ปลูกข้าวมะลิ 105 1 ไร่ได้กี่ตัน

10 การดู

ข้าวพันธุ์ใหม่ สุพรรณบุรี 90 ทนทานต่อโรคไหม้และโรคขอบใบแห้ง ให้ผลผลิตสูงเฉลี่ย 600 กิโลกรัมต่อไร่ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่ภาคกลาง เก็บเกี่ยวได้เร็วกว่าพันธุ์ กข. 105 ประมาณ 15 วัน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปลูกข้าวหอมมะลิ 105 หนึ่งไร่ ได้ผลผลิตเท่าไหร่? ไขข้อข้องใจกับปัจจัยที่ส่งผลต่อผลผลิต

คำถามที่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ 105 หลายท่านสงสัย คือ การปลูกข้าวหอมมะลิ 105 หนึ่งไร่ จะได้ผลผลิตเท่าใดกันแน่? คำตอบที่ตรงไปตรงมาคือ ไม่มีคำตอบที่ตายตัว ผลผลิตข้าวหอมมะลิ 105 ต่อไร่จะแตกต่างกันไปตามปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งเราจะมาวิเคราะห์กัน

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลผลิตข้าวหอมมะลิ 105:

  • คุณภาพของเมล็ดพันธุ์: เมล็ดพันธุ์ที่แข็งแรง มีอัตราการงอกสูง จะให้ผลผลิตที่ดีกว่าเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพต่ำ
  • การเตรียมดิน: ดินที่เตรียมได้อย่างดี มีความอุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำที่ดี จะช่วยให้ต้นข้าวเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่
  • การจัดการน้ำ: การให้น้ำที่เหมาะสมตามแต่ละระยะการเจริญเติบโตของข้าว เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อผลผลิต ทั้งปริมาณและช่วงเวลา
  • การใส่ปุ๋ย: การใช้ปุ๋ยที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ทั้งชนิดและปริมาณ จะช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของข้าว
  • การป้องกันกำจัดศัตรูพืชและโรค: การดูแลรักษาแปลงนาให้ปราศจากศัตรูพืชและโรค เช่น โรคไหม้ โรคขอบใบแห้ง เป็นต้น จะช่วยให้ต้นข้าวเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์
  • สภาพภูมิอากาศ: ปริมาณน้ำฝน อุณหภูมิ และแสงแดด ล้วนมีผลต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าว หากสภาพอากาศไม่เหมาะสมอาจทำให้ผลผลิตน้อยลง
  • พันธุ์ข้าว: แม้เป็นข้าวหอมมะลิ 105 เองก็ตาม แต่คุณภาพเมล็ดพันธุ์ที่ใช้ อาจมีผลต่อผลผลิต ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้

เปรียบเทียบกับข้าวพันธุ์สุพรรณบุรี 90:

ข้อมูลที่ให้มาเกี่ยวกับข้าวพันธุ์สุพรรณบุรี 90 ซึ่งให้ผลผลิตสูงเฉลี่ย 600 กิโลกรัมต่อไร่ เป็นข้อมูลที่น่าสนใจ แต่ก็เป็นเพียงค่าเฉลี่ย และยังเป็นพันธุ์ข้าวที่แตกต่างจากข้าวหอมมะลิ 105 ทั้งในด้านคุณสมบัติและความต้องการในการดูแล

ข้อสรุป:

การคาดการณ์ผลผลิตข้าวหอมมะลิ 105 ต่อไร่ อย่างแม่นยำเป็นเรื่องยาก เนื่องจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องมีมากมาย แต่โดยทั่วไป ผลผลิตข้าวหอมมะลิ 105 อาจอยู่ที่ ตั้งแต่ 400 กิโลกรัมต่อไร่ขึ้นไปจนถึงมากกว่า 700 กิโลกรัมต่อไร่ หากมีการดูแลจัดการที่ดีเยี่ยม และปัจจัยต่างๆเอื้ออำนวย แต่เกษตรกรควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้ผลผลิตที่ดีที่สุด

บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ความรู้และสร้างความเข้าใจ ไม่ใช่คำแนะนำที่แน่นอน เกษตรกรควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรในพื้นที่ของตนเอง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และการจัดการของตนเอง