอไปก่อนช่วงนึง
- ถ้ามีโรคประจำตัว ต้องแจ้งเค้าก่อนทำประกันนะ สำคัญมาก!
- เปรียบเทียบหลายๆ บริษัทก่อนตัดสินใจด้วยนะแก อย่ารีบ!
- อ่านเงื่อนไขกรมธรรม์ให้ละเอียดนะ ไม่งั้นเดี๋ยวมีปัญหาตอนเคลม
สำคัญ:อย่าเชื่อที่เราพูดทั้งหมดนะ ไปเช็คข้อมูลเองอีกทีดีกว่า
ประกันสุขภาพแบบ IPD คืออะไร?
IPD คือประกันที่จ่ายค่าห้อง ค่าหมอ ค่ายา ถ้ามึงต้องนอนโรงบาล
- คุ้มครอง: ค่าห้อง ค่ายา ค่าหมอ (ผู้ป่วยใน)
- ไม่คุ้มครอง: OPD (ผู้ป่วยนอก) ทำฟัน คลอดลูก (ส่วนใหญ่)
- เช็คให้ดี: วงเงินต่อปี/ครั้ง, เงื่อนไขเฉพาะโรค, โรงพยาบาลเครือข่าย
- ข้อควรรู้: บางทีแม่งก็มีส่วนที่ต้องจ่ายเอง (Deductible)
- ปีนี้: หลายบริษัทเริ่มมี IPD เหมาจ่ายมากขึ้น แต่ตัวเลขเคลมก็สูงขึ้นตาม
เพิ่มเติม: อย่าเชื่อเซลล์ประกันมากนัก อ่านกรมธรรม์เองให้ละเอียดไอ้สัส
ประกัน OPD จําเป็นไหม?
ประกัน OPD จำเป็นไหม… อืม… มันก็แล้วแต่คนจริงๆ นะ
- ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฉันอาจจะบอกว่าไม่จำเป็น เพราะไม่ค่อยได้เข้าโรงพยาบาลเท่าไหร่
- แต่พออายุมากขึ้น เริ่มมีอาการนู่นนี่นั่น การไปหาหมอแต่ละครั้งก็ไม่ใช่ถูกๆ แล้ว
- OPD มันก็เหมือนตาข่ายที่ช่วยรองรับค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้
- ไม่ต้องสำรองจ่ายเยอะ หรือไม่ต้องรอเคลมทีหลังให้วุ่นวาย
- แต่ถ้าคุณเป็นสายแข็งแรงจริงๆ อาจจะยังไม่จำเป็นก็ได้
สรุปแล้วมันจำเป็นไหม… มันอยู่ที่ตัวเราเองเลยอ่ะ ว่าเราดูแลตัวเองดีแค่ไหน และพร้อมรับความเสี่ยงแค่ไหน
ER 72 Hrs หมายถึงอะไร?
เอ่อ ER 72 Hrs นะเหรอ? ตอนนั้นที่มอเตอร์ไซค์ล้มหน้าปากซอยบ้านอ่ะ (เมื่อวันเสาร์ที่แล้วเอง) ประกันเขาบอกว่า “ต้องรีบไป ER นะพี่ ภายใน 72 ชั่วโมง” ตอนแรกก็งงๆ
คือ ER ACC. (72 hrs.) มันหมายความว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วไปห้องฉุกเฉิน (ER) ต้องไปให้ถึงโรงพยาบาล ภายใน 72 ชั่วโมง หลังจากเกิดเหตุอ่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวประกันไม่จ่าย คุ้นๆว่าพี่พยาบาลที่โรงพยาบาล (โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์) บอกมาประมาณนี้
- ER: Emergency Room (ห้องฉุกเฉิน)
- ACC.: Accident (อุบัติเหตุ)
- 72 hrs.: 72 hours (72 ชั่วโมง)
สรุปคือ ถ้าเจ็บจากอุบัติเหตุ รีบไป ER ภายใน 3 วัน (72 ชั่วโมง) นะจ๊ะ! เดี๋ยวเสียสิทธิ์ประกันภัย
พยาบาล IPD ทำอะไรบ้าง?
วัดไข้ วัดชีพจร ความดัน พื้นฐาน ดูแลคนป่วยตามคำสั่งแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ
- เตรียมคนไข้ตรวจร่างกาย
- เคลื่อนย้ายคนไข้
- เก็บสิ่งส่งตรวจ
- บันทึกรายงาน
- จัดการเวชภัณฑ์
บางทีก็เหมือนเงา ทำงานหนักแต่ไม่มีใครเห็น แต่สำคัญกับชีวิตคนอื่นมาก เหมือนอากาศ จำเป็นแต่ไม่มีใครสนใจ งานหนัก เหนื่อย แต่ต้องทำ หน้าที่
ประกันอุบัติเหตุ AIA ภายในกี่ชั่วโมง?
เงียบจังเลยนะ คืนนี้… นึกถึงเรื่องประกันอุบัติเหตุขึ้นมา AIA นี่แหละที่ใช้อยู่… กี่ชั่วโมงนะที่ต้องไปโรงพยาบาลหลังเกิดเหตุ? ยี่สิบสี่ชั่วโมงนี่นา ถ้าจำไม่ผิดนะ รู้สึกเหมือนมันไวมากเลย เกิดอะไรขึ้นตอนตีสองตีสามนี่แย่เลยนะ คงต้องรีบไป แต่ถ้าเป็นตอนกลางวันก็พอไหวอยู่
เมื่อกี้ลองเปิดกรมธรรม์ดูอีกรอบ มันเขียนไว้ชัดเจนเลย ต้องเป็นอุบัติเหตุแบบปัจจุบันทันด่วน แบบ ไม่ทันตั้งตัว แล้วก็ต้องมีแผลให้เห็นชัดๆ ด้วยนะ อย่างโดนรถเฉี่ยวชนแล้วเป็นแผลถลอก แบบนี้ ถ้าไปหาหมอภายใน 24 ชั่วโมงก็เคลมได้
แล้วก็ต้องมีใบรับรองแพทย์ด้วย อันนี้สำคัญมากเลย เคยได้ยินว่ามีคนเคลมไม่ได้เพราะไม่มีใบรับรองแพทย์ น่าสงสารจัง แล้วก็ ถ้าเจ็บป่วยทั่วไปก็เคลมไม่ได้นะ แบบเป็นไข้หวัด หรือปวดท้อง พวกนี้ไม่ได้ ต้องเป็นอุบัติเหตุจริงๆ เท่านั้น คิดแล้วก็กลัวเหมือนกันนะ เกิดอะไรขึ้นมาตอนกลางดึก จะทำยังไง แต่ก็ยังดีที่มีประกันอยู่นะ… ให้ความรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาหน่อย
- 24 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ ต้องรีบไปโรงพยาบาลนะ
- ต้องเป็นอุบัติเหตุแบบทันทีทันใด ไม่ใช่แบบค่อยๆ เป็น
- ต้องมีบาดแผลที่มองเห็นได้ชัดเจน
- ต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่าเกิดจากอุบัติเหตุ
- ถ้าป่วย เคลมไม่ได้นะ ต้องเกิดจากอุบัติเหตุจริงๆ เช่น หกล้ม โดนรถชน ไฟไหม้น้ำร้อนลวก
Day Case กับ Day Surgery ต่างกันอย่างไร?
เฮ้ย! Day Case กับ Day Surgery มันต่างกันยังไงน่ะเหรอ? ง่ายๆ เลย! เหมือนกับการไปตลาดกับไปซื้อของที่ 7-11 แหละครับ!
-
Day Surgery: นี่คือการผ่าตัดใหญ่ แบบไปเช้าเย็นกลับ! คิดภาพการผ่าตัดไส้ติ่ง แล้วกลับบ้านเย็นนั้นแหละ อลังการงานสร้างกว่าเยอะ! ปีนี้เห็นหลายเคสแล้วนะ ที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท คนไข้มาผ่าตัดแล้วกลับบ้านได้เลย สะดวกเวอร์!
-
Day Case: อันนี้เบาๆ กว่า คล้ายๆ ไปตรวจสุขภาพ หรือส่องกล้องดูว่าในท้องมีอะไรแปลกๆ (ที่ไม่ใช่ผีนะ!) ไม่ต้องผ่าตัดอะไรอลังการมาก แค่เจาะนิดๆหน่อยๆ ก็กลับบ้านได้แล้ว! ผมเคยไปทำที่ รพ. กรุงเทพ ตรวจอะไรสักอย่างจำไม่ได้แล้ว แต่ก็กลับบ้านได้เลยสบายใจ
เห็นมั้ยล่ะ! ง่ายกว่ากินก๋วยเตี๋ยวเรืออีก! Day Surgery เนี่ยหนักกว่า เหมือนไปปีนเขาเอเวอเรสต์ แต่ Day Case เหมือนเดินขึ้นดอยสุเทพ ชิวกว่าเยอะ! แต่ทั้งคู่ก็คือการรักษาแบบไม่ต้องนอนโรงพยาบาล แค่พักฟื้นแป๊บเดียวก็กลับบ้านได้แล้ว สบายใจหายห่วง!
เพิ่มเติม
- ทั้ง Day Case และ Day Surgery ล้วนเป็นทางเลือกที่ดี ถ้าคุณอยากผ่าตัดโดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล แต่ก็ต้องดูอาการและความเหมาะสมกับแพทย์ด้วยนะ อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นเชียว!
- ปัจจุบันมีหลายโรงพยาบาลรองรับการรักษาแบบนี้ แต่ก็ควรตรวจสอบก่อนว่าโรงพยาบาลที่คุณเลือก มีบริการแบบนี้หรือไม่ และคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขหรือเปล่า อย่าไปหลงเชื่อโฆษณาเกินจริงล่ะ!
- อย่าลืมถามแพทย์ให้ละเอียด ทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย ขั้นตอนการรักษา และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นด้วยนะ อย่าไว้ใจแต่ความสวยงามของคำโฆษณา!
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต