เซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิคใช้หลักการใดในการวัดระยะทาง

25 การดู

เซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิควัดระยะทางด้วยหลักการส่งคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasonic) คลื่นจะสะท้อนกลับเมื่อกระทบวัตถุ อุปกรณ์คำนวณระยะทางจากเวลาที่คลื่นเดินทางไป-กลับ ความเร็วเสียงเป็นตัวแปรสำคัญในการคำนวณ จึงควรคำนึงถึงอุณหภูมิและความชื้นแวดล้อม ข้อดีคือใช้งานง่าย ราคาไม่แพง เหมาะกับการวัดระยะใกล้ถึงปานกลาง แต่มีความแม่นยำน้อยกว่าเทคนิคอื่นๆ อาจมีข้อจำกัดในการวัดวัตถุที่มีพื้นผิวซับเสียงหรือวัตถุโปร่งใสบางชนิด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิค วัดระยะทางด้วยหลักการอะไร?

เซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิค? อ๋อ ไอ้ตัวที่มัน “ติ๊ดๆ” วัดระยะทางอะนะ!

มันทำงานด้วยการปล่อยคลื่นเสียงที่หูเราไม่ได้ยิน (อัลตร้าโซนิคไง!) ไปกระทบวัตถุ แล้วรอฟังเสียงสะท้อนกลับมา คิดง่ายๆ เหมือนตะโกนในถ้ำ ยิ่งเสียงสะท้อนกลับมาช้า แสดงว่าถ้ำมันลึก…เอ้ย! วัตถุมันอยู่ไกลไง

ผมเคยใช้ตอนทำโปรเจกต์หุ่นยนต์ตอนปี 2 (นานมากแล้ว น่าจะปี 2552 แถวๆลาดกระบัง) เอามาหลบสิ่งกีดขวาง ตอนนั้นงงอยู่ตั้งนาน กว่าจะเขียนโค้ดให้มัน “เข้าใจ” ว่า “เออ นี่มันใกล้แล้วนะ เว้ย! ถอย!” ได้

หลักการมันง่ายๆ แค่วัดเวลาที่คลื่นเสียงเดินทางไปกลับ แล้วเอามาคำนวณหาระยะทาง แต่ตอนทำจริง โอ้โห…ปวดหัวกับเรื่องสัญญาณรบกวนสุดๆ ต้องหาวิธี “กรอง” เสียงที่ไม่ต้องการออกไปอีก

แต่สุดท้ายก็ทำสำเร็จนะ! ภูมิใจสุดๆ ถึงแม้ตอนนั้นจะใช้เงินไปกับเซ็นเซอร์พวกนี้เยอะมาก (จำราคาไม่ได้แล้ว แต่รู้ว่าตอนนั้นกินมาม่าไปหลายวันเลยทีเดียว)

อัลตร้าโซนิค ตรวจอะไรบ้าง

อัลตราซาวด์? ตรวจสอบเงียบๆ

  • คลื่นเสียง: หัวใจหลักคือการปล่อยและรับเสียงสะท้อน วัดระยะทาง จบ
  • อเนกประสงค์: แทบทุกสิ่งสะท้อนเสียงได้ ตรวจจับได้หมด น้ำ วัสดุมัน ฟิล์มใส เลี่ยงข้อจำกัดแสง
  • ความแม่นยำ: ขึ้นอยู่กับวัสดุและสภาพแวดล้อม เงื่อนไขเยอะ ผลลัพธ์ก็ผันแปร
  • การแพทย์: ตรวจครรภ์ อวัยวะภายใน ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องสัมผัส
  • อุตสาหกรรม: ตรวจจับวัตถุ ควบคุมกระบวนการ หุ่นยนต์ใช้กันเยอะ

เซนเซอร์เสียง? ฟังให้ดี

  • หลักการ: ปล่อยคลื่น > สะท้อน > คำนวณระยะ = รู้ตำแหน่ง
  • ข้อดี: ไม่ต้องสัมผัส ฝุ่น ควัน ไม่ค่อยมีผลกระทบ
  • ข้อเสีย: วัตถุดูดซับเสียง ข้อมูลผิดพลาดได้ง่าย
  • การใช้งาน: รถยนต์ (ช่วยจอด) หุ่นยนต์ (หลบหลีก) โรงงาน (นับจำนวน)
  • ข้อควรระวัง: อุณหภูมิ ความชื้น มีผลต่อความเร็วเสียง คำนวณผิด ชีวิตเปลี่ยน

ข้อมูลเพิ่มเติม: คลื่นเสียงที่ใช้ ความถี่สูงเกินกว่าหูมนุษย์จะได้ยิน ไม่งั้นคงหนวก

เกร็ด: อัลตราซาวด์ในการแพทย์ บางครั้งก็ทำให้เกิดความร้อนเล็กน้อย จำเป็นต้องระมัดระวัง

ปรัชญา (มั้ง): บางครั้งสิ่งที่มองไม่เห็น (คลื่นเสียง) กลับบอกอะไรได้มากกว่าสิ่งที่เห็น (แสง)

เซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิคทำหน้าที่อะไร

ลมพัดเย็นยะเยือก ใบไม้สีทองร่วงโรยลงมาเบาๆ เหมือนเวลาที่กำลังไหล เงียบเชียบ…

  • เซ็นเซอร์อัลตราโซนิค: มันคือดวงตาที่มองไม่เห็น ส่งเสียงกระซิบที่เราไม่ได้ยิน แต่รับรู้ได้ถึงความลึก ความไกล

  • หน้าที่: บอกระยะทาง! มันวัดระยะวัตถุ เหมือนไม้บรรทัดวิเศษ แต่แม่นยำกว่า เร็วกว่า ไร้ข้อจำกัด

  • คลื่น Ultrasonic: เสียงที่เกินกว่าหูคนจะได้ยิน (20 kHz ขึ้นไป) คล้ายกับความลับที่ซ่อนอยู่ เร้นลับ แต่ทรงพลัง

ปีนี้ 2024 ฉันใช้เซ็นเซอร์พวกนี้กับหุ่นยนต์เก็บของที่บ้าน มันยอดเยี่ยมมาก ช่วยจัดการของกระจุ๊กกระจิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะของสะสมตุ๊กตาหมีที่ฉันรักมาก มันไม่ชน ไม่ทำลาย เพราะมัน “เห็น” ทุกอย่างก่อน

แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลงมาบนหน้าต่าง ฉันนั่งจิบชาอุ่นๆ คิดถึงอนาคตของเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ มันน่าตื่นเต้นจริงๆ

  • เพิ่มเติม: ใช้ในรถยนต์ช่วยจอดรถ ในโทรศัพท์มือถือ ในระบบความปลอดภัย และอีกมากมาย อนาคต มันจะยิ่งไปไกลกว่านี้

ความเงียบ… กลับมาอีกครั้ง เหมือนความลึกลับของคลื่นเสียงที่มองไม่เห็น แต่มหัศจรรย์ เหลือเชื่อ

คลื่นเสียง Ultrasonic sensor มีหลักการตรวจจับยังไง

Ultrasonic sensor เหรอ? อ๋อ ไอ้ตัวที่ร้อง “ติ๊ดๆ” แล้วบอกว่ามีอะไรอยู่ข้างหน้าไง! หลักการมันง่ายกว่าคิดเลขในใจอีกนะ คือมันจะปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงออกไป (สูงจนหูเราไม่ได้ยินน่ะสิ) แล้วรอฟังเสียงสะท้อนกลับมา

  • ปล่อยคลื่นเสียง: เหมือนตะโกนถาม “มีใครอยู่ตรงนั้นไหม?!”
  • รอฟังเสียงสะท้อน: ถ้ามีอะไรขวางอยู่ คลื่นเสียงก็จะเด้งกลับมา
  • คำนวณระยะทาง: วัดเวลาที่คลื่นเสียงเดินทางไป-กลับ แล้วเอามาคำนวณ (สูตรฟิสิกส์ง่ายๆ เลย) ก็จะรู้ว่าวัตถุนั้นอยู่ห่างแค่ไหน

ทีนี้ไอ้ที่บอกว่า “ประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย” เนี่ย มันจริง!

  • วัดระดับน้ำ: ใช้ในแทงค์น้ำ ดูว่าเหลือน้ำเท่าไหร่ (ถ้าเป็นเบียร์จะดีมาก)
  • ตรวจจับชิ้นงาน: ในโรงงาน จะได้ไม่ต้องให้คนไปยืนนับเอง (คนมันขี้เกียจ)
  • ตรวจจับความหนาของวัตถุ: เช็คได้ว่าแผ่นเหล็กมันบางลงหรือยัง (ก่อนจะเอาไปทำรถถัง)

แถมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย: Ultrasonic sensor เนี่ย มันก็เหมือนค้างคาวนะ ใช้เสียงนำทางเหมือนกัน แต่ค้างคาวมันเก่งกว่าเยอะ บินหลบต้นไม้ได้ด้วย! (แต่ sensor ต้องติด GPS ช่วย) แล้วไอ้คลื่นเสียงที่ว่าเนี่ย บางทีก็รบกวนสัตว์เลี้ยงได้นะ หมาแมวอาจจะรำคาญ (แต่คนไม่รู้ตัวหรอก เพราะมันไม่ได้ยิน)

อัลตร้าโซนิค ทำงานยังไง

อัลตร้าโซนิคอะนะ ทำงานแบบ… ยิงคลื่นเสียงออกไปไง แล้วรอฟังเสียงสะท้อนกลับมา คือถ้ามีอะไรขวางทาง คลื่นมันก็จะสะท้อนกลับมาไวไง เร็วช้าก็ขึ้นอยู่กับระยะทางอ่ะ แล้วตัวเซ็นเซอร์มันก็จะคำนวนว่าไอ้เสียงที่สะท้อนกลับมาเนี่ย ใช้เวลานานแค่ไหน แล้วก็แปลงเป็นระยะทางให้เราดู ง่ายๆ เลย

เอาไปใช้ทำอะไรได้บ้างหรอ? อ๋อ เยอะแยะเลย เช่น

  • วัดระดับน้ำในแทงค์: อันนี้เห็นบ่อยตามโรงงาน วัดว่าน้ำในแทงค์เหลือเท่าไหร่ จะได้เติมถูก
  • ตรวจจับชิ้นงานบนสายพาน: อันนี้ก็เจ๋ง ตรวจว่ามีของรึยัง ถ้ายังไม่มีก็สั่งให้เครื่องจักรทำงานต่อได้
  • วัดความหนาของแผ่นเหล็ก: บางทีก็เอาไปวัดความหนาของวัสดุต่างๆ ได้ด้วยนะ แม่นใช้ได้เลยแหละ
  • ช่วยจอดรถ: รถสมัยใหม่ก็มี ใช้ตอนถอยเข้าซองอ่ะ ปี๊บๆ เตือนว่าใกล้ชนแล้ว

ที่สำคัญคือ คลื่นเสียง นี่แหละ ตัวหลักเลย ถ้าไม่มีคลื่น ก็จบข่าวเลยจ้าาาา

เซ็นเซอร์ตรวจจับอะไรได้บ้าง?

เซ็นเซอร์นี่มันเทพนะรู้มั้ย! ไม่ต้องแตะต้องก็รู้ว่ามีอะไรผ่านมา เหมือนตาที่สามของเหล่าเทพเจ้าเลย! บอกได้หมด ตำแหน่ง ขนาด รูปร่าง ระดับความสูง เป๊ะเว่อร์! แถมยังแยกแยะได้อีกว่าของที่ผ่านมานั่นเป็นโลหะหรือไม่ใช่โลหะ แม่เจ้า! มันสุดยอดไปเลย

  • เทพมากเรื่องการแยกแยะ: แยกโลหะกับอโลหะได้เนียนกริ๊บ เหมือนตาดี๊ดี แยกแยะได้แม่นยำกว่าแฟนเก่าผมอีก (แฟนเก่าผมนี่แยกแยะอะไรไม่ค่อยได้เลยสักอย่าง)

  • บอกตำแหน่งเป๊ะ: รู้เลยว่าวัตถุอยู่ตรงไหน แม่นยำราวกับใช้ GPS ระดับเทพ ไม่หลงทางแน่นอน แม่นกว่าผมใช้แผนที่ในมือถืออีกนะ

  • บอกขนาดและรูปร่าง: ไม่ใช่แค่รู้ว่ามีอะไร แต่รู้ด้วยว่ามันใหญ่แค่ไหน รูปร่างหน้าตาเป็นยังไง ละเอียดกว่าการบอกเล่าของคนเม้าท์มอยเสียอีก

  • ใช้ได้กับหลายงาน: งานตรวจจับนี่มันของมันต้องใช้เซ็นเซอร์เทพๆอย่างนี้แหละ ถึงจะสมบูรณ์แบบ

ปีนี้(2566) เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ก้าวหน้ากว่าเดิมเยอะมาก! เร็วๆนี้คงมีเซ็นเซอร์ที่บอกได้ว่าวัตถุนั้นมีอารมณ์ยังไงด้วยมั้ง ฮาาาาา! (ล้อเล่นนะ) แต่ก็จริงอยู่นะว่าเทคโนโลยีมันพัฒนาไปไกลมากจริงๆ

ระบบเซ็นเซอร์ทำงานยังไง?

ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวปล่อยคลื่น (เช่น อินฟราเรด หรือไมโครเวฟ) ไปในพื้นที่เป้าหมาย แล้วรอรับคลื่นสะท้อนกลับมา หากมีการเปลี่ยนแปลงในคลื่นสะท้อน (เช่น ความถี่เปลี่ยน หรือสัญญาณขาดหาย) ระบบจะตีความว่ามีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้น จากนั้นจะส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังหน่วยประมวลผลเพื่อวิเคราะห์ต่อไป

  • ชนิดของเซ็นเซอร์: มีทั้งแบบ Passive Infrared (PIR) ที่ตรวจจับความร้อน และแบบ Microwave ที่ใช้คลื่นวิทยุ
  • การประมวลผล: ซอฟต์แวร์จะกรองสัญญาณรบกวน เพื่อลดโอกาสการแจ้งเตือนผิดพลาด
  • การแจ้งเตือน: สามารถส่งไปยังแอป, อีเมล หรือระบบรักษาความปลอดภัยส่วนกลาง

เรื่องน่าคิดคือ เทคโนโลยีเหล่านี้กำลังเปลี่ยน “ความเป็นส่วนตัว” ของเราไปอย่างเงียบ ๆ ทุกวันนี้พื้นที่ส่วนตัวจริงๆ เหลือน้อยลงทุกที

App Sensor ทําหน้าที่อะไร?

มันตรวจจับวัตถุไง ง่ายๆแค่นั้นแหละ

  • ใช้แสงอินฟราเรด
  • วัดการสะท้อน
  • บอกได้ว่ามีอะไรผ่านหน้ามัน หรืออะไรอยู่ใกล้ๆ
  • ปีนี้เห็นใช้กันเยอะในพวกระบบรักษาความปลอดภัยอัตโนมัติ พวกประตูอัตโนมัติในห้างหรูๆ หรือแม้แต่ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ก็มี sensor แบบนี้

รู้ไว้ก็ดี เผื่อเอาไปคุยโม้กับสาว

เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ คืออะไร?

เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ? อ้อ! นั่นมันเหมือนเป็นพวก “หมอดูอุณหภูมิ” น่ะสิ! มันไม่ใช่หมอดูไพ่ยิปซีนะ แต่เป็นหมอดูที่บอกอุณหภูมิได้แม่นยำกว่าคุณป้าข้างบ้านที่บอกว่า “วันนี้ร้อนฉ่าเหมือนเอาเตาอบมาวางไว้ข้างตัว” ซะอีก!

มันสำคัญยังไงน่ะเหรอ? ลองนึกภาพดูสิ ถ้าโรงงานผลิตไอศกรีมของคุณไม่มีเจ้าเซ็นเซอร์ตัวนี้ ไอติมอาจจะกลายเป็นน้ำแข็งไสในพริบตา หรือไม่ก็ละลายเยิ้มจนคุณต้องใช้ไม้กวาดตักไอศกรีมแทนช้อน อันนั้นมันเศร้ามากนะ!

  • ใช้ในอุตสาหกรรมมากมาย: ตั้งแต่โรงงานผลิตช็อกโกแลต (ถ้าอุณหภูมิไม่พอดี ช็อกโกแลตจะจับตัวเป็นก้อนได้นะ ผมเคยเจอมาแล้ว เสียใจมาก!) ไปจนถึงโรงไฟฟ้า พวกมันเป็นดวงตาและสมองของระบบควบคุมอุณหภูมิเลยล่ะ

  • ช่วยประหยัดพลังงาน: ด้วยความที่มันแม่นยำ เลยช่วยให้เราควบคุมอุณหภูมิได้อย่างเหมาะสม ไม่ต้องเสียพลังงานไปเปล่าๆ ประหยัดเงินในกระเป๋าคุณได้อีกด้วย

  • ประเภทหลากหลาย: มีตั้งแต่แบบเทอร์โมคัปเปิล เทอร์มิสเตอร์ ไปจนถึงแบบอินฟราเรด เลือกใช้ได้ตามความต้องการและงบประมาณ เหมือนเลือกซื้อรองเท้า ต้องเลือกให้พอดีกับเท้าและกระเป๋าตังค์

  • สำคัญต่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์: ในห้องแล็บ มันจำเป็นมาก เพราะการทดลองวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ต้องควบคุมอุณหภูมิอย่างละเอียด ถ้าอุณหภูมิเพี้ยน ผลการทดลองก็พังหมด!

อ้อ! ปีนี้ (2566) เทคโนโลยีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิก็พัฒนาไปไกลมากแล้วนะ มีแบบไร้สาย มีความแม่นยำสูงขึ้น และมีราคาถูกลงด้วย เรียกว่า “หมอดูอุณหภูมิ” รุ่นใหม่ ฉลาดและราคาประหยัดขึ้นมาก!

เซ็นเซอร์มีกี่ประเภทอะไรบ้าง?

โอยโหย! เซ็นเซอร์เนี่ยนะ เยอะแยะไปหมดเหมือนมดขึ้นบ้าน! จะให้ตอบหมดคงเหนื่อยกว่าปีนเขาเอเวอร์เรสต์ตอนหน้าหนาวแน่ๆ แต่ถ้าจะแบ่งๆ กันดูก็พอไหว…

  • พวกวัดอุณหภูมิ: นี่แหละตัวพ่อ! ตั้งแต่เทอร์มิสเตอร์ตัวจิ๋วๆ จนถึงพวกเซ็นเซอร์อินฟราเรดที่วัดอุณหภูมิได้จากระยะไกล เหมือนตาที่สามของพระอินทร์เลย! ปีนี้เห็นมีพวกที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเยอะขึ้นนะ ตรวจสอบความสุกของเนื้อสัตว์ได้แม่นยำกว่าตาเรามาก! เอาไปวัดไข้คนก็ได้นะ แต่ต้องรุ่นที่แพทย์ใช้เท่านั้น! อันที่ใช้วัดไข่ไก่บ้านผม เผาเครื่องไปแล้ว ฮือๆๆ

  • พวกวัดแสง: พระอาทิตย์มีแสง โทรศัพท์ก็มีแสง! โฟโต้ไดโอดนี่แหละตัวแสบ รับแสงได้เป๊ะเว่อร์ ใช้กันตั้งแต่กล้องมือถือ จนถึงระบบควบคุมแสงในโรงงาน บางทีก็อารมณ์ดี บางทีก็อารมณ์เสีย แสงน้อยก็วัดได้ไม่ดี!

  • พวกวัดความดัน: อันนี้เจ๋ง! วัดได้ตั้งแต่ความดันลมยางรถ จนถึงความดันเลือด (อันหลังนี้ต้องแพทย์ใช้ ห้ามลองเองโดยเด็ดขาด!) สเตรนเกจนี่แหละตัวหลัก แต่ก็มีพวกเซ็นเซอร์ความดันแบบอื่นอีกเยอะแยะ ขนาดเล็กจิ๋ว แต่ความสามารถสุดยอด!

  • พวกวัดระยะ/ความใกล้ชิด: อัลตราโซนิกนี่แหละตัวเด็ด! ส่งเสียงไป แล้ววัดเวลาที่เสียงสะท้อนกลับมา แม่นยำกว่าการเดาด้วยตาเปล่าเยอะ! ใช้กันตั้งแต่ระบบจอดรถอัตโนมัติ จนถึงหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ปีนี้เห็นมีใช้ในลิฟต์เยอะขึ้น ปลอดภัยกว่าเดิม

  • พวกวัดความเร่ง/แรงสั่นสะเทือน: เอาไว้ใช้ในพวกสมาร์ทโฟน พวกเกมส์ ตรวจจับการเคลื่อนไหว วัดแรงสั่นสะเทือน เอาไปติดรถก็ได้ วัดแรงสั่นสะเทือน รู้ได้เลยว่าเราขับรถเร็วไปหรือเปล่า! แต่ของผมพังไปแล้วตอนตกน้ำ เสียใจจัง

  • พวกวัดเสียง: ไมโครโฟนไงครับ! ตั้งแต่ไมค์ร้องคาราโอเกะ จนถึงไมค์ประชุม พวกนี้ก็เซ็นเซอร์ทั้งนั้น! ปีนี้เทรนด์ไมค์แบบไร้สายมาแรง ใช้กับคอมพิวเตอร์ เล่นเกมส์ สะดวกสุดๆ! แต่เสียงรบกวนเยอะ ก็ฟังไม่รู้เรื่องเหมือนกันนะ

เอาเป็นว่า เซ็นเซอร์มีเยอะกว่าที่คิด ถ้าจะให้ไล่หมดคงเขียนกันจนพรุ่งนี้เช้า ลองไปเสิร์ชกูเกิลเพิ่มเติมดูนะครับ ผมเหนื่อยแล้ว ขอไปนอนก่อน!

เซ็นเซอร์ส่งข้อมูลไปที่ใด?

เซ็นเซอร์มันเม้าท์มอยอะไร? ก็เม้าท์ใส่ Cloud ไง! คิดว่ามันจะส่งไปไหน? ส่งไปให้ เจ้านาย ที่ Cloud ประมวลผลไงเล่า!

  • เซ็นเซอร์ นี่เหมือนเด็กขี้ฟ้อง คอยจับผิดทุกสิ่งอย่าง อุณหภูมิขึ้นนิดนึง ฟ้อง! ความชื้นเกินไปหน่อย ฟ้องอีก!
  • Cloud นี่ก็เหมือนหัวหน้าห้อง คอยรับฟังทุกเรื่อง แล้วก็เอาไปจัดการต่อ…หรือบางทีก็แค่เก็บไว้ (เผื่อเอาไปแบล็กเมล์ทีหลัง)
  • Bluetooth, Wi-Fi, LoRa นี่ก็เหมือนนกพิราบสื่อสารแต่ละสายพันธุ์ ใครเร็วกว่า ใครอึดกว่า ก็แล้วแต่สถานการณ์
  • ข้อมูล จากเซ็นเซอร์นะเหรอ? ก็เหมือนข่าวซุบซิบ บางเรื่องก็จริง บางเรื่องก็มั่ว บางเรื่องก็สำคัญ บางเรื่องก็…ช่างมันเถอะ

เออ! แล้วรู้ไหมว่าเซ็นเซอร์บางตัวฉลาดกว่าคนอีกนะเนี่ย! (แอบกระซิบ)

มือถือมีเซ็นเซอร์อะไรบ้าง?

โอ๊ย…มือถือนี่มันยิ่งกว่าสายลับ 007 อีกนะเนี่ย! เซ็นเซอร์เพียบ! มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง (แบบขำๆ แต่จริงจังนะ)

  • เซ็นเซอร์จับโป๊ะ (ความเคลื่อนไหว): Accelerometer กับ Gyroscope นี่แหละ ตัวจับการเคลื่อนไหวตัวเป้ง! เอียงซ้ายเอียงขวา รู้หมด! เวลาเล่นเกมรถแข่งนะ โอ้โห…มันส์! (แอบนอกเรื่อง)
  • เซ็นเซอร์หลงทิศ (ตำแหน่ง): Magnetometer (เข็มทิศดิจิทัล) กับ GPS ไง! หลงทาง? ไม่มี๊! แต่บางทีก็พาไปกินข้าวผิดร้านนะ (ประสบการณ์ตรง)
  • เซ็นเซอร์ขี้มูกแห้ง (สิ่งแวดล้อม): Ambient Light Sensor วัดแสงรอบข้าง ปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ! ฉลาดสุดๆ! แต่บางทีก็มืดไป สว่างไป เซ็ง!

ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบไม่เพิ่มเติม)

  • Accelerometer: วัดความเร่งเชิงเส้น เอาไว้จับการเขย่าเครื่อง หรือเปลี่ยนแนวตั้งแนวนอนไง!
  • Gyroscope: วัดอัตราการหมุน! ทำให้เกม AR มันส์ขึ้นเยอะ!
  • Magnetometer: เข็มทิศดิจิทัล! สำคัญนะเวลาเดินป่า (ถ้ามีสัญญาณ)
  • GPS: ระบุตำแหน่งบนโลก! แต่ระวังแบตหมดนะ!
  • Ambient Light Sensor: ปรับแสงหน้าจออัตโนมัติ! ถนอมสายตา (มั้ง)!
#วัดระยะ #อัลตร้าโซนิค #เซนเซอร์