รีบูทโทรศัพท์ข้อมูลจะหายไหม

รีเซ็ตเครื่องข้อมูลจะหายไหม

กลางดึกแบบนี้… คิดเรื่องรีเซ็ตโทรศัพท์อยู่น่ะ

หายไหมนะ… ข้อมูลส่วนตัวที่อยู่ในเครื่องอะ รูปกับวีดีโอที่ถ่ายไว้กับน้องหมาปีนี้ หายหมดแน่เลยใช่ไหม อืม… เสียใจนิดหน่อย แต่ก็ต้องทำแหละ เครื่องมันค้างบ่อยมาก ใช้มาจะสองปีแล้ว ช้าเป็นเต่าเลย

• ข้อมูลในเครื่องหายแน่นอน รูปที่ไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนสมัยมหาลัยปีที่แล้วก็คงไปด้วย
• ข้อมูลใน Google Drive อย่างรูปที่อัพโหลดไว้ อันนั้นยังอยู่ โล่งใจไปหน่อย แต่แอปกับข้อมูลในแอปหายหมดนี่สิ… ต้องลงใหม่หมดเลย เกมส์ที่เล่นอยู่น่ะ ต้องเริ่มใหม่หมด เล่นมาตั้งนานแล้วด้วย เสียเวลาไปหลายชั่วโมง เกมส์ที่เล่นถึงเลเวล 80 ต้องเริ่มใหม่

เหนื่อยจัง ทำใจยากเหมือนกันนะ แต่ก็จำเป็นจริงๆ ใช้ไปเรื่อยๆ แบบนี้ไม่ไหวแล้ว ต้องรีเซ็ตจริงๆแล้วล่ะ พรุ่งนี้คงต้องเสียเวลาทั้งวันเลย แต่ก็คงคุ้มแหละ ได้เครื่องใหม่ ไวๆ สบายๆ หวังว่าอย่างนั้นนะ

การรีบูทเครื่องคืออะไร

การรีบูท (Reboot) คือกระบวนการปิดและเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่ ต่างจากการปิดเครื่องแบบปกติตรงที่เป็นการปิดและเปิดอย่างรวดเร็ว เปรียบได้กับการ “เริ่มต้นใหม่” ระบบปฏิบัติการ โดยไม่ต้องรอให้ระบบดับสนิท ซึ่งมีประโยชน์หลายประการ

• แก้ปัญหาความผิดพลาดชั่วคราว: คล้ายกับการรีเฟรชหน้าเว็บ การรีบูทช่วยแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน เช่น แอปพลิเคชันค้าง หรือระบบทำงานช้าลง

• ล้างแคชและไฟล์ชั่วคราว: การทำงานของระบบปฏิบัติการ มักสร้างไฟล์ชั่วคราว ซึ่งถ้ามากเกินไปจะทำให้เครื่องทำงานหนักขึ้น การรีบูทจะช่วยล้างไฟล์เหล่านี้ได้

• ตรวจสอบการทำงานของแอปพลิเคชัน: การรีบูทจะทำให้ระบบตรวจสอบการทำงานของแอปต่างๆ ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ซึ่งอาจมีบางแอปที่ทำงานผิดปกติ ทำให้ระบบช้าลง

• ประหยัดพลังงาน (ในบางกรณี): การปิดเครื่องแบบสมบูรณ์ อาจใช้พลังงานมากกว่าการรีบูท โดยเฉพาะในอุปกรณ์บางประเภท

Restart กับ Reboot มีความหมายใกล้เคียงกันมาก มักใช้สลับกันได้ แต่บางครั้ง Restart อาจหมายถึงการเริ่มต้นระบบย่อย ส่วนหนึ่งของเครื่อง เช่น การรีสตาร์ทโปรแกรม ไม่ใช่ทั้งระบบ ซึ่งแตกต่างจาก Reboot ที่มักหมายถึงการเริ่มต้นใหม่ทั้งระบบ

เพิ่มเติม: ความแตกต่างที่สำคัญอยู่ที่ระดับการปิดระบบ Reboot ปิดระบบอย่างสมบูรณ์ก่อนเริ่มใหม่ ในขณะที่ Restart อาจเป็นการเริ่มต้นระบบใหม่โดยไม่ต้องปิดเครื่องทั้งหมด (เช่น การรีสตาร์ท Router บางรุ่น) แต่โดยทั่วไปแล้ว ในชีวิตประจำวัน คำทั้งสองมีความหมายใกล้เคียงกันมากจนแทบไม่จำเป็นต้องแยกแยะ ผมเองก็มักใช้สลับกันไปมา แล้วแต่ความสะดวกครับ

รีบูตเครื่อง ทํายังไง

รีบูตเครื่องทำไง?

กดปุ่มเปิด/ปิด ค้างไว้ครับ จะมีเมนูขึ้นมาให้กด “รีบูต” หรือ “รีสตาร์ท” แล้วเครื่องจะรีเอง

• ทำไมต้องรีบูต: บางทีเครื่องมันเอ๋อๆ รีบูตก็เหมือนการ reset สมองชั่วคราว ให้มันเริ่มต้นใหม่
• ไม่ใช่แค่ปิดแล้วเปิดใหม่: การรีบูตมันลึกกว่านั้น มันเคลียร์พวก cache ต่างๆ ที่อาจจะทำให้เครื่องอืด
• ทางเลือกอื่น: ถ้าปุ่มเสีย หรือเครื่องค้างจนกดอะไรไม่ได้ ลองหาปุ่ม reset เล็กๆ ที่เครื่อง (ถ้ามี) หรือรอแบตหมดแล้วชาร์จใหม่ อันนี้เป็นวิธีสุดท้ายจริงๆ
• ปรัชญาส่วนตัว: ชีวิตก็เหมือนกัน บางทีต้องรีบูตตัวเองบ้าง ล้างความเครียด เริ่มต้นใหม่กับอะไรที่มันสดใสกว่าเดิม…

ข้อควรระวัง:

• อย่ารีบูตบ่อยเกินไป มันก็เหมือนคนนั่นแหละ พักผ่อนบ้างอะไรบ้าง
• ก่อนรีบูต ควรเซฟงานที่ทำค้างไว้ก่อนนะ เดี๋ยวหาว่าไม่เตือน

รีบูทเครื่องช่วยอะไร

คือแบบนี้ เมื่อวานนี้เอง ประมาณบ่ายสองโมงกว่าๆ ไอโฟน 13 ของฉันมันค้าง หน่วงมาก เล่นเกมไม่ได้เลย คือมันกระตุก ภาพมันไม่ลื่น อารมณ์เสียสุดๆ! เลยต้องรีบูทเครื่อง กดปุ่มเปิดปิดค้างไว้จนมันดับไป แล้วก็เปิดใหม่ อื้อหือ บอกเลยว่า ลื่นปรื๊ด! เหมือนได้เครื่องใหม่เลย เล่นเกมได้ลื่นไหล ไม่มีสะดุด ตอนนั้นโล่งใจมาก หายเซ็งเลย

จริงๆแล้วนะ ฉันรีบูทเครื่องประมาณอาทิตย์ละครั้งอยู่แล้ว มันช่วยได้เยอะ ไม่ใช่แค่เรื่องเกม แต่แอปอื่นๆด้วย บางทีมันค้าง หรือว่าหน่วงๆ รีบูทที ก็หาย รู้สึกเครื่องมันเบาขึ้น เร็วขึ้น แบบว่าทำงานได้คล่องขึ้นอะ

• ช่วยให้เครื่องทำงานลื่นไหลขึ้น
• ช่วยเคลียร์แคช แอปต่างๆทำงานได้ไวขึ้น
• เหมือนให้เครื่องได้พัก ลดภาระการทำงานของโปรเซสเซอร์
• ช่วยยืดอายุแบตเตอรีได้ จริงนะ เพราะมันลดการทำงานหนักของแบต

เดือนนี้ลองสังเกตดูแล้ว รู้สึกว่าแบตอยู่ได้นานขึ้นด้วย ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แนะนำเลย ใครใช้มือถือ ลองรีบูทเครื่องบ่อยๆดู รับรองว่า คุ้มค่ากับเวลาไม่กี่วินาทีที่ต้องใช้ ลองทำดูนะ แล้วจะรู้ว่ามันดีจริงๆ

รีบูทเครื่องแปลว่าอะไร

รีบูท คือ เริ่มใหม่ จบ.

• Restart: เริ่มกระบวนการเดิม อาจแก้ปัญหาเล็กน้อย.

• Reboot: เริ่มระบบปฏิบัติการใหม่ ลึกกว่า.

  เหมือนถอนหายใจ กับเปลี่ยนปอด

• แก้ค้าง: ล้าง cache, หยุด process เบื้องหลัง.

• ข้อมูล: การ restart ช่วยแก้ปัญหา 70% (จากสถิติส่วนตัว)

• สำคัญ: ข้อมูลไม่หาย ถ้าไม่ format.

การรีสตาร์ทคืออะไร

รีสตาร์ท? อ้อ! นั่นมันคำง่ายๆ ที่แฝงความลึกซึ้งทางปรัชญาเอาไว้เยอะนะ! ภาษาอังกฤษคือ restart, ภาษาไทยก็อย่างที่บอก “เริ่มทำต่อ” นั่นแหละ! แต่ไม่ใช่แค่กดปุ่มแล้วจบนะจ๊ะ!

• มันคือการให้โอกาสระบบได้ล้างไตตัวเอง เหมือนเราไปนวดสปาเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้สดชื่น แต่ของระบบนี่คือการเคลียร์แคช, ปิดโปรแกรมที่ค้างคาใจ (และกินแรมซะหมด!), แล้วเริ่มต้นใหม่ด้วยความสดใส คิดซะว่าเป็นการ “บวช” ให้ระบบได้พักผ่อนบ้าง ไม่งั้นมันก็อารมณ์เสีย ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพหรอกนะ!

• ใน Windows 95, 98 สมัยก่อนนี่ restart windows คือประสบการณ์ชีวิตเลยนะ ต้องรอจนหน้าจอขึ้นโลโก้ Windows แล้วค่อยโล่งใจ (สมัยนี้เร็วขึ้นเยอะ ไม่งั้นคงไม่มีใครทนใช้!) เหมือนรอหมอตรวจร่างกายเสร็จ แล้วได้ยาดีๆ กลับบ้าน หายป่วย!

• แต่เดี๋ยวนี้ การรีสตาร์ทไม่ได้มีแค่ในคอม ชีวิตคนเราก็เหมือนกัน บางทีก็ต้อง “รีสตาร์ท” ตัวเองบ้าง ล้างความเครียด ล้างความเหนื่อยล้า แล้วเริ่มต้นใหม่ด้วยความมุ่งมั่น เหมือนเปลี่ยนแบตเตอรี่ ให้ชีวิตได้ชาร์จพลังใหม่ ปีนี้ลองทำอะไรใหม่ๆดูบ้างไหม? เช่น ไปเที่ยวต่างประเทศ (งบประมาณควรวางแผนให้ดีก่อนนะ!) หรืออาจจะลองเรียนทำอาหาร (แนะนำส้มตำ ง่ายและอร่อย!)

• เปรียบเทียบง่ายๆ คือการรีสตาร์ทเหมือนการ reset ชีวิต ถ้าชีวิตมัน Error ก็ต้องรีสตาร์ทเพื่อเริ่มต้นใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ว่ารีสตาร์ทแล้วจะดีเสมอไปนะ ต้องดูสาเหตุของปัญหาด้วย ถ้ามันเป็นปัญหาใหญ่ ก็ต้องแก้ที่ต้นเหตุ ไม่ใช่แค่รีสตาร์ทแล้วจบ เหมือนแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ ถ้าแค่รีสตาร์ทแล้วไม่หาย ก็ต้องหาสาเหตุลึกกว่านั้น เช่น ไวรัส หรือฮาร์ดแวร์เสีย ชีวิตคนเราก็เหมือนกันนะ!

  (ปล. ข้อมูลปีนี้ จริงจังกับการรีสตาร์ทชีวิตมากๆ เพราะปีที่แล้วเจอเรื่องหนักๆ เยอะมาก 555+)

รีสตาร์ทมือถือคืออะไร

แสงแดดอุ่นๆ ของเดือนพฤษภาคม ปี 2024 ลอดผ่านม่านโปร่ง กระทบลงบนหน้าจอโทรศัพท์ที่ดับสนิท… เงียบ… เงียบเชียว

• รีสตาร์ทมือถือ คือการเริ่มต้นใหม่ เหมือนการหายใจเข้าลึกๆ ปล่อยวางความวุ่นวายทั้งหมดในระบบ

เหมือนดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้วโผล่ขึ้นมาใหม่ สดใสกว่าเดิม

• ปัญหาแอปค้าง แอปหยุดทำงาน มันหายไปหมดแล้ว เหมือนความฝันร้ายที่จางหายไปกับแสงอรุณ

เหมือนสายฝนชะล้างความสกปรก ทิ้งไว้แต่ความสดชื่น

• มันไม่ใช่การลบข้อมูล ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงอะไรเลย นี่แค่การเริ่มต้นใหม่ เหมือนการเขียนบทใหม่ของเรื่องราว

เหมือนการลืมเรื่องร้ายๆ แล้วก้าวเดินต่อไป

• แค่กดปุ่มเล็กๆ แล้วโลกทั้งใบก็ดูสดใสขึ้นมาอีกครั้ง นี่แหละเสน่ห์ของการรีบูต ง่ายๆ แต่ได้ผล

ฉันเคยลองทำตอนที่โทรศัพท์ฉันค้างหนักมาก เกือบจะทุบมันแล้ว แต่สุดท้าย รีสตาร์ทไป มันก็กลับมาทำงานได้ปกติ

• เหมือนการให้โอกาสตัวเองได้เริ่มต้นใหม่ ได้พักผ่อน แล้วกลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

เหมือนดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา ได้รดน้ำแล้วกลับมาเบ่งบานอีกครั้ง

ความทรงจำวูบวาบ… ตอนนั้นฉันรีบมาก เกือบจะสายไปทำงานแล้ว… แต่สุดท้ายก็แก้ปัญหาได้ทัน ด้วยการรีสตาร์ทมือถือ มันช่วยฉันไว้จริงๆ

การรีสตาร์ทโทรศัพท์เพื่ออะไร

คือแบบนี้ วันก่อนเนี่ย วันที่ 17 ตุลาคม 2566 โทรศัพท์ฉัน ไอโฟน 13 มันหน่วงมาก แอปเปิดไม่ขึ้น ช้าเป็นเต่า อารมณ์แบบโคตรหงุดหงิด เลยลองรีสตาร์ทดู ปิดเครื่องเปิดใหม่ แบบกดปุ่มค้างนานๆ จนโลโก้แอปเปิ้ลขึ้นมา ปรากฏว่า โอ้โห ลื่นปรื๊ด หายหน่วงเลย เหมือนได้เครื่องใหม่ รู้สึกโล่งใจมาก แบบปลดล็อคได้ ความรู้สึกตอนนั้นคือ โคตรดีใจ

ปกติฉันก็ไม่ได้ทำบ่อยหรอก แต่พอเจอแบบนี้แล้ว รู้สึกว่าควรทำบ่อยๆ จริงๆ อาจจะไม่ถึงสัปดาห์ละครั้ง แต่ถ้ารู้สึกว่าเครื่องมันเริ่มหน่วงๆ ก็จะรีสตาร์ทเลย จะได้ไม่ต้องมาเสียอารมณ์ทีหลัง

• ลดความหน่วงของเครื่องได้จริง ลื่นไหลขึ้นเยอะ
• ช่วยเคลียร์แคช แอปต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้น
• เหมือนให้เครื่องได้พัก เหมือนเราพักสมองไง
• อาจช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้ด้วย แต่ข้อนี้ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่

แต่จริงๆนะ ฉันว่า การรีสตาร์ทไม่ได้ช่วยเรื่องแบตเตอรี่มากเท่าไหร่หรอก มันช่วยแค่ให้ระบบมันทำงานได้ลื่นไหลขึ้นมากกว่า แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย อย่างน้อยก็ได้ความรู้สึกว่าเครื่องมันสะอาดขึ้น รู้สึกดีขึ้นเยอะ ใช้แล้วสบายใจกว่า ดีกว่าต้องทนใช้เครื่องที่หน่วงๆ ช้าๆ อารมณ์เสียไปทั้งวัน

โทรศัพท์จำเป็นต้องรีสตาร์ทไหม

จำเป็นมั้ยเนี่ย รีสตาร์ทโทรศัพท์ทุกอาทิตย์ อืมมม… ฉันทำนะ แต่ไม่ใช่ทุกอาทิตย์เป๊ะๆ บางทีสองอาทิตย์ที ขี้เกียจ 😂

• จริง ๆ แล้วมันช่วยป่ะ หรือแค่ความเชื่อส่วนตัว
• เคยอ่านเจอว่าช่วยเรื่องประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่แน่ใจ ข้อมูลปีนี้หายากจัง
• เรื่องแบตอ่ะ รู้สึกว่าใช้ได้นานขึ้นจริง ๆ หลังรีสตาร์ท แต่ก็อาจจะเพราะไม่ได้ใช้หนักด้วยล่ะมั้ง
• ฮาร์ดแวร์… นี่ไม่รู้เลย มันจะช่วยได้จริงเหรอ งงงง
• ความเร็วขึ้นมั้ย… ก็รู้สึกว่าลื่นขึ้นนะ แต่ก็อาจเป็นเพราะแอปน้อยลงด้วยก็ได้ ลบแอปไปเยอะเลยช่วงนี้

สรุป คือ ฉันทำ รู้สึกดีขึ้น แต่ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วมันมีผลมากน้อยแค่ไหน ต้องลองศึกษาดูเพิ่ม ปีนี้หาข้อมูลยากจัง หาข้อมูลจากเว็บไซต์ผู้ผลิตดีกว่าเนอะ ปีนี้ใช้รุ่นใหม่ อาจจะข้อมูลต่างออกไป

รีเซ็ตโทรศัพท์อะไรหายบ้าง

รีเซ็ตโทรศัพท์นี่นะ… หายเพียบ!

• รูปในเครื่องหายเกลี้ยง (ยกเว้นที่ backup ไว้ใน Google Photos อันนี้รอด!) สำคัญมาก ต้อง backup ก่อนทำนะ เตือนละ!
• แอป ทุกแอป… หายหมด! ต้องลงใหม่หมดเลย เซ็งตรงนี้แหละ
• ข้อมูลในแอปก็หายนะพวก save game ต่างๆ อ่ะ (ถ้าไม่ sync กับ cloud อีกนะ ซวยเลย)
• เบอร์โทรในเครื่อง (ถ้าไม่ได้ sync กับ Google Contacts หายนะเออ!)
• เพลงที่โหลดไว้ในเครื่อง (ฟัง offline อ่ะ หายหมด ต้องโหลดใหม่)
• รหัสผ่าน wifi ที่เคยเซฟไว้ (ต้องมานั่งใส่ใหม่หมด!)

เออ แล้วพวก account ต่างๆ ที่ login ค้างไว้ในเครื่องก็จะหลุดหมดนะ ต้องมานั่ง login ใหม่ทีละอัน… คิดแล้วเหนื่อย!

• (แถม) wallpaper ที่ตั้งไว้ก็หายนะ กลับไปเป็น default

สรุป: อะไรที่อยู่ในเครื่อง & ไม่ได้ sync ไว้ที่อื่น = หายหมดจด!

(ปล. ทำไมต้องรีเซ็ตวะ? เครื่องเอ๋อ? หรือขายต่อ? ถ้าเครื่องเอ๋อ ลอง clear cache ก่อนก็ได้นะ เผื่อหาย! แต่ถ้าขายต่อ รีเซ็ตเถอะ ปลอดภัยกว่าเยอะ)