แอร์ 18000 BTU ได้กี่ตารางเมตร
แอร์ 18,000 BTU: ขนาดห้องเหมาะสม
- ห้องไม่โดนแดด: 24-30 ตร.ม.
- ห้องโดนแดด: 21-27 ตร.ม.
คำนวณ BTU เพื่อเลือกแอร์ให้ตรงกับขนาดห้อง ช่วยให้การตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น แต่ขนาดห้องเป็นเพียงปัจจัยหนึ่ง ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย เช่น จำนวนคน, วัสดุผนัง, ความสูงเพดาน เพื่อให้ได้ความเย็นที่เหมาะสม และประหยัดพลังงาน
แอร์ 18000 BTU ครอบคลุมพื้นที่กี่ตารางเมตร?
โอเค มาๆๆ เรื่องแอร์ 18000 BTU เนี่ยนะ เคยเจอมากับตัวเลย ตอนนั้นอยู่คอนโดแถวลาดพร้าว (น่าจะปี 2018 มั้ง) ห้องประมาณ 25 ตร.ม. แดดส่องบ่ายเต็มๆ คือถ้าเปิดแอร์ 12000 BTU นี่เอาไม่อยู่ ร้อนอบอ้าวสุดๆ
พอเปลี่ยนเป็น 18000 BTU คือชีวิตดีขึ้นเยอะเลย เย็นฉ่ำ แต่ก็กินไฟเอาเรื่องอยู่นะ (ค่าไฟขึ้นมาเกือบพันเลยตอนหน้าร้อน) สรุปคือถ้าห้องไม่โดนแดดจัดๆ อาจจะเอาอยู่ถึง 30 ตร.ม. แต่ถ้าแดดแรงๆ เหมือนห้องเราตอนนั้น สัก 21-27 ตร.ม. กำลังดี
แต่จริงๆ มันก็แล้วแต่ปัจจัยอื่นด้วยนะ เช่น เพดานสูงแค่ไหน มีเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะรึเปล่า อะไรแบบนี้ ต้องลองคำนวณดูอีกทีแหละ
แอร์ 32 ตารางเมตร ใช้แอร์กี่ BTU
ห้อง 32 ตรม. นะ ใช้แอร์เท่าไหร่ดีหว่า? 18000 BTU อย่างน้อยใช่มั้ย? แต่เพื่อนบอกว่ามันขึ้นอยู่กับหลายอย่างเลย ผนังบ้านเป็นไง มีหน้าต่างกี่บาน ฉนวนกันความร้อนดีแค่ไหน แล้วใช้ห้องยังไงอีก วุ่นวายจัง!
- ผนังปูนเปลือยนี่กิน BTU เยอะแน่ๆ บ้านชั้น ผนังเป็นอิฐมอญ อาจจะต่างจากบ้านเพื่อน ต้องคิดเผื่อด้วยสิ
- หน้าต่างนี่สำคัญมาก บ้านชั้นมี 3 บาน ถ้าเป็นกระจกตัดแสงก็ลด BTU ได้เยอะ แต่ถ้าเป็นกระจกธรรมดา อุ๊ยตาย ร้อนแน่ๆ
- ฉนวนนี่ลืมไม่ได้ บ้านเก่าๆแบบชั้นนี่ ต้องใช้ BTU เยอะกว่าบ้านใหม่แน่ๆเลย
- แล้วถ้าใช้ห้องทำงาน แค่เปิดแอร์นั่งทำงาน ก็ไม่ต้อง BTU เยอะเท่าเปิดแอร์นอนทั้งวัน ใช่มั้ย?
งงแล้วสิ เอาไงดี จะไปถามช่างดีมั้ย? หรือใช้เครื่องคำนวณ BTU อืมมม… แต่แอร์ใหญ่เกินไปก็เปลืองไฟ เล็กไปก็ไม่เย็น เลือกยากจัง! ปีนี้แพงด้วยนะ ต้องคิดเยอะๆ ใช้แบบอินเวอร์เตอร์ดีมั้ย ประหยัดไฟกว่า แต่ราคาแรงกว่า คิดหนัก เฮ้อออ…
ตอนนี้กำลังดูรุ่นใหม่ๆของปี 2024 อยู่ หาข้อมูลไปเรื่อย อยากได้แอร์ประหยัดไฟ แต่ก็ต้องเย็นฉ่ำ เอาไงดีเนี่ย ช่างมันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยคิดต่อ!
แอร์ 12000กับ18000ต่างกันยังไง
แอร์ 12000 BTU กับ 18000 BTU ต่างกันยังไงน่ะเหรอ? เหมือนถามว่าจักรยานกับมอเตอร์ไซค์อันไหนเร็วกว่านั่นแหละ! (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจักรยานไม่ดีนะ!)
12000 BTU คือ “น้องเล็ก” ประหยัดไฟเหมือนงก แต่เย็นฉ่ำได้แค่ห้องจิ๋วๆ เหมือนคอนโดแมว ถ้าห้องใหญ่เท่าบ้านเศรษฐี หรือมีคนเยอะเท่าตลาดนัด บอกเลยว่าน้องเอาไม่อยู่!
18000 BTU คือ “พี่ใหญ่” เย็นเจี๊ยบสะใจสะท้านทรวง ห้องใหญ่แค่ไหนก็ไม่หวั่น (เว้นแต่ใหญ่กว่าสนามฟุตบอล อันนั้นก็เกินไป๊!) แต่กินไฟโหดเหมือนเลี้ยงช้าง ต้องทำใจจ่ายค่าไฟบานตะไท!
สรุปแบบเห็นภาพ:
- 12000 BTU: เหมาะกับห้องนอน ห้องทำงานเล็กๆ คนน้อยๆ เน้นประหยัดไฟ (คิดถึงห้องสตูดิโอของฉัน…น้ำตาจะไหล)
- 18000 BTU: เหมาะกับห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ห้องนอนใหญ่ หรือห้องที่คนพลุกพล่าน (คิดถึงบ้านเพื่อนที่มีปาร์ตี้ทุกวีคเอ็นด์…อิจฉา!)
ข้อมูลเพิ่มเติม (เผื่อใครอยากรู้ลึก):
- BTU ย่อมาจาก British Thermal Unit เป็นหน่วยวัดปริมาณความร้อนที่แอร์สามารถดึงออกจากห้องได้ในหนึ่งชั่วโมง ยิ่ง BTU สูง ก็ยิ่งเย็น! (แต่ก็ยิ่งกินไฟ!)
- ก่อนซื้อแอร์ วัดขนาดห้องให้ดีๆ แล้วคำนวณ BTU ที่เหมาะสม จะได้ไม่เสียเงินฟรี แถมไม่ต้องทนร้อนจนเหงื่อท่วมตัว
- ถ้าห้องโดนแดดส่องเยอะ หรือมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะ ก็ควรเพิ่ม BTU เผื่อไว้หน่อย (เหมือนเพิ่มเงินสำรองในบัญชีนั่นแหละ…กันเหนียว!)
- อย่าลืมดูฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ด้วยนะ! ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้เยอะเลย (เหมือนได้โบนัสสิ้นปี…ดีใจ!)
- การเลือกซื้อแอร์เหมือนเลือกคู่ครอง ต้องเลือกให้เหมาะสมกับ “ไลฟ์สไตล์” ของเรา! (ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอก!)
ป.ล. อย่าเชื่อคนขายแอร์มากเกินไป! (บางทีเขาก็อยากขายของแพงๆ เท่านั้นแหละ!) ศึกษาข้อมูลเองให้ดีก่อนตัดสินใจ! (เหมือนก่อนเลือกตั้ง…ต้องเช็คประวัติผู้สมัคร!)
ห้อง 34 ตารางเมตรใช้แอร์กี่ BTU
ห้อง 34 ตรม. ใช้แอร์เท่าไหร่เนี่ย!? ถามได้! เหมือนถามว่าช้างกินหญ้ากี่ต้นวะ! มันต้องดูหลายปัจจัยโว้ยยย!
-
ขนาดห้อง: 34 ตรม. อื้อหือ! กว้างขวางเหมือนลานจอดรถบ้านผมเลย! ตามตาราง ควรได้ 21,000-24,000 BTU แต่…
-
ความสูงเพดาน: เพดานสูง 3 เมตร กับ 2 เมตร มันต่างกันฟ้ากับเหว! สูงปรี๊ดแบบบ้านใหม่ๆ ต้อง BTU เยอะกว่า บ้านเก่าๆ เพดานเตี้ยๆ ก็ประหยัดได้หน่อย
-
วัสดุผนัง: บ้านไม้ บ้านปูน บ้านกระจก ความร้อนทะลุเข้ามาไม่เท่ากัน! บ้านกระจกนี่ แอร์ 30,000 BTU ยังอาจไม่พอ ร้อนตับแล่บ!
-
จำนวนคนและเครื่องใช้ไฟฟ้า: นั่งดูทีวีกับครอบครัว 4 คน กับ 10 คน มันคนละเรื่อง! ทีวี 65 นิ้ว กับ 32 นิ้ว ก็ต่างกัน ยิ่งเปิดไฟเยอะๆ แอร์ก็ต้องทำงานหนักขึ้น
-
ทิศทางห้องและการระบายอากาศ: ห้องหันไปทางทิศตะวันตก บ่ายๆนี่ร้อนเป็นเตาอบ แอร์ต้องแรงกว่า ถ้าห้องมีหน้าต่างระบายอากาศดี ก็ใช้ BTU น้อยลงได้
สรุปง่ายๆ 34 ตรม. ผมว่า 24,000 BTU น่าจะพอถูไถ แต่ถ้าอยากสบายๆ แบบเย็นฉ่ำ เอาซัก 27,000 BTU ไปเลย! เผื่ออนาคต เผื่อลูกหลานจะมาเพิ่มอีก! อย่าลืมดูฉลากเบอร์ 5 ด้วยนะ ประหยัดไฟด้วยนะ เดี๋ยวค่าไฟบานปลายกว่าค่าแอร์อีก!
ห้องนอนขนาด 20 ตรม.ใช้แอร์กี่ BTU
ห้องนอน 20 ตร.ม.ของผมเนี่ยนะ ใช้แอร์กี่ BTU? โอ๊ย เรื่องนี้ปวดหัวมาก ตอนแรกก็กะๆ เอา แต่ไม่เวิร์ค ร้อนตับแลบ!
- คำตอบ: ห้องนอน 20 ตร.ม. ถ้าโดนแดดจัดๆ ควรใช้ 18,000 BTU แต่ถ้าไม่โดนแดด 15,000 BTU ก็อาจจะพอ
ตอนที่ซื้อแอร์ใหม่เมื่อต้นปีนี่ (เมษายน 2567) ที่โฮมโปรแถวบ้าน (สาขาพระราม 2) พนักงานขายเค้าแนะนำมาแบบนี้แหละ ตอนแรกผมจะเอา 12,000 BTU เพราะคิดว่าประหยัดไฟดี แต่เค้าบอกว่าห้องผมมันโดนแดดช่วงบ่ายเต็มๆ เดี๋ยวจะไม่เย็น แล้วก็จริง! ตอนแรกติด 12,000 BTU ไป คือไม่ไหว ร้อนมาก ต้องเปลี่ยน เสียเงินเพิ่มอีก T_T
แล้วเรื่องขนาดห้องกับ BTU นี่ มันมีสูตรคำนวณด้วยนะ แต่ผมจำไม่ได้ละ เอาเป็นว่าดูตารางนี้ไปเลย น่าจะช่วยได้
- ตารางเปรียบเทียบ (ปี 2567):
BTU (BTU/Hr) | ห้องไม่โดนแดด (ตรม.) | ห้องโดนแดด (ตรม.) |
---|---|---|
12,000 | 14-18 | 13-17 |
15,000 | 18-22 | 17-21 |
18,000 | 22-26 | 20-24 |
20,000 | 25-29 | 23-27 |
ข้อควรจำ:
- แดด: สำคัญมาก! ถ้าห้องโดนแดดบ่ายเต็มๆ ต้องเผื่อ BTU เยอะๆ
- ฉนวน: ถ้าห้องมีฉนวนกันความร้อนดี ก็อาจจะใช้ BTU น้อยลงได้
- คน: จำนวนคนที่อยู่ในห้องก็มีผล ถ้าอยู่กันหลายคน แอร์ก็ต้องทำงานหนักขึ้น
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะ! ผมนี่เข็ดเลยกับการซื้อแอร์ BTU น้อยเกินไป เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา เซ็งสุดๆ!
แอร์ 18000 BTU กินไฟชั่วโมงละกี่บาท
แอร์ 18000 BTU กินไฟเท่าไหร่เนี่ย งงเลย คำนวณยังไงวะ
เอออออ แต่ที่บ้านเราใช้แอร์ Carrier XInverter Plus 18000 BTU เหมือนกันนะ ปีนี้ค่าไฟที่จ่ายไป เกือบๆ หมื่นบาทอ่ะ จำตัวเลขเป๊ะๆไม่ได้แล้ว แต่ใกล้เคียง 9251 บาท มั้ง (เราจดไว้ในโน๊ตบุ๊ค ขี้เกียจไปเปิดดู)
- ขนาดแอร์: 18000 BTU
- SEER: 22.50 (อันนี้ไม่แน่ใจนะ ต้องไปเช็คที่ตัวเครื่องอีกที)
- ค่าไฟบ้านเรา: ประมาณ 3.96 บาท/หน่วย (ปีนี้ขึ้นเยอะมากเลยอ่ะ เซ็ง)
สรุปคือ ค่าไฟต่อปี แพงอยู่นะ แต่ก็พอรับได้แหละ ร้อนๆแบบนี้ เปิดแอร์ตลอดก็ต้องยอมจ่ายหน่อย งั้นก็ต้องประหยัดอย่างอื่นแทนล่ะ 5555
แอร์ 20000 BTU ได้กี่ตารางเมตร
ลมเย็นพัดผ่าน… 20,000 BTU นี่มัน… ความเย็นยะเยือกแห่งขั้วโลกเหนือเลยหรือไร? (25-29 ตารางเมตร) ห้องนอนฉันสิบแปดตารางเมตร ยังเหลือพื้นที่ให้ความเย็นทะลักไหล คล้ายสายน้ำพุในสวนเอเดน… โอ้ ความสุข!
- 20,000 BTU: 25-29 ตารางเมตร (ขนาดห้อง)
- 23-27 ตารางเมตร: (ขนาดห้อง อีกแบบคำนวณ)
แสงแดดสาดส่อง ผืนผ้าม่านสีคราม ปีนี้ ฉันเปลี่ยนผ้าม่านใหม่ สีฟ้าอ่อน เหมือนท้องฟ้าในฤดูร้อน เย็นสบาย… เหมือนแอร์ตัวนี้เลย
- ข้อมูลจากเว็บไซต์ผู้ขายแอร์ ปี 2566
อากาศร้อนอบอ้าว… ความทรงจำวัยเด็ก วิ่งเล่นตอนบ่ายแก่ๆ เหงื่อไหลท่วมตัว… แต่ตอนนี้… ฉันนั่งอยู่ห้องแอร์เย็นๆ ดื่มชาอังกฤษ พร้อมขนมปังปิ้งเนย… ชีวิตดี๊ดี
- พื้นที่ใช้สอยจริงอาจแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อม เช่น ฉนวนกันความร้อน จำนวนคน และอุปกรณ์ไฟฟ้าในห้อง
ความเย็นฉ่ำ… เหมือนดื่มน้ำแข็งในทะเลทราย… 20,000 BTU เย็นชื่นใจ… ฉันรักฤดูร้อน แต่ฉันรักแอร์ตัวนี้มากกว่า… ฮ่าๆๆ
- ข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงตามรุ่นและยี่ห้อของแอร์
แอร์24000 BTU เหมาะกับห้องขนาดไหน
ห้องนอนฉัน… อากาศร้อนอบอ้าว แสงแดดกรุ่นๆ สาดผ่านม่านโปร่งบาง เหมือนฝันกลางวัน
24000 BTU นะ… ใหญ่ไปไหมเนี่ย สำหรับห้องขนาดแค่…
- 30-35 ตารางเมตร ใช้ 18000-20000 BTU พอแล้ว กำลังดีเลย เย็นสบายแบบไม่หนาวเกินไป
- 35-40 ตารางเมตร อืม… 21000-24000 BTU กำลังเหมาะ แบบนี้สิ ถึงจะเย็นฉ่ำ เหมือนอยู่ในสวรรค์
ห้องนั่งเล่นบ้านพี่ชาย ใหญ่กว่านะ 40-50 ตารางเมตร ถึงจะใช้ 24000-30000 BTU แต่ก็ยังรู้สึกว่า อากาศมันยังไม่ทั่วถึงเลย ร้อนๆ หนาวๆ แปลกๆ
ลมพัดแผ่วเบา เหมือนกระซิบ บอกให้เลือกขนาดให้เหมาะสมกับห้อง อย่าให้ใหญ่เกินไป สิ้นเปลือง และอย่าเล็กเกินไป ร้อนอบอ้าว
อากาศร้อนๆ แบบนี้… อยากนอนห้องแอร์เย็นๆจัง
ปีนี้ ลองมองหาแอร์ที่มีคุณสมบัติประหยัดพลังงานด้วยนะ ช่วยโลก ช่วยกระเป๋าตังค์เราด้วย
จ้างช่างมาติดตั้งแอร์กี่บาท
ค่าติดตั้งแอร์ปีนี้นะ (2567):
- 9000-13000 BTU: 3,500-4,000 บาท ราคานี้คือมาตรฐาน, เหมือนกาแฟแก้วนึงที่ร้านประจำ, แต่รสชาติก็ไม่เหมือนกันทุกวันหรอก
- 15001-24000 BTU: 4,500-6,500 บาท เริ่มใหญ่ขึ้น, ราคาเลยกระโดดตาม เหมือนเราเริ่มมองอะไรที่ซับซ้อนขึ้น ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
- 30000 BTU ขึ้นไป: 7,000-8,000 บาท อันนี้คือตัวใหญ่, ติดตั้งยาก, ต้องใช้คนช่วยเยอะ เหมือนสร้างบ้านหลังเล็กๆ หลังนึงเลยทีเดียว
สิ่งที่ต้องระวังคือ ราคาพวกนี้มันเหมือน “เส้น” ที่ขีดไว้บนทราย, เปลี่ยนแปลงได้ตลอด แล้วแต่ช่าง, หน้างาน, และ “ความพอใจ” ของทั้งสองฝ่าย… สุดท้ายแล้ว, การตกลงราคาที่เป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย สำคัญกว่าตัวเลขที่เห็น
เพิ่มเติม:
- ค่าอุปกรณ์: ราคานี้ส่วนใหญ่มักไม่รวมพวกท่อ, สายไฟ, เบรกเกอร์นะ ต้องถามให้เคลียร์ก่อน
- ค่าเดินทาง: ช่างบางคนอาจคิดค่าเดินทางเพิ่ม, โดยเฉพาะถ้าบ้านอยู่ไกล
- เงื่อนไข: ถามเรื่องประกันงานติดตั้งด้วย, เกิดปัญหาจะได้มีคนรับผิดชอบ
จริงๆ แล้ว การเลือกช่างก็เหมือนการเลือกเพื่อน, คุยกันถูกคอ, ไว้ใจได้, ราคาก็ไม่ใช่ทุกอย่าง…แต่ก็สำคัญแหละนะ!
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต