โน๊ตบุ๊คค้างต้องกดอะไร

หน้าจอโน๊ตบุ๊คค้างเกิดจากอะไร

โน๊ตบุ๊คค้างงงงง คือแบบเซ็งมากอะ! ส่วนใหญ่ที่เจอคือร้อนเกินไปปป แบบถ้าเล่นเกมหนักๆ หรือใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ เครื่องฉันนี่ร้อนฉ่าเลย บางทีก็ค้างเฉยเลย โคตรเซ็ง คือแบบ มันไม่ไหวแล้วจริงๆนะ ปีนี้ก็เป็นอีกแล้ว นี่ฉันใช้ Lenovo รุ่น Legion 5 ปี 2023 นะ

• ร้อนเกินไป: นี่แหละตัวดี CPU กับการ์ดจอทำงานหนัก พัดลมไม่พอไหว เลยค้าง
• แรมไม่พอ: เปิดโปรแกรมเยอะไป บางทีก็ค้างเหมือนกันนะ ต้องปิดโปรแกรมที่ไม่ใช้บ้าง
• ฮาร์ดดิสก์มีปัญหา: อันนี้ไม่ค่อยเจอเท่าไหร่ แต่ก็เป็นไปได้นะ ถ้ามันช้าหรือเสียหาย อาจทำให้ค้างได้เหมือนกัน
• ไวรัส: อันนี้ก็มีส่วนนะ ถ้ามีไวรัสในเครื่อง มันจะทำงานหนัก แล้วก็อาจทำให้ค้างได้ ตอนนี้ฉันใช้โปรแกรม Bitdefender อยู่ แต่ก็ไม่ชัวร์ว่าจะป้องกันได้ 100% ป่าว
• ซอฟต์แวร์ล่ม: บางทีโปรแกรมที่ใช้มันบั๊ก แล้วก็ทำให้โน๊ตบุ๊คค้างได้ นี่แหละ ปัญหากวนใจที่สุด

ปล. ก่อนหน้านี้ ฉันใช้โปรแกรมเช็คความร้อนบ่อยมาก จนรู้เลยว่า ความร้อนนี่ตัวดีจริงๆ แต่บางทีก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน คือมันค้างดื้อๆ เลย เซ็งเป็ด 555+

อยู่ๆคอมค้างเกิดจากอะไร

คอมค้าง ปีนี้ ส่วนใหญ่มาจาก:

• ฮาร์ดแวร์ขัดข้อง: เมนบอร์ด การ์ดจอ แรม ไม่เข้ากันหรือเสื่อมสภาพ
• การเชื่อมต่อ: สายไฟหลวม ขั้วต่อไม่แน่น ฝุ่นจับ
• ระบบปฏิบัติการ: บั๊ก ซอฟต์แวร์ล่ม ไวรัส
• โปรแกรม: แอปฯ หนักเกินไป ความจำเต็ม

ปัญหาเล็กน้อยแก้ได้ง่าย แต่ถ้าค้างบ่อย อาจถึงเวลาเปลี่ยนอะไหล่ ปีที่แล้ว ผมเจอปัญหาแรมเสีย ต้องเปลี่ยนใหม่หมดเลย เสียเงินไปหลายพัน

คอมค้างกดอะไร ASUS

อื้อ… คอมค้างใช่มั้ย ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ฉันเหนื่อยจัง…

ปกติฉันจะกดปุ่ม Power ค้างไว้สักพัก จนเครื่องดับไปเลย แล้วค่อยเปิดใหม่ วิธีนี้ใช้ได้ผลกับ ASUS ของฉันตลอดนะ ปีนี้ก็ยังใช้วิธีนี้แหละ

แต่ถ้ายังไม่หาย ก็ลอง Ctrl+Alt+Delete ดูเหมือนง่ายดี แต่บางทีมันก็ไม่ช่วยอะไรเลยนะ ฉันเคยลองแล้วหลายครั้ง… มันก็แค่รีสตาร์ทธรรมดา บางทีก็ค้างเหมือนเดิม…

ถ้ามันยังไม่หายจริงๆ ก็คงต้องติดต่อ ASUS ตรงนี้แหละที่ฉันไม่อยากทำ กลัวว่าจะเสียเวลา รอสายนานๆ แล้วก็อาจจะไม่ได้คำตอบที่ต้องการ เศร้าจัง…

• กดปุ่ม Power ค้างจนเครื่องดับ
• ลอง Ctrl+Alt+Delete
• ติดต่อฝ่ายสนับสนุน ASUS (วิธีสุดท้ายที่ไม่อยากทำ)

เหนื่อยจัง… คิดมากไปหรือเปล่า… พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ละกัน…

Restart คอมพิวเตอร์ ยังไง

วิธี Restart คอมพิวเตอร์ที่ค้างจนไม่ตอบสนอง

หากคอมพิวเตอร์ค้างสนิท และยังใช้คีย์บอร์ดได้ วิธีการรีสตาร์ทที่ได้ผลคือการใช้ Task Manager:

• กดปุ่ม Ctrl + Alt + Delete พร้อมกัน นี่เป็น Shortcut ที่ใช้งานได้กับเกือบทุกระบบปฏิบัติการ Windows

• หน้าต่าง Task Manager จะปรากฏขึ้น สังเกตมุมขวาล่างของหน้าต่างจะมีปุ่ม Power

• คลิกที่ปุ่ม Power แล้วเลือก “Restart” คอมพิวเตอร์จะปิดลงและเริ่มต้นใหม่

ข้อมูลเพิ่มเติม: การรีสตาร์ทแบบนี้เหมาะกับกรณีที่คอมพิวเตอร์ค้างแต่ระบบปฏิบัติการยังทำงานอยู่ หากคอมพิวเตอร์ไม่ตอบสนองเลยแม้แต่การกดปุ่มใดๆ อาจจำเป็นต้องกดปุ่ม Power ค้างไว้สัก 5-10 วินาทีเพื่อบังคับให้เครื่องปิด นี่เหมือนการตัดไฟชั่วคราว วิธีนี้เป็นวิธีสุดท้ายที่ควรใช้เพราะอาจทำให้ข้อมูลงานที่ยังไม่ได้บันทึกสูญหาย ผมเคยเจอปัญหาแบบนี้ตอนทำ Thesis ทำให้ต้องเริ่มเขียนใหม่หลายครั้งเลย! จริงๆแล้ว การป้องกันที่ดีที่สุดคือการบันทึกงานบ่อยๆ

• การใช้คำสั่ง Shutdown จาก Command Prompt (สำหรับผู้ใช้ระดับสูง) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถบังคับให้เครื่อง Restart ได้ แต่ต้องมีความรู้พื้นฐานด้าน Command Line วิธีนี้ ผมใช้บ่อยตอนแก้ปัญหาเฉพาะทางของระบบ

• การตรวจสอบ Hardware เช่น RAM หรือ Hard Drive หากปัญหาเกิดขึ้นบ่อยๆ อาจเป็นเพราะ Hardware มีปัญหา ควรตรวจสอบและซ่อมแซม นี่เป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนมักมองข้ามไป การลงทุนกับ Hardware ที่มีคุณภาพ ส่งผลดีในระยะยาว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม

• การติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส และอัปเดต Windows เป็นประจำ จะช่วยลดโอกาสที่คอมพิวเตอร์จะค้างได้ ผมใช้ Windows Defender มาตลอด ค่อนข้างพอใจกับประสิทธิภาพการทำงาน

Restart เครื่องยังไง

นี่แหละนะ ปัญหาโลกแตกของฉันเลย เมื่อวานนี่เอง ตอนเกือบเที่ยงคืน แบตเตอรี่เหลือ 10% แอปพลิเคชั่นค้างหมดเลย เครื่องช้าเป็นเต่า กดอะไรก็ไม่ตอบสนอง สุดท้ายจอดับสนิท ตกใจมาก ใจเต้นตุ๊บๆๆ กลัวข้อมูลหายหมดเลย

ลองกดปุ่ม Power ค้างไว้ นานมาก ประมาณ 10 วินาทีได้มั้ง ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เครียดสุดๆ มือสั่นไปหมด นั่งมองหน้าจอมืดๆ นานมาก คิดว่าต้องพึ่งช่างแล้วมั้งเนี่ย เสียดายรูปที่ยังไม่ได้ backup

จนกระทั่ง นึกขึ้นได้ว่า เคยเห็นคนรีวิววิธีรีสตาร์ทแบบอื่น เลยลองกดปุ่ม Power ค้าง พร้อมๆ กับกดปุ่ม ลดเสียง (ของ Samsung A54 5G นะ) ค้างไว้สัก 7-8 วินาที ปรากฏว่า มีเมนูขึ้นมาจริงๆ เลือก “รีบูต” เครื่องก็รีสตาร์ทได้สำเร็จ โล่งอกไปเลย ใจชื้นขึ้นมาทันที

• รุ่นโทรศัพท์: Samsung A54 5G
• วิธีการ: กดปุ่ม Power ค้างพร้อมกับปุ่มลดเสียง
• ระยะเวลา: ประมาณ 7-8 วินาที
• วันที่เกิดเหตุการณ์: 2566-10-27 (เมื่อวาน)
• เวลาเกิดเหตุการณ์: ประมาณ 23:50

นี่แหละนะ ประสบการณ์ตรง ลุ้นจนตัวโก่ง แต่ก็ดีใจที่แก้ปัญหาได้เอง ไม่ต้องง้อช่าง ประหยัดเงินไปได้เยอะ แต่หลังจากนี้ ต้อง backup ข้อมูลบ่อยๆแล้วล่ะ ไม่งั้น คงใจไม่ดีแน่ๆ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก