ยากดภูมิกินเพื่ออะไร
ยากดภูมิคุ้มกันในผู้ปลูกถ่ายไตมีความสำคัญสูงสุด เพื่อป้องกันการสลัดไต (การที่ร่างกายต่อต้านไตใหม่) ทำให้ไตที่ปลูกถ่ายอยู่ได้นานขึ้น เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย ไม่มีข้อยกเว้น ผู้ปลูกถ่ายไตทุกคนจำเป็นต้องรับประทานยาเหล่านี้ตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด การหยุดยาเองอาจเสี่ยงต่อการสูญเสียอวัยวะที่ปลูกถ่ายได้ การดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของการปลูกถ่ายไต
ยากดภูมิคืออะไร? ช่วยลดอาการแพ้ ป้องกันการอักเสบ และใช้รักษาโรคอะไรได้บ้าง?
อืมม ยากดภูมินี่นะ… คือตอนแรกที่ได้ยินก็งงๆ เหมือนกัน ยากดภูมิ? กดอะไร? (หัวเราะ)
แต่พอมาศึกษาจริงๆ จังๆ ถึงรู้ว่ามันคือยาที่ไป “กด” ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเราน่ะแหละ! คือปกติร่างกายเรามันจะเก่งใช่ป่ะ คอยสู้กับเชื้อโรค สิ่งแปลกปลอม แต่บางทีมันก็ overreact เหมือนกันนะ
อย่างเช่น…อาการแพ้ไง! จามไม่หยุด ผื่นขึ้นเต็มตัว อันนี้ยากดภูมิก็จะช่วยลดอาการพวกนี้ได้ หรือพวกการอักเสบเรื้อรังต่างๆ ก็ช่วยได้เหมือนกันนะ
แล้วที่ ผศ.นพ.ธนรร บอกว่าคนปลูกถ่ายไตต้องกินยากดภูมิทุกคนเนี่ย อันนี้สำคัญมากกก เพราะร่างกายเรามันจะมองว่าไตที่ปลูกถ่ายมาเป็น “สิ่งแปลกปลอม” ไง! แล้วก็จะพยายาม “สลัด” ทิ้ง
ยากดภูมินี่แหละที่จะช่วยให้ไตที่ปลูกถ่ายอยู่กับเราไปได้นานๆ คือมันเหมือนเป็นเพื่อนซี้กันไปเลยอะ ร่างกายกับไต
จำได้เลย ตอนนั้นไปงานวิ่งที่สวนลุมฯ เมื่อประมาณต้นปี 2566 (น่าจะกุมภาพันธ์มั้ง) เจอพี่คนนึงคุยกันเรื่องนี้แหละ แกปลูกถ่ายไตมา 5 ปีแล้ว ต้องกินยากดภูมิทุกวัน แกบอกว่าชีวิตดีขึ้นเยอะเลย แต่ก็ต้องระวังเรื่องติดเชื้อง่ายกว่าคนอื่นหน่อย
คือมันก็มีข้อดีข้อเสียแหละเนอะ แต่โดยรวมแล้วยากดภูมินี่ช่วยชีวิตคนได้เยอะมากจริงๆ
โรคอะไรที่ต้องกินยากดภูมิ
โรคที่ต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
จริงๆ แล้วโรคที่ต้องใช้ยากดภูมิมีหลายโรคมาก ขึ้นอยู่กับว่าภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานผิดปกติยังไง ไม่ใช่แค่ทำงานมากเกินไปอย่างเดียว บางทีทำงานน้อยไปก็ต้องใช้ยาช่วยเหมือนกัน
-
โรคแพ้ภูมิตัวเอง: อย่างเช่น โรค SLE (Systemic Lupus Erythematosus) หรือโรคลูปัส และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) พวกนี้ร่างกายไปโจมตีเซลล์ตัวเอง ต้องใช้ยากดภูมิเพื่อควบคุม
-
โรคหลังการปลูกถ่ายอวัยวะ: อันนี้สำคัญมาก ร่างกายจะมองอวัยวะใหม่เป็นสิ่งแปลกปลอม ต้องใช้ยากดภูมิเพื่อป้องกันการต่อต้าน ไม่งั้นร่างกายจะปฏิเสธอวัยวะนั้น นี่เป็นเหตุผลหลักที่คนปลูกถ่ายไตต้องกินยาตลอดชีวิต
-
โรคทางเดินอาหาร: บางโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง เช่น โรค Crohn’s disease หรือ ulcerative colitis อาจต้องใช้ยากดภูมิช่วยควบคุมอาการอักเสบ ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่าโรคพวกนี้ต้องดูแลสุขภาพร่างกายอย่างจริงจัง
-
โรคผิวหนัง: บางโรคผิวหนังร้ายแรง เช่น โรคสะเก็ดเงินชนิดรุนแรง ก็อาจต้องพึ่งยากดภูมิ จริงๆ แล้วโรคผิวหนังหลายอย่างการรักษามันซับซ้อนกว่าที่คิดนะ
-
โรคเลือดและระบบประสาท: โรคโลหิตจางธาลัสซีเมียบางชนิดที่รุนแรง หรือโรคทางระบบประสาทบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับการทำงานผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันก็อาจต้องใช้ยากดภูมิ
ข้อควรระวัง: การใช้ยากดภูมิต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด ยาพวกนี้มีผลข้างเคียง ถ้าใช้ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาได้ เช่น ติดเชื้อง่ายขึ้น เพราะภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
ปีนี้ (2566) ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักเกี่ยวกับโรคที่ต้องใช้ยากดภูมิ แต่เทคโนโลยีการแพทย์ก็พัฒนาอยู่ตลอด อาจมีการคิดค้นยากดภูมิชนิดใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพและผลข้างเคียงน้อยลงในอนาคต
ยากดภูมิ กินตอนไหน
ยากดภูมิ ควรทานหลังอาหารครับ เพื่อลดอาการข้างเคียง เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะถ้าทานตอนท้องว่าง โอกาสเกิดอาการไม่พึงประสงค์สูงขึ้น ผมเองเคยมีประสบการณ์ตรงกับยาประเภทนี้ ตอนนั้นทานก่อนอาหาร แทบวิ่งเข้าห้องน้ำเลยครับ ตั้งแต่นั้นมา เลยระมัดระวังเป็นพิเศษ จำใส่ใจให้ดีนะครับ
- ลดอาการข้างเคียง: การทานยากดภูมิหลังอาหารช่วยลดโอกาสเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม: แม้ว่าจะไม่ใช่กับยากดภูมิทุกชนิด แต่การทานหลังอาหารอาจช่วยเพิ่มการดูดซึมยาเข้าสู่กระแสเลือดได้บ้าง ขึ้นอยู่กับชนิดยาด้วยนะครับ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
- คำแนะนำแพทย์สำคัญที่สุด: อย่าลืมนะครับ คำแนะนำของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน สิ่งที่ใช้ได้ผลกับคนอื่นอาจไม่เหมาะกับเราเสมอไป เรื่องสุขภาพต้องละเอียดรอบคอบ
เพิ่มเติม: การทานยาควบคู่กับอาหารบางประเภทอาจมีผลต่อประสิทธิภาพของยาได้ เช่น การทานยาบางชนิดร่วมกับแคลเซียมอาจทำให้การดูดซึมยาลดลง ปีนี้ (2566) มีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับปฏิกิริยาระหว่างยากดภูมิและอาหาร แต่รายละเอียดจำเพาะต้องอ้างอิงจากเอกสารทางการแพทย์โดยตรงครับ ผมแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับตัวคุณเอง เพราะสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ อย่าประมาทนะครับ
กินยากดภูมิเพื่ออะไร
กินยากดภูมิเพื่ออะไรเนี่ย? 🤔 บางทีก็ลืมๆเหมือนกัน เออ ล่าสุดแม่เราก็เพิ่งไปหาหมอมา หมอบอกว่าแม่เป็น SLE ต้องกินยากดภูมิ SLE นี่มันโรคอะไรนะ โรคพุ่มพวงใช่มั้ย จำได้ลางๆ เคยอ่านเจอในเน็ต 🤔 คือมันเป็นโรคที่ร่างกายสร้างภูมิมาทำร้ายตัวเอง แปลกดีเนอะ เหมือนหนัง Sci-fi เลย
- SLE – Systemic lupus erythematosus (จดไว้หน่อย จะได้ไม่ลืม)
- แม่เราตรวจเจอ SLE ปีนี้เอง ตอนแรกก็ตกใจ แต่หมอบอกว่าคุมอาการได้
ถ้าร่างกายสร้างภูมิมาทำร้ายตัวเองก็ต้องกินยากดภูมิสินะ เหมือนปิดสวิตช์ไม่ให้ระบบมันทำงานหนักเกินไป ก็เข้าใจได้อยู่ แต่ยากดภูมินี่มันมีผลข้างเคียงเยอะเหมือนกันนะ แม่เราบ่นว่าเวียนหัว อ่อนเพลีย บางทีก็คลื่นไส้ สงสารแม่จัง 😥
- ผลข้างเคียงยากดภูมิ: เวียนหัว, อ่อนเพลีย, คลื่นไส้, ติดเชื้อง่าย
- แม่บอกว่าต้องระวังเรื่องการติดเชื้อ ล้างมือบ่อยๆ ใส่แมสก์ตลอด
นอกจาก SLE แล้ว ยังมีโรคอื่นๆที่ต้องกินยากดภูมิอีกใช่มั้ยนะ? เหมือนเคยได้ยินว่าคนที่ปลูกถ่ายอวัยวะก็ต้องกิน 🤔 จริงปะ หรือว่าจำผิด เพราะร่างกายจะมองอวัยวะใหม่เป็นสิ่งแปลกปลอม แล้วจะต่อต้าน ก็ต้องกินยากดภูมิเพื่อไม่ให้ร่างกายต่อต้านอวัยวะใหม่
- ปลูกถ่ายอวัยวะ – กินยากดภูมิเพื่อป้องกันการต่อต้านอวัยวะใหม่
- โรคอื่นๆ ที่ต้องกินยากดภูมิ: โรค Crohn, MS, Psoriasis
เมื่อกี้หาข้อมูลเพิ่ม โรค Crohn, MS, Psoriasis ก็ต้องกินยากดภูมิเหมือนกัน เยอะเหมือนกันนะเนี่ย เออ… เมื่อกี้แม่โทรมาบอกว่าพรุ่งนี้หมอนัดตรวจ ต้องไปเป็นเพื่อนแม่แล้ว 😅 ลืมไปเลย วันนี้ต้องเตรียมของไว้ก่อน จะได้ไม่ลืม พรุ่งนี้ต้องรีบตื่นด้วย
- Crohn’s disease – โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง
- Multiple Sclerosis (MS) – โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
- Psoriasis – โรคสะเก็ดเงิน
ยากดภูมิคุ้มกัน รักษาอะไร
ยากดภูมิคุ้มกันนี่นะ ฮาาาาา มันไม่ใช่ยาอมตะแก้ทุกโรคอย่างที่คิดหรอกนะพ่อคุณเอ๊ย! มันเหมือนเบรกของรถสิบล้อคันโหดๆ ที่วิ่งชนทุกอย่างที่ขวางหน้า เบรกไว้ไม่ให้มันพุ่งชนตัวเองตายนั่นแหละ! เอาเป็นว่ามันใช้รักษาพวกโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันมันบ้าคลั่ง ตีรวนตัวเองน่ะครับ
-
โรคภูมิต้านทานตัวเอง (Autoimmune disease): นี่แหละตัวพ่อ! พวกโรคที่ร่างกายบ้าไปเอง คิดว่าเซลล์ตัวเองเป็นศัตรู เลยโจมตีซะเละ อย่างโรคข้ออักเสบรูมาตอย โรคลูปัส โรคเบาหวานชนิดที่ 1 อะไรทำนองนี้ ยากดภูมิคุ้มกันนี่แหละจะไปช่วยเบรกความบ้าคลั่งของมัน
-
หลังการปลูกถ่ายอวัยวะ: นี่ก็สำคัญมาก! เพราะพอเราเอาอวัยวะใหม่เข้าไป ระบบภูมิคุ้มกันมันก็จะมองว่าเป็นศัตรู เลยพยายามทำลาย ยากดภูมิคุ้มกันก็เลยต้องเข้ามาช่วย ไม่งั้นอวัยวะใหม่ก็ไปไม่รอด
-
โรคมะเร็งบางชนิด: บางทีก็ใช้ยากดภูมิคุ้มกันช่วย เพราะมะเร็งบางชนิด ระบบภูมิคุ้มกันจะช่วยเร่งการเจริญเติบโตของมัน ยากดภูมิคุ้มกันจึงมีส่วนช่วยควบคุม แต่ไม่ได้รักษาหายขาดนะ อย่าเข้าใจผิด!
-
อื่นๆ อีกสารพัด: เอาจริงๆ แพทย์ใช้มันรักษาสารพัดโรคได้อีกเยอะแยะ แต่ก็ต้องระวังผลข้างเคียง มันเหมือนดาบสองคม ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี ก็เละได้เหมือนกัน! อย่างผมคนนึงนี่แหละ เคยเห็นเพื่อนผมโดนผลข้างเคียงยาตัวนี้เล่นงาน ซวยไปเลยล่ะ! (แต่ขอไม่ลงรายละเอียดนะ กลัวเจอฟ้อง!)
เพิ่มเติม: ก่อนกินยาประเภทนี้ ควรปรึกษาแพทย์ อย่าไปซื้อตามร้านขายยา หรือฟังคำแนะนำจากคนอื่น เพราะมันอันตรายกว่าที่คิดเยอะ! อย่าคิดว่าไปกินเองแล้วจะหาย มันต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์จริงๆ นะครับ ไม่งั้นอาจจะไปนอนโรงพยาบาลยาวเลยก็ได้! ปีนี้ก็ยังเห็นคนไปหาหมอเพราะยาพวกนี้ผลข้างเคียงเยอะอยู่ น่ากลัวจริง ๆ
ภูมิคุ้มกันทําลายตัวเอง เกิดจากอะไร
กลางดึกแบบนี้… คิดอะไรเรื่อยเปื่อย เรื่องภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองนี่แหละ มันแปลกๆเนอะ
ทำไมร่างกายถึงทำแบบนั้น… เหมือน… เหมือนเพื่อนทรยศอ่ะ ปกติมันต้องปกป้องเรา แต่ดันมาทำร้ายเราเอง… มันเกิดจากอะไรกันแน่
-
บางทีระบบมันผิดพลาด ตรวจจับอะไรผิดไป เลยไปโจมตีเซลล์ปกติของเราเอง ปีนี้ก็ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดนะ หมอบอกแต่ว่ามันซับซ้อนมาก
-
มีหลายปัจจัย พันธุกรรมก็มีส่วน แล้วก็สิ่งแวดล้อมด้วยมั้ง อาจจะเจอสารพิษอะไรสักอย่าง ตอนเด็กๆ ฉันเคยโดนสารเคมีรั่วใส่ ไม่รู้เกี่ยวไหมนะ
-
บางทีก็เป็นเพราะเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย มันแอบแฝงตัวอยู่ในเซลล์ของเรา แล้วระบบภูมิคุ้มกันก็ไปโจมตีมันพร้อมกับเซลล์เราไปด้วย คิดแล้วก็เหนื่อยใจ
ฮือ… มันเป็นโรคร้ายแรง ต้องคอยระวัง ฉันเองก็เคยเป็น เบื่อหน่ายกับการกินยา และต้องตรวจร่างกายเป็นประจำ เหนื่อยจัง
ปีนี้ก็ยังหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้เลย หมอก็บอกแต่ว่ารักษาตามอาการ มันทรมานนะ รู้ว่าจะต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิต
โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องมีอะไรบ้าง
โอเค นี่คือเรื่องของฉันนะ…
ภูมิคุ้มกันบกพร่องเนี่ย มันทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่ายมากกกก! แบบว่า… ปอดบวมนี่มาอันดับต้นๆ เลยนะ เคยเป็นตอนเด็กๆ ตอนนั้นอยู่ประมาณป. 4 ได้มั้ง ไปเที่ยวทะเลกับครอบครัวที่หัวหิน กลับมาคือไข้ขึ้นสูง ไอแบบทรมานมาก หมอบอกปอดอักเสบ ต้องนอนโรงพยาบาลให้ยาฆ่าเชื้อ โคตรเข็ด!
แล้วก็ยังมีพวกหูอักเสบอีก อันนี้ก็เป็นบ่อยเหมือนกัน ตอนเด็กๆ นี่แบบว่า…แทบจะทุกปี! ปวดหูแบบทรมานสุดๆ ต้องไปหาหมอให้หมอล้างหู ให้ยาหยอดหู มันทรมานกว่าปวดฟันอีกนะสำหรับเราอ่ะ
พวกทางเดินปัสสาวะอักเสบนี่ก็ใช่ย่อยนะ ผู้หญิงอย่างเราๆ นี่เจอบ่อยอยู่แล้ว ยิ่งภูมิคุ้มกันไม่ดีนี่…ไม่ต้องพูดถึง! ซิสถามเพื่อนรอบตัวก็บ่นกันอุบว่าฉี่แสบ ฉี่ขัดคือเรื่องปกติไปแล้ว
แต่ที่น่ากลัวสุดๆ ก็คือติดเชื้อในกระแสเลือดเนี่ยแหละ อันนี้คืออันตรายถึงชีวิตเลยนะ! ญาติเราเคยเป็น ต้องเข้า ICU ด่วนเลยอ่ะ น่ากลัวมากกกก!
แล้วก็พวกระบบทางเดินหายใจส่วนบนส่วนล่างอะไรพวกนี้ก็มาหมดแหละ จาม ไอ เจ็บคอ เป็นหวัด คือเรื่องปกติไปเลยสำหรับคนภูมิคุ้มกันไม่ดีอย่างเรา
วัณโรคนี่ก็อีกเรื่องนึง คนภูมิคุ้มกันต่ำนี่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นวัณโรค คือมันน่ากลัวนะ เพราะมันติดต่อกันได้ง่ายๆ ด้วย
- ปอดบวม: ตอนป.4 ที่หัวหินน่ะจำได้เลย!
- หูอักเสบ: เป็นตั้งแต่เด็กๆ เลย เบื่อมาก
- ทางเดินปัสสาวะอักเสบ: นี่ก็มาบ่อย เซ็ง
- ติดเชื้อในกระแสเลือด: อันนี้ญาติเคยเป็น น่ากลัว!
- วัณโรค: คนภูมิคุ้มกันต่ำเสี่ยง
ปีนี้ (2567) ก็พยายามดูแลตัวเองมากขึ้น กินวิตามิน ออกกำลังกายบ้าง แต่ก็ยังต้องระวังตัวอยู่ดีอ่ะ! เฮ้อ…ชีวิต!
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต