รีเซ็ตไอโฟนยังไง

ไขข้อสงสัย! รีเซ็ต iPhone อย่างไรให้ถูกวิธี ปลอดภัย ไม่ต้องง้อช่าง!

iPhone ของคุณเริ่มอืด? แอปค้างบ่อย? หรือต้องการขายต่อแต่ไม่อยากให้ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล? การรีเซ็ต iPhone อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ก่อนจะกดปุ่ม “ลบข้อมูลทั้งหมด” เรามาทำความเข้าใจขั้นตอนต่างๆ และประเภทของการรีเซ็ต iPhone กันก่อน เพื่อให้คุณสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดกับความต้องการของคุณ

ทำไมต้องรีเซ็ต iPhone?

การรีเซ็ต iPhone ไม่ได้มีแค่เหตุผลเดียว แต่เหตุผลหลักๆ มักจะวนเวียนอยู่กับปัญหาเหล่านี้:

• แก้ปัญหาซอฟต์แวร์: iPhone ค้าง, แอปเด้ง, เครื่องช้า, หรือมีข้อผิดพลาดที่ไม่ทราบสาเหตุ การรีเซ็ตสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
• เตรียมขายหรือส่งต่อ: ก่อนจะส่งต่อ iPhone ของคุณให้คนอื่น การรีเซ็ตเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อลบข้อมูลส่วนตัวทั้งหมด ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
• คืนค่าโรงงาน: หากคุณต้องการให้ iPhone ของคุณกลับไปอยู่ในสภาพเหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆ การรีเซ็ตเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด

ประเภทของการรีเซ็ต iPhone: เลือกให้ถูก ใช้งานให้ตรงจุด

หลายคนอาจจะคิดว่าการรีเซ็ต iPhone คือการลบทุกอย่างทิ้งไป แต่จริงๆ แล้ว Apple ได้เตรียมตัวเลือกการรีเซ็ตที่หลากหลาย เพื่อให้คุณสามารถเลือกได้ตามความต้องการ:

1. รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด (Reset All Settings): ตัวเลือกนี้จะคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมดใน iPhone ของคุณให้เป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน เช่น การตั้งค่า Wi-Fi, Bluetooth, การแจ้งเตือน, และอื่นๆ ข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น รูปภาพ, วิดีโอ, แอปพลิเคชั่น, และเพลง จะยังคงอยู่เหมือนเดิม เหมาะสำหรับแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการตั้งค่าที่ไม่ถูกต้อง

2. รีเซ็ตพจนานุกรมแป้นพิมพ์ (Reset Keyboard Dictionary): หากคุณพบว่าระบบคาดเดาคำผิดพลาดบ่อยครั้ง การรีเซ็ตพจนานุกรมแป้นพิมพ์จะช่วยล้างคำที่บันทึกไว้ และทำให้ระบบคาดเดาคำได้แม่นยำยิ่งขึ้น

3. รีเซ็ตตำแหน่งที่ตั้งและความเป็นส่วนตัว (Reset Location & Privacy): ตัวเลือกนี้จะล้างการอนุญาตการเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้งและความเป็นส่วนตัวที่แอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้รับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมข้อมูลส่วนตัวอย่างเข้มงวด

4. รีเซ็ตหน้าจอโฮม (Reset Home Screen Layout): หากคุณต้องการให้ไอคอนแอปพลิเคชั่นบนหน้าจอโฮมกลับไปเรียงตามค่าเริ่มต้น การรีเซ็ตหน้าจอโฮมจะช่วยจัดระเบียบหน้าจอของคุณให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

5. ลบข้อมูลและการตั้งค่าทั้งหมด (Erase All Content and Settings): นี่คือการรีเซ็ตแบบ “ฮาร์ดรีเซ็ต” ที่จะลบข้อมูลและการตั้งค่าทั้งหมดออกจาก iPhone ของคุณ ทำให้ iPhone กลับไปอยู่ในสภาพเหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆ เหมาะสำหรับเตรียมขาย, ส่งต่อ, หรือแก้ไขปัญหาที่ร้ายแรง

ขั้นตอนการรีเซ็ต iPhone อย่างละเอียด (สำหรับ “ลบข้อมูลและการตั้งค่าทั้งหมด”)

ก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนการรีเซ็ตแบบ “ลบข้อมูลและการตั้งค่าทั้งหมด” สิ่งสำคัญที่สุดคือ การสำรองข้อมูล (Backup)! เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลสำคัญของคุณ

ขั้นตอนที่ 1: สำรองข้อมูล

• iCloud Backup: ไปที่ การตั้งค่า > [ชื่อของคุณ] > iCloud > iCloud Backup > สำรองข้อมูลตอนนี้ (Back Up Now)
• iTunes Backup (สำหรับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์): เชื่อมต่อ iPhone กับคอมพิวเตอร์ > เปิด iTunes > เลือก iPhone ของคุณ > Summary > Back Up Now

ขั้นตอนที่ 2: ปิด Find My iPhone

• ไปที่ การตั้งค่า > [ชื่อของคุณ] > Find My > Find My iPhone > ปิด (จำเป็นต้องใส่ Apple ID และรหัสผ่านของคุณ)

ขั้นตอนที่ 3: เริ่มต้นการรีเซ็ต

• ไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > โอนข้อมูลหรือรีเซ็ต iPhone > ลบข้อมูลและการตั้งค่าทั้งหมด (Erase All Content and Settings)

ขั้นตอนที่ 4: ยืนยันการรีเซ็ต

• ระบบจะถามเพื่อยืนยันการรีเซ็ตอีกครั้ง โปรดอ่านข้อความอย่างละเอียด และกด “ลบตอนนี้” (Erase Now)
• หากคุณเปิดรหัสผ่าน ระบบจะขอให้คุณใส่รหัสผ่านเพื่อยืนยัน
• จากนั้น iPhone จะเริ่มกระบวนการลบข้อมูลและการตั้งค่าทั้งหมด

ขั้นตอนที่ 5: รอจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น

• กระบวนการรีเซ็ตอาจใช้เวลาสักครู่ ขึ้นอยู่กับปริมาณข้อมูลใน iPhone ของคุณ
• เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น iPhone ของคุณจะรีสตาร์ท และแสดงหน้าจอการตั้งค่าเริ่มต้น

ข้อควรระวัง:

• แบตเตอรี่: ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนทำการรีเซ็ต
• Apple ID และรหัสผ่าน: เตรียม Apple ID และรหัสผ่านของคุณให้พร้อม เพราะคุณอาจต้องใช้ในการยืนยัน
• อินเทอร์เน็ต: ควรเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่เสถียรระหว่างการรีเซ็ต

สรุป:

การรีเซ็ต iPhone เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ และเตรียม iPhone สำหรับการส่งต่อ การทำความเข้าใจประเภทของการรีเซ็ต และขั้นตอนการรีเซ็ตอย่างถูกต้อง จะช่วยให้คุณสามารถใช้งาน iPhone ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

#การตั้งค่า#ปัญหาไอโฟน#รีเซ็ตไอโฟน