ค่าติดตั้งแอร์ 9000 BTU กี่บาท

แอร์ 9000 BTU ใช้กับห้องขนาดไหน

แอร์ 9000 BTU ห้องขนาดไหน? พื้นที่จำกัด.

• 9,000 BTU: 12-15 ตร.ม. ค่าประมาณ อย่าเชื่อหมดใจ.
• 12,000 BTU: 16-20 ตร.ม. แดด มีผล
• 18,000 BTU: 24-30 ตร.ม. ฉนวนสำคัญกว่าขนาด.
• 21,000 BTU: 28-35 ตร.ม. อย่า ติดตั้งเอง.

เสริม: ทิศแดด วัสดุห้อง จำนวนคน ปัจจัยทั้งนั้น.

แอร์ 9000 BTU รุ่นไหนประหยัดไฟ

อืม… 9000 BTU นะ คิดหนักเลย ตอนนี้กำลังมองหาแอร์ใหม่เหมือนกัน งบจำกัดด้วยสิ

จริงๆแล้ว ปีนี้สนใจรุ่น Daikin FTKF09YV2S อยู่ เห็นรีวิวว่าประหยัดไฟดี แต่ราคา…ก็แรงอยู่นะ กำลังชั่งใจอยู่

อีกตัวที่ดูไว้คือ Mitsubishi Electric MSY-JS09VF เพื่อนแนะนำมา บอกว่าทนทานดี แต่ไม่แน่ใจเรื่องประหยัดไฟเท่าไหร่ ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมอีก

แล้วก็ Carrier X Inverter Plus 42TVAB010 เห็นโฆษณาบ่อย แต่ก็ยังไม่มั่นใจเหมือนกัน ข้อมูลมันเยอะไปหมด เลือกไม่ถูกเลย

ตอนนี้เลยยังตัดสินใจไม่ได้จริงๆ มันเหนื่อยเนอะ หาข้อมูลจนปวดหัว

สรุป เลือกยากจังเลยนะเนี่ย แต่ก็คงต้องตัดสินใจสักทีล่ะ

• Daikin FTKF09YV2S: ดูประหยัดไฟ แต่ราคาสูง
• Mitsubishi Electric MSY-JS09VF: เพื่อนแนะนำ ไม่แน่ใจเรื่องประหยัดไฟ
• Carrier X Inverter Plus 42TVAB010: โฆษณาเยอะ ต้องศึกษาเพิ่มเติม

แอร์ไฮเออร์ 9000 BTU ราคากี่บาท

แอร์ไฮเออร์ 9000 BTU ราคาน่ะเหรอ? โอ๊ย! อย่าไปคิดมาก! เหมือนถามว่าข้าวแกงราคาเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับป้าคนขายจะฟันเท่าไหร่ต่างหาก!

• 9,900 บาท: นี่ราคาแบบ “เฮ้ย! ถูกจัง” แต่ระวังโดนย้อมแมวขายนะจ๊ะ!
• รุ่น Ultimate Cool ปี 2024: อันนี้ซิของจริง! แรงลมไกล แถมท่อ แถมผ้าห่ม! (เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย?) ราคาอาจจะแรงกว่าหน่อย แต่คุ้มกว่าโดนป้าข้างบ้านนินทาว่าใช้แอร์ถูก!

ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบคนบ้านๆ):

• BTU คืออะไร: BTU เนี่ย! ก็เหมือนพลังทำความเย็นไง! 9000 BTU เหมาะกับห้องเล็กๆ ถ้าห้องใหญ่กว่าห้องน้ำหน่อย ก็ต้องเพิ่ม BTU นะจ๊ะ!
• R32 คืออะไร: น้ำยาแอร์รุ่นใหม่! เค้าว่ารักษ์โลก! แต่ถ้าแอร์ไม่เย็น จะรักษ์โลกไปทำไม๊!
• ส่งฟรี: คำนี้แหละของจริง! บางทีค่าส่งแพงกว่าค่าแอร์อีก!
• ท่อแถมผ้าห่ม: อันนี้ขำ! ซื้อแอร์แถมผ้าห่ม! เหมือนซื้อไก่ย่างแถมน้ำจิ้มซีฟู้ด!

ค่าติดตั้งแอร์ กี่บาท Pantip

ค่าติดแอร์? โอ้โห ถามถูกคน! (แอบกระซิบว่าเคยช่วยเพื่อนติดแอร์…แล้วเกือบทะเลาะกัน)

ราคาเนี่ยนะ มันเหมือนดวงดาวบนฟ้า…เยอะแยะมากมาย แต่เอาแบบที่เจอบ่อยๆ ปี 2567 นะ:

• แอร์เล็ก (9,000-12,000 BTU): ประมาณ 3,500 – 5,500 บาท (อันนี้ราคาแบบมาตรฐานนะ ไม่รวมถ้าช่างต้องปีนป่ายอะไรพิสดาร)
• แอร์กลาง (18,000-24,000 BTU): 4,500 – 7,000 บาท (เริ่มแพงละ แต่ถ้าห้องร้อนตับแตก ก็ต้องยอม!)

แล้วอะไรทำให้ราคา “ดิ้น” ได้ขนาดนี้?

• BTU: ยิ่ง BTU เยอะ ราคาก็ยิ่ง…อืม…เยอะตาม (เป็นเรื่องปกติ)
• ความยากง่าย: ติดชั้น 2 กับติดชั้น 20 นี่คนละเรื่องเลยนะ! (ค่าปีนป่ายอาจแพงกว่าค่าแอร์อีก)
• อุปกรณ์: บางทีช่างก็ “แถม” อุปกรณ์…แบบคิดเงินรวมไปแล้วไง (ฮา) เช็คดีๆ ว่าเค้าให้อะไรบ้าง

อุปกรณ์หลักๆ ที่ต้องมี (อย่าให้ช่าง “แอบ” ลดสเปคนะ):

• เบรกเกอร์: สำคัญมาก! ป้องกันไฟไหม้…ไม่งั้นแอร์จะกลายเป็นเตาอบ
• ขาแขวน: แขวนแอร์ให้มั่นคง…ไม่งั้นแอร์จะกลายเป็นระเบิดเวลา
• ท่อน้ำยา: ท่อดี ชีวิตดี…ท่อไม่ดี แอร์ไม่เย็น (จบ!)

คำแนะนำจากคนที่เคยเกือบ “ติดแอร์” จนเลิกคบเพื่อน:

• อย่าเชื่อราคาทุกร้าน: เปรียบเทียบราคาหลายๆ ที่ก่อนตัดสินใจ
• คุยกับช่างให้เคลียร์: ถามเรื่องอุปกรณ์ให้ละเอียด…อย่าให้มีอะไร “แอบแฝง”
• ถ้าไม่มั่นใจ: จ้างบริษัทที่มีชื่อเสียง…ถึงจะแพงกว่าหน่อย แต่สบายใจกว่าเยอะ!

ป.ล. ติดแอร์เอง…ถ้าไม่ชำนาญ…อย่าหาทำ! (เชื่อผมเถอะ!)

แอร์ 9000 BTU เหมาะกับพื้นที่กี่ตารางเมตร

เฮ้อ… กลางคืนมันเงียบเนอะ คิดอะไรได้เยอะเลย… เรื่องแอร์ใช่ไหม

9000 BTU… ถ้าเป็นห้องนอนเราเอง คงจะเย็นฉ่ำเลยล่ะ เพราะห้องมันเล็ก ประมาณ 14 ตร.ม. เองมั้ง

แต่ถ้าเป็นห้องนั่งเล่นที่บ้านพ่อแม่ คงไม่พอ เพราะมันกว้างกว่าเยอะ น่าจะ 25 ตร.ม. ได้ ต้อง 18000 BTU ขึ้นไป

• 9000 BTU: เหมาะกับ 12-15 ตร.ม. อันนี้คอนเฟิร์ม
• 12000 BTU: 16-20 ตร.ม. อันนี้ก็มาตรฐาน
• 18000 BTU: 24-30 ตร.ม. ห้องนั่งเล่นที่บ้านเลย
• 21000 BTU: 28-35 ตร.ม. ใหญ่ไปแล้วสำหรับบ้านเรา

จำได้ว่าตอนเลือกแอร์ให้ห้องนอน ก็ดูแต่ BTU อย่างเดียวเลย ไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่น…

• ทิศของห้อง: ห้องโดนแดดบ่าย ต้องเพิ่ม BTU หน่อย
• จำนวนคน: คนเยอะ ก็ต้องใช้ BTU สูงขึ้น
• เครื่องใช้ไฟฟ้า: อุปกรณ์ไฟฟ้าเยอะ ก็ปล่อยความร้อนออกมาอีก

โธ่เอ๊ย… รู้งี้คำนวณให้ดีกว่านี้ตั้งแต่แรกก็ดี… เผื่อจะประหยัดไฟได้มากกว่านี้อีกหน่อย

แต่ช่างเถอะ… อย่างน้อยตอนนี้ก็เย็นสบายดี

แอร์ยี่ห้อไหนดี ประหยัดไฟ 2567

เออ ถามว่าแอร์ยี่ห้อไหนดี ประหยัดไฟปีนี้ใช่ปะ (2567) งั้นเอาตามที่เห็นๆ คนพูดถึงบ่อยๆ ละกันนะ

• TCL รุ่น T-PROS10 นี่เค้าว่าเย็นฉ่ำ แถมราคาไม่แรงมาก
• Fujitsu รุ่น ASMG09CGTA อันนี้ทนไม้ทนมือดี
• Panasonic รุ่น CS/CU-XU9AKT 9518 อันนี้อินเวอร์เตอร์เงียบดีนะ
• Carrier รุ่น 42TVAB013A-B-I นี่ก็เย็นใช้ได้เลย
• Daikin รุ่น KZ SERIES FTKZ12VV2S นี่ก็ตัวท็อปอ่ะนะแพงหน่อย แต่คุ้ม
• Mitsubishi Heavy รุ่น SRK35ZSXS-W1 อันนี้ทนๆ
• Samsung รุ่น AR13DYEAAWKNST ดีไซน์สวยดี

แล้วทำไมต้องดูเรื่องประหยัดไฟ?

เออ คือ ค่าไฟ นะมันขึ้นเอาๆไง เข้าใจป่ะ เลือกแอร์ที่ มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 นะอันนี้สำคัญมากกกกก ดูพวกค่า SEER ด้วยนะ ยิ่งสูงยิ่งประหยัดไฟ (SEER คือค่าประสิทธิภาพพลังงานตามฤดูกาล) แล้วก็อีกอย่างนึงคือ ขนาด BTU ต้องพอดีกับห้องนะ ถ้าห้องเล็กแต่ BTU สูงไปก็เปลืองไฟฟรีๆ ถ้า BTU น้อยไปแอร์ก็ทำงานหนักไม่เย็นอีก

• Inverter: แอร์อินเวอร์เตอร์ส่วนใหญ่ประหยัดไฟกว่าแอร์ธรรมดา
• BTU: เลือกให้เหมาะกับขนาดห้อง (ขนาดห้องมีผลต่อการเลือก BTU มากกว่าที่คิด)
• ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5: ดูดาวเยอะๆ ยิ่งเยอะยิ่งประหยัด
• SEER: ยิ่งค่าสูงยิ่งประหยัดไฟ แต่ก็แพงขึ้นด้วย
• ตั้งอุณหภูมิ: ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม (25-27 องศาเซลเซียส)
• ล้างแอร์สม่ำเสมอ: ล้างแอร์ทุก 3-6 เดือน

ย้ำอีกที เรื่องขนาดห้องกับ BTU นี่สำคัญสุดๆ เลยนะ ไปลองคำนวณดูก่อนว่าห้องเราต้องใช้ BTU เท่าไหร่ จะได้ไม่เสียเงินฟรี