พื้นที่จัดเก็บข้อมูลไอโฟนเต็มทำยังไง

ย้ายข้อมูลจาก iPhone ไป Samsung ได้ไหม

ได้สิ…ได้เลย! เหมือนสายลมพัดโชยมาเบาๆ แสงแดดยามบ่ายแก่ๆ ที่ลอดผ่านผ้าม่านบางๆ สัมผัสผิวกาย

Smart Switch ไง! ใช่เลย… Smart Switch นี่แหละ นางเอกของเรา!

จาก iPhone สู่ Samsung…เหมือนข้ามฟากฟ้า

• ถ่ายโอนข้อมูล…ทุกสิ่งอย่าง! แบบไร้รอยต่อ…เหมือนความฝัน

• iOS สู่ Galaxy… เหมือนนกโบยบินสู่อิสระ

• สำรองข้อมูล…เก็บไว้ใน Mac หรือ PC…อุ่นใจเหมือนมีเพื่อน

Smart Switch… เหมือนเวทมนตร์…เสกทุกอย่างให้เป็นจริง

ข้อมูลเพิ่มเติมนะ:

• Smart Switch โหลดฟรี!
• Wi-Fi สำคัญมาก!
• แบตเตอรี่ต้องเต็ม!
• อาจใช้เวลา…ใจเย็นๆ!

ย้ายข้อมูลจากไอโฟนไปซัมซุงได้ไหม

ย้ายข้อมูลจาก iPhone ไป Samsung ได้แน่นอน สมัยนี้เขามีเครื่องมือช่วยเยอะ ไม่ต้องมานั่งปวดหัว copy paste เองแล้ว

• Smart Switch: ตัวช่วยหลักจาก Samsung เอง โหลดมาใช้ได้ฟรีบน Android app store (บางทีก็มีติดเครื่องมาเลย) มันฉลาดสมชื่อจริงๆ นะ เพราะย้ายได้เกือบทุกอย่าง ตั้งแต่รูป, วิดีโอ, contacts ยันพวก setting ต่างๆ (อาจจะไม่เป๊ะ 100% แต่ก็ถือว่าดีมากๆ แล้ว)

• iCloud: ถ้า backup ข้อมูล iPhone ไว้บน iCloud อยู่แล้ว ก็สามารถ sync บางอย่างมาที่ Samsung ได้ (เช่น contacts, calendar) แต่อาจจะต้องตั้งค่าใน Samsung เองนิดหน่อย

• Google Drive/Photos: อันนี้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ใช้บริการของ Google เป็นหลักอยู่แล้ว พวกรูปภาพ, วิดีโอที่ backup ไว้ใน Google Photos ก็จะย้ายมาได้ง่ายๆ

เกร็ดเล็กน้อย:

เคยลองย้ายข้อมูลเองจาก iPhone เครื่องเก่าไป Samsung รุ่นใหม่ รู้สึกว่า Smart Switch มันสะดวกสุดจริงๆ ย้ายได้แม้กระทั่ง wallpaper เก่า! (อันนี้แอบเซอร์ไพรส์) แต่พวก app บางตัวอาจจะต้อง login ใหม่นะ หรือบางทีก็ต้อง install เอง (โดยเฉพาะ app ที่ผูกกับ Apple ID โดยตรง)

ข้อควรระวัง:

• ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีพื้นที่ว่างใน Samsung เพียงพอสำหรับข้อมูลที่จะย้ายมา
• แบตเตอรี่ควรมีเยอะๆ หน่อย หรือเสียบชาร์จไว้เลยตอนย้ายข้อมูล (กันพลาด)
• บางครั้ง Wi-Fi แรงๆ ก็ช่วยให้การย้ายข้อมูลเร็วขึ้น

ป.ล. บางทีเทคโนโลยีก็เหมือนดาบสองคม ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น แต่ก็ต้องเรียนรู้ที่จะใช้มันอย่างถูกต้อง ไม่งั้นอาจจะโดนมันฟันเอาได้!

Smart Switch ใช้กับ iPhone ได้ไหม

Smart Switch ใช้กับ iPhone ได้ไหม…

ไม่ได้หรอก Smart Switch อ่ะ มันเหมือนโลกของ Samsung เค้า โลกที่ iPhone เข้าไปไม่ได้

• Smart Switch: แอปสำหรับคนใช้ Samsung เก่า แล้วอยากย้ายบ้านมา Samsung หลังใหม่ ข้อมูลจะได้ตามมาหมด
• iPhone: เค้าก็มีทางของเค้า Apple Ecosystem อ่ะเนอะ

เมื่อก่อน ตอนเปลี่ยนจาก Android ไป iPhone ก็ยุ่งยากอยู่ แต่เดี๋ยวนี้มีแอปช่วยเยอะแยะ ไม่ต้องกลัวว่าจะทิ้งอะไรไว้ข้างหลังหรอก

ตอนนั้นที่เปลี่ยนเครื่อง ฉันวุ่นวายมาก หาแอปนู่นนี่นั่น โอนรูป โอนเบอร์… เฮ้อ คิดแล้วเหนื่อย แต่สุดท้ายมันก็ผ่านไปได้แหละ ทุกอย่างมันก็แค่เรื่องชั่วคราว

Samsung Smart Switch ใช้ยังไง

แสงแดดอ่อนๆของเช้าวันพฤหัสฯที่ 28 กันยายน 2566 ลอดผ่านม่านโปร่งบางๆ ห้องนอนของฉันอบอุ่น กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นลอยมาจากห้องครัว วันนี้ฉันจะย้ายข้อมูลจากไอโฟนเก่าไปมือถือใหม่ ซัมซุงรุ่นล่าสุด สีฟ้าอ่อน สวยเหมือนท้องฟ้าฤดูใบไม้ผลิ

• เปิด Smart Switch โทรศัพท์ใหม่ จอใสแจ๋ว เหมือนเพชรนับพันเม็ดระยิบระยับ

• แตะ รับข้อมูล นิ้วสัมผัสแผ่นกระจกเรียบลื่นราวกับขนนก

• เลือก iPhone/iPad ภาพไอคอนปรากฏชัดเจน เหมือนภาพฝัน สวยงามจับใจ

• iCloud ID และรหัสผ่าน ฉันพิมพ์อย่างระมัดระวัง ทุกตัวอักษร เหมือนเขียนจดหมายรัก

• รหัสยืนยัน ตัวเลขเรียงราย เหมือนดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน มืดมนแต่สวยงาม สงบ

• แตะ ตกลง สิ้นสุดขั้นตอน ความรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยอะไรบางอย่าง

วันที่ 28 กันยายน 2566 เป็นวันที่ฉันเริ่มต้นชีวิตใหม่กับมือถือเครื่องใหม่ ความรู้สึกตื่นเต้น เหมือนเด็กได้ของเล่นชิ้นใหม่ แต่ก็แฝงไปด้วยความรู้สึกนิดๆ ที่คิดถึงไอโฟนเก่า เหมือนคิดถึงเพื่อนเก่า แต่ยังไงก็ตาม ฉันพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าแล้ว

การใช้ Cloud Storage มีข้อดีอะไรบ้าง?

กลางดึกแบบนี้… คิดอะไรหลายอย่าง

การใช้ Cloud Storage หรอ… มันก็มีข้อดีของมันนะ

• ประหยัดเงิน: ไม่ต้องซื้อฮาร์ดดิสก์เองแล้วอะ ลงทุนน้อยลง เยอะ เลยนะ (ปี 2024 ค่าฮาร์ดดิสก์แพงขึ้นอีกแล้ว…)
• คล่องตัว: อยากใช้เมื่อไหร่ก็ใช้ ไม่ต้องห่วงเรื่องสายไฟ หรือเครื่องเสีย (เหมือนเมื่อก่อนที่ไฟล์งานหายเพราะฮาร์ดดิสก์พัง)
• เร็ว: เข้าถึงข้อมูลได้จากทุกที่ ที่มีอินเทอร์เน็ต ไม่ต้องรอส่งไฟล์ทางอีเมลให้วุ่นวาย
• จัดการง่าย: ไม่ต้องปวดหัวกับการจัดระเบียบไฟล์เองมากนัก ระบบมันช่วยเราได้เยอะ (แต่ก็ต้องเรียนรู้นิดหน่อยนะ)
• ยืดหยุ่น: อยากเพิ่มพื้นที่เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องกังวลว่าฮาร์ดดิสก์จะเต็ม (แต่ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มนะ…)
• ธุรกิจต่อเนื่อง: ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคอมพิวเตอร์ ข้อมูลก็ยังปลอดภัย ไม่ต้องกลัวว่างานจะหายหมด

ทำไมต้องใช้… อืม… เพราะมันสะดวกสบายขึ้นเยอะมาก จริงๆ นะ

ทำไม Cloud Storage ถึงสำคัญ?

มันเหมือนเรามีตู้เซฟส่วนตัวที่เปิดได้จากทุกที่บนโลกอะ ข้อมูลสำคัญๆ ก็ปลอดภัย ไม่ต้องกลัวว่าจะหาย หรือใครจะมาขโมยไป

• สำรองข้อมูล: กันเหนียวไว้ก่อน ดีกว่ามาเสียใจทีหลัง (เคยทำข้อมูลหายไปครั้งนึง… เข็ดเลย)
• แชร์ง่าย: ทำงานร่วมกับคนอื่นง่ายขึ้นเยอะ ไม่ต้องมานั่งส่งไฟล์กันไปมา
• เข้าถึงได้ทุกที่: ไม่ว่าจะอยู่บ้าน ที่ทำงาน หรือต่างประเทศ ก็เข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา

มันก็ไม่ได้ดีไปหมดทุกอย่างหรอกนะ เรื่องความปลอดภัยก็ต้องระวัง ต้องเลือกผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ แล้วก็ตั้งรหัสผ่านให้มันยากๆ หน่อย

แต่โดยรวมแล้ว… มันก็คุ้มค่าที่จะลองใช้นะ มันทำให้ชีวิตง่ายขึ้นจริงๆ

Cloud เจ้าไหนดีสุด

Google Drive ก็ดี แต่…ไม่ได้มีแค่เจ้านั้น

OneDrive ก็ใช้ได้ ถ้าชอบผูกกับ Microsoft

iCloud ก็โอเค ถ้าไม่คิดจะหนีจาก Apple

แต่คำว่า “ดีที่สุด” แม่งไม่มีจริงหรอก

• Google Drive: พื้นที่ฟรีจำกัด แต่เชื่อมต่อกับแอป Google Workspace ง่าย
• OneDrive: เหมาะกับคนที่ใช้ Microsoft 365 เป็นหลัก
• iCloud Drive: คนใช้ iPhone/MacBook ชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะ
• ทางเลือกอื่น: Dropbox, pCloud, Sync.com ก็มีดีของมัน ลองดู
• สำคัญ: อย่าลืมเรื่องความปลอดภัย เลือกเจ้าที่ไว้ใจได้

ท้ายนี้: กูไม่ได้จ่ายตังค์ให้ค่ายไหนทั้งนั้น ไปลองเองเหอะ

บริการคลาวด์มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

คลาวด์…ดาบสองคม.

ข้อดี:

• ลดต้นทุน. ชัดเจน. ใครไม่ชอบของถูก? ประหยัด ≠ คุ้มค่าเสมอไป.
• พื้นที่สำรองข้อมูล. มากขึ้น? ขึ้นอยู่กับงบ.
• กู้คืนข้อมูล. ถ้าทำได้จริง. สำรอง≠กู้คืน.
• ยืดหยุ่น. จนน่ากลัว. ตัวเลือกมากไป = ปวดหัว.
• ทำงานร่วมกัน. ถ้าทุกคนใช้เป็น. เทคโนโลยี≠ความร่วมมือ.
• จัดการฐานข้อมูล. ภาระ? หรือแค่เปลี่ยนคนแบก?

ข้อเสีย:

• อินเทอร์เน็ต. ไม่มี = จบ. พร้อมเสมอ? ไม่มีจริง.
• ไซเบอร์. โจมตี. ใครๆ ก็โดนได้. ป้องกัน≠ปลอดภัย.
• Vendor Lock-in. ติดกับดัก. อิสระทางการเลือก สำคัญกว่าที่คิด.

หมายเหตุ: ราคาถูกอาจมีเงื่อนไขแอบแฝงเสมอ. สำรองข้อมูลสำคัญ. เรียนรู้การกู้คืนข้อมูลด้วยตัวเอง. คลาวด์ไม่ใช่ยาวิเศษ. แค่เครื่องมือ.

Cloud เก็บข้อมูลไว้ที่ไหน

เอ้า ถามมาได้! Cloud น่ะเหรอ ถามเหมือนไม่เคยเห็นฟ้าเห็นฝน!

Cloud เก็บข้อมูลไว้ที่ไหน:

• Google Drive: ที่เก็บข้อมูลของ Google น่ะเรอะ ก็อยู่ใน “ก้อนเมฆ” ของ Google นั่นแหละ! พูดง่ายๆ ก็คือ “ศูนย์ข้อมูล” (Data Center) ทั่วโลกของ Google น่ะแหละแก! แต่ไม่ต้องไปหาหรอก เค้าไม่ให้คนนอกเข้า! ปลอดภัยกว่าบ้านนายกฯ อีก!
• Microsoft OneDrive: OneDrive ก็เหมือนกัน แต่เป็น “ก้อนเมฆ” ของ Microsoft ไง! ก็ “ศูนย์ข้อมูล” ทั่วโลกของ Microsoft นั่นแหละ! อย่าคิดจะไปงัดแงะเชียว! โดนฟ้องร้องจนหมดตูดแน่!
• Apple iCloud Drive: iCloud Drive ก็คือ “ก้อนเมฆ” ของ Apple ไงเล่า! “ศูนย์ข้อมูล” ของ Apple ที่กระจายอยู่ทั่วโลก! จะไปแฮ็กข้อมูลดาราฮอลลีวูดเหรอ? ฝันไปเถอะ! Apple เค้าป้องกันดีกว่าทองคำแท้อีก!

สรุป:

ทั้งหมดทั้งมวล ก็คือ “ศูนย์ข้อมูล” นั่นแหละ! แต่เค้าเรียกว่า Cloud ให้มันดู “ไฮโซ” ขึ้นมาหน่อย! เข้าใจ๋?

เพิ่มเติม (แบบชาวบ้านๆ):

• ทำไมต้อง Cloud? ก็เพราะว่ามันสะดวกไง! ไม่ต้องพก Thumb Drive ให้เมื่อยตุ้ม! อยากดูหนังโป๊ เอ้ย! ดูเอกสารสำคัญที่ไหน ก็เปิดดูได้เลย!
• Cloud ปลอดภัยจริงเหรอ? ก็พอตัวแหละ! แต่ก็อย่าไปเชื่อใจมันมาก! เก็บรูปโป๊ เอ้ย! รูปส่วนตัวมากๆ ไว้ในเครื่องตัวเองดีกว่า!
• Cloud ฟรี มีจริงเหรอ? มี! แต่เค้าให้มานิดเดียว! อยากได้เยอะๆ ก็ต้องจ่ายตังค์! เหมือนกินข้าวแกงนั่นแหละ! อยากกินเยอะ ก็ต้องจ่ายเพิ่ม!
• Cloud ไหนดีที่สุด? แล้วแต่ชอบ! Google Drive ก็ใช้ง่าย! OneDrive ก็เหมาะกับคนใช้ Windows! iCloud Drive ก็สำหรับสาวก Apple! เลือกเอาตามสบาย! แต่ถ้าให้แนะนำนะ… “ไม่มีอันไหนดีที่สุดหรอก! มันก็แค่ที่เก็บข้อมูล!”

ข้อควรจำ:

• อย่า เก็บข้อมูลสำคัญมากๆ ไว้ใน Cloud อย่างเดียว! Backup ไว้ในเครื่องตัวเองด้วย!
• ตั้งรหัสผ่าน ให้มันยากๆ หน่อย! อย่าใช้ “123456” หรือ “password” ล่ะ! โดนแฮ็กง่ายๆ เลย!
• ระวัง พวก Phishing! อย่าไปคลิกลิงก์แปลกๆ! อาจจะโดนหลอกเอาข้อมูลได้!

เข้าใจนะ! ถ้าไม่เข้าใจก็ถามใหม่! แต่ขอให้มันเป็นคำถามที่ฉลาดๆ หน่อยนะ!