การสืบค้นเพื่อหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตมีวิธีการดำเนินการ 5 ขั้นตอนอะไรบ้าง

63 การดู

สืบค้นข้อมูลออนไลน์ 5 ขั้นตอน:

  • ระบุชัด: กำหนดคำถาม/หัวข้อให้เจาะจง
  • เลือกเครื่องมือ: ใช้ Search Engine ที่เหมาะสม พิมพ์คำค้นแม่นยำ
  • วิเคราะห์ผลลัพธ์: เลือกเว็บไซต์น่าเชื่อถือ ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการข้อมูล
  • ประเมินข้อมูล: ตรวจสอบความถูกต้อง เปรียบเทียบข้อมูลจากหลายแหล่ง
  • บันทึก/อ้างอิง: จดบันทึกและอ้างอิงแหล่งที่มาอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ

เพิ่มประสิทธิภาพ: ใช้คำค้นเฉพาะเจาะจง, กรองผลลัพธ์ตามความต้องการ, ใช้เครื่องหมายคำพูด(""), ใช้ตัวดำเนินการ (+,-,OR,AND) เพื่อจำกัดขอบเขต

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

วิธีการสืบค้นข้อมูลออนไลน์ 5 ขั้นตอนคืออะไร?

เอ่อ…สืบค้นข้อมูลออนไลน์หรอ? เอาจริงๆนะ มันไม่ได้มีสูตรตายตัวขนาดนั้นหรอก แต่ถ้าให้ว่าตามที่เคยทำๆมาอะนะ มันก็ประมาณนี้แหละ

  1. เริ่มจากต้องรู้ก่อนว่าอยากรู้อะไรจริงๆ ไม่ใช่แบบอยากรู้ทุกอย่างบนโลกอะ อย่างเช่น “วิธีทำผัดกะเพราไก่สับที่อร่อยที่สุดในสามโลก” อะไรแบบเนี้ย ชัดๆไปเลย

  2. Google นี่แหละตัวดี พิมพ์ไปเลยจ้ะ แต่! ลองเล่นคำดูนะ “ผัดกะเพราไก่สับ สูตรเด็ด เคล็ดลับ” อะไรก็ว่าไป อย่ากลัวที่จะลองผิดลองถูก

  3. พอมันขึ้นมาเป็นพรืดอะ อย่าเพิ่งเชื่อทุกอย่างนะ ดูดีๆ เว็บไหนมันดูน่าเชื่อถือ เว็บไหนมันก๊องๆแก๊งๆ ก็เลือกๆเอาหน่อย

  4. อ่านๆไปแล้วก็คิดตามไปด้วย ไม่ใช่เชื่อหมดใจ ต้องดูว่าข้อมูลมัน make sense ไหม ข้อมูลมันตรงกันหลายๆที่ไหม ถ้าเจอบทความวิชาการที่อ้างอิงแหล่งที่มาได้ยิ่งดีเลย

  5. สุดท้าย ถ้าเอาข้อมูลเขามาใช้ ก็ต้องให้เครดิตเขานะจ๊ะ จะได้ไม่โดนด่าว่าขโมยความคิดคนอื่น

เมื่อก่อนนะ ตอนทำรายงานตอน ม.ปลายอะ หาข้อมูลทีปวดหัวมาก เดี๋ยวนี้มันง่ายขึ้นเยอะจริงๆ แต่ก็ต้องระวังข่าวปลอม ข้อมูลผิดๆด้วยนะจ๊ะ

  • คำถาม: วิธีการสืบค้นข้อมูลออนไลน์ 5 ขั้นตอนคืออะไร?
  • คำตอบ: 1. กำหนดคำถามให้ชัด 2. ใช้เครื่องมือค้นหา 3. เลือกเว็บน่าเชื่อถือ 4. ประเมินความถูกต้อง 5. อ้างอิงแหล่งที่มา
  • คำถาม: กลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาคืออะไร?
  • คำตอบ: ใช้คำค้นเฉพาะเจาะจง กรองผลลัพธ์

เมื่อค้นหารูปภาพบน Google Image ผลลัพธ์จะแสดงออกมาในรูปแบบใด

เงียบจังเลยนะ กลางคืนแบบนี้… นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย

ผลการค้นหารูปภาพใน Google Image… มันก็เรียง ๆ กันมาเป็นตาราง เล็กบ้างใหญ่บ้าง ขึ้นอยู่กับขนาดไฟล์ต้นฉบับมั้งนะ…บางทีก็มีโฆษณาแทรกมาด้วย บางรูปก็เป็น .gif ขยับได้ด้วย

เราเคยลองเสิร์ชรูปแมวเรา… จำได้ว่าเสิร์ชจากรูปในมือถือ กดแชร์แล้วเลือก google lens เลย มันก็ขึ้นผลลัพธ์ว่าคล้ายกับพันธุ์อะไร…แล้วก็มีรูปแมวอื่นๆ ที่คล้ายกันโผล่มาเต็มไปหมด… ตอนนั้นนึกขึ้นได้ว่าเคยเอาไปลงกลุ่มทาสแมว เลยลองเลื่อนๆ ดู… ก็เจอรูปที่เราเคยลงจริง ๆ ด้วย รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกัน

  • ขนาดรูปแสดงผลไม่เท่ากัน
  • บางรูปเป็น .gif ขยับได้
  • มีโฆษณาแทรก
  • แสดงผลเป็น Grid
  • ค้นหาด้วย Google Lens ได้
  • เจอรูปที่เราเคยแชร์ไว้ในเว็บอื่น
  • บอกพันธุ์สัตว์เลี้ยงได้ (บางทีก็ไม่ตรงนะ แมวเรามันพันธุ์ผสม)
  • มีตัวกรองรูปเพิ่มเติม
  • เลือกขนาดรูปได้
  • ลิขสิทธิ์รูปภาพ

ขั้นตอนการสืบค้นแบบไล่เรียงมีอะไรบ้าง

ขั้นตอนการสืบค้นแบบไล่เรียงมีดังนี้ครับ ผมใช้ระบบฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 2566 เป็นหลักในการอธิบายนะครับ เพราะคุ้นเคย แต่หลักการทั่วไปน่าจะคล้ายกัน

  • ใส่คำค้น: พิมพ์คำหลักที่ต้องการค้นหาลงในช่องค้นหา ควรเลือกคำที่เจาะจงและมีความหมายชัดเจน การเลือกคำไม่เหมาะสมส่งผลต่อประสิทธิภาพการค้นหาโดยตรงเลยนะครับ เช่น อย่าใช้คำกว้างๆแบบ “ประวัติศาสตร์” แต่ควรใช้ “ประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์” แทน ลองคิดดูว่าเราอยากได้ข้อมูลแบบไหนก่อนก็จะช่วยได้เยอะ

  • เลือกเขตข้อมูล: ระบบส่วนใหญ่ให้เลือกได้ว่าจะค้นหาในเขตข้อมูลอะไรบ้าง เช่น ชื่อเรื่อง, ชื่อผู้แต่ง, คำสำคัญ (keywords), หัวเรื่อง (subject headings) การเลือกเขตข้อมูลช่วยจำกัดขอบเขตการค้นหาและได้ผลลัพธ์ที่ตรงความต้องการมากขึ้น ยิ่งเจาะจงยิ่งดีครับ เหมือนการใช้กล้องส่องทางไกลแทนการมองด้วยตาเปล่า เห็นรายละเอียดชัดขึ้นเยอะ

  • จำกัดผลการค้นหา: บางระบบมีตัวเลือกให้จำกัดผลลัพธ์ เช่น ปีที่ตีพิมพ์, ภาษา, ประเภทของเอกสาร อันนี้ช่วยกรองข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องได้ดีมาก ลองนึกถึงการค้นหาข้อมูลเรื่อง “การเปลี่ยนแปลงทางสังคม” ถ้าจำกัดเฉพาะเอกสารภาษาไทยและตีพิมพ์หลังปี 2550 ผลลัพธ์ที่ได้จะตรงประเด็นกว่ามาก มันก็เหมือนกับการเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับงานนั่นแหละครับ

  • การค้นหาผู้แต่งชาวต่างชาติ: ถ้าต้องการค้นหาผู้แต่งชาวต่างชาติ หลายระบบแนะนำให้ระบุชื่อสกุลก่อน เพราะระบบจะจัดลำดับการจัดเก็บข้อมูลตามนามสกุลเป็นหลัก การเรียงลำดับข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการข้อมูลจำนวนมาก เหมือนการจัดตู้หนังสือให้เป็นระเบียบนั่นเอง

  • กดปุ่มค้นหา: หลังจากเลือกตั้งค่าต่างๆเสร็จแล้ว ก็กดปุ่มค้นหาเพื่อเริ่มต้นกระบวนการสืบค้น เป็นขั้นตอนสุดท้าย แต่สำคัญไม่แพ้ขั้นตอนอื่นๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม: การสืบค้นแบบไล่เรียงเป็นเพียงวิธีการพื้นฐาน ยังมีเทคนิคการสืบค้นขั้นสูงอื่นๆ อีก เช่น การใช้ตัวดำเนินการ Boolean (AND, OR, NOT), การใช้เครื่องหมายคำพูดในการค้นหาคำหรือวลีที่แน่นอน, การใช้เครื่องหมาย * สำหรับการค้นหาคำที่มีรากศัพท์เดียวกัน การเรียนรู้เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้เราค้นหาข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสำคัญที่สุดคือ ต้องรู้จักวิธีการประเมินและวิเคราะห์ผลการค้นหาด้วยนะครับ อย่าเชื่อข้อมูลทุกอย่างที่เจอมา เหมือนกับชีวิตเลย ต้องเลือกสรรสิ่งดีๆ มาใช้ครับ

เทคนิคการค้นหาข้อมูลขั้นสูงมีอะไรบ้าง

เทคนิคค้นหาข้อมูลขั้นสูง: เลือกคำ/วลีได้แม่นยำขึ้น

  • คำเหล่านี้ทั้งหมด: ผลลัพธ์ตรงตามทุกคำที่ใส่ จำกัดผลลัพธ์ได้อย่างเข้มงวด

  • คำหรือวลีที่ตรงตามนี้: ผลลัพธ์ตรงเป๊ะกับคำ/วลีที่ระบุ หาข้อมูลเฉพาะเจาะจง

  • คำใดๆ เหล่านี้: เพียงคำเดียวในกลุ่มคำที่ใส่ก็เพียงพอแล้ว ขยายขอบเขตการค้นหา

เพิ่มเติม: ปีนี้ฉันใช้ Google Scholar มากขึ้นในการค้นคว้าวิทยานิพนธ์ เครื่องมือช่วยค้นหาเฉพาะด้านวิชาการ ประหยัดเวลาอย่างเห็นได้ชัด

หลักการทำงานของโปรแกรมค้นหามี3ขั้นตอนอะไรบ้าง

หลักการทำงานของโปรแกรมค้นหา:

  • Crawling: รวบรวม ข้อมูล. เหมือนแมงมุม ไต่ ไปทุกที่. ไม่มีข้อยกเว้น.

  • Indexing: สร้าง ดัชนี. จัดระเบียบ. เพื่อ ความเร็ว.

  • Ranking: จัด ลำดับ. ตามความเกี่ยวข้อง. อำนาจ อยู่ที่นี่.

เพิ่มเติม:

  • Crawling คือการที่โปรแกรม (spider, bot) เข้าไปสำรวจเว็บไซต์ต่างๆ โดยอ่านข้อมูลและลิงก์.
  • Indexing คือการสร้างสารบัญขนาดใหญ่ เพื่อให้การค้นหาทำได้รวดเร็ว.
  • Ranking ใช้อัลกอริทึมซับซ้อน เพื่อประเมินว่าหน้าไหน ดีที่สุด สำหรับผู้ใช้. ความลับทางการค้า.
#ค้นหาข้อมูล #วิธีการค้น