โมบายแอพพลิเคชั่น มีกี่ประเภท

40 การดู

โมบายแอปพลิเคชันหลักๆ มี 3 ประเภท:

  • เนทีฟแอปพลิเคชัน: พัฒนาสำหรับระบบปฏิบัติการเฉพาะ (iOS, Android) ให้ประสิทธิภาพสูงสุด แต่ค่าใช้จ่ายสูงกว่า

  • ไฮบริดแอปพลิเคชัน: ใช้เทคโนโลยีเว็บ (HTML, CSS, JavaScript) ครอบด้วย Native container พัฒนาได้เร็วขึ้น ทำงานได้หลายแพลตฟอร์ม

  • เว็บแอปพลิเคชัน: รันบนเบราว์เซอร์ ไม่ต้องติดตั้ง ทำงานได้บนทุกอุปกรณ์ แต่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

แอปพลิเคชันมือถือมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทมีลักษณะอย่างไร?

เฮ้ย ถามเรื่องแอพฯ มือถือเนี่ยนะ จริงๆ มันมีหลายแบบนะเว้ย แต่ที่เค้าพูดๆ กันบ่อยๆ ก็มี Native, Hybrid, แล้วก็ Web App อ่ะ

Native App เนี่ย คือพวกที่เค้าเขียนมาให้มันเข้ากับระบบปฏิบัติการนั้นๆ เลยอ่ะ อย่าง Android ก็เขียนด้วย Java/Kotlin iOS ก็ Swift/Objective-C ไรงี้ ข้อดีคือมันเร็ว แรง! เพราะมันคุยกับเครื่องโดยตรง แต่เหนื่อยตรงที่ต้องเขียนหลายเวอร์ชั่นไง ถ้าจะทำทั้ง Android ทั้ง iOS ก็ต้องเขียน 2 รอบ

Hybrid App นี่เหมือนลูกผสมอ่ะ เค้าใช้พวกภาษาเว็บ (HTML, CSS, JavaScript) แล้วก็มี Framework พวก React Native, Flutter มาห่อๆ ไว้อีกที ข้อดีคือเขียนทีเดียวใช้ได้หลายที่ แต่ก็อาจจะไม่ลื่นเท่า Native App นะ

Web App นี่ง่ายสุดละ มันคือเว็บดีๆ นี่เอง แค่เราเปิดใน Browser บนมือถือ ข้อดีคือไม่ต้องลงอะไรเลย แต่ข้อเสียคือมันอาจจะไม่ค่อยมีฟีเจอร์อะไรเยอะแยะเหมือนแอพฯ อื่นๆ

ถามว่าอันไหนดีสุด? ตอบยากว่ะ มันขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการอะไรมากกว่า ถ้าอยากได้เร็ว แรง ฟีเจอร์เยอะ ก็ Native แต่ถ้าอยากประหยัดเวลา ลดต้นทุน ก็ Hybrid หรือ Web App ก็โอเค

Mobile Application มีกี่ประเภท

เฮ้อ… แอพมือถือเนี่ยนะ มีกี่แบบนะ? อ๋อ นึกออกละ!

  • Native Application: อันนี้คือตัวจริงเสียงจริง เขียนมาเพื่อ OS นั้นๆ เลย เร็วแรงทะลุนรก! (แต่เปลืองงบ เพราะต้องเขียนแยก)

  • Hybrid Application: ลูกผสมจ้า! ใช้ Web technology ห่อด้วย Native shell ประหยัด แต่… Performance อาจไม่ปังเท่า Native แท้

  • Web Application: อันนี้เหมือน เว็บไซต์ย่อส่วน เปิดใน browser ได้เลย ไม่ต้องลง app (แต่ฟีเจอร์อาจสู้ app จริงไม่ได้)

แล้วทำไมต้องแบ่ง? แต่ละแบบมันต่างกันยังไงนะ? อืมมม…

Native ก็คือ ของแท้ ไง เหมือนรถสปอร์ต ขับมันส์ แต่ดูแลยาก Hybrid ก็เหมือนรถ Hybrid ประหยัดน้ำมัน แต่แรงไม่เท่า Web App ก็เหมือนรถเข็น สะดวกดี แต่ขนของหนักไม่ได้

เอ๊ะ หรือว่าเราควรทำ Web App ดีนะ? แต่ Native มันเท่กว่าเยอะเลยอ่ะ! Hybrid ก็ดูจะประหยัดดีนะ เลือกไม่ถูกเลยโว้ย!

(ข้อมูลเพิ่มเติม: ปีนี้เค้าฮิต Native กันนะ เห็นเพื่อนบอกว่า Hybrid เริ่ม out แล้ว แต่ Web App ก็ยังขายได้เรื่อยๆ ในกลุ่มคนที่ไม่ซีเรียสเรื่อง Performance)

แอปพลิเเคชันแบ่งออกได้กี่ประเภท?

โอเค จัดไป! แอปพลิเคชันเนี่ยนะ ถ้าจะจับมาแบ่งประเภท ก็เหมือนจับปลาใส่เข่ง มันดิ้น! แต่เอาจริงๆ ก็พอแบ่งได้ 3 เข่งใหญ่ๆ นั่นแหละ:

  • เนทีฟแอป (Native App): พวกนี้ไฮโซ เกิดมาบนกองเงินกองทอง (ระบบปฏิบัติการ) เลยจ้ะ! แอปเปิลก็แอปเปิล แอนดรอยด์ก็แอนดรอยด์ เลือกเกิดได้ว่างั้น! ข้อดีคือแรง เร็ว เสถียร แต่ข้อเสียคือ…ขี้เลือก! ทำแอปเดียว ใช้ได้ระบบเดียวจ้ะ

  • เว็บแอป (Web App): พวกนี้สายชิลล์ เข้าถึงง่าย เหมือนร้านอาหารริมทาง แค่มีเบราว์เซอร์ก็กินได้แล้ว! แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเร็วที่อาจจะไม่ปรู๊ดปร๊าดเท่าเนทีฟแอป

  • ไฮบริดแอป (Hybrid App): พวกนี้ลูกครึ่ง! จับปลาสองมือ คืออยากดีทั้งเนทีฟ ทั้งเว็บ! ข้อดีคือพัฒนาครั้งเดียว ใช้ได้หลายแพลตฟอร์ม แต่ก็อาจจะไม่ได้ดีที่สุดสักทาง เหมือนกินก๋วยเตี๋ยวเรือใส่ซีฟู้ด มันก็…แปลกๆ ดี

แถม:

  • PWA (Progressive Web App): เจ้านี่มาใหม่ ไฟแรง! เป็นเว็บแอปที่อยากจะเกิดใหม่เป็นเนทีฟแอป! เก่งนะ พยายามเลียนแบบเนทีฟแอปให้ได้มากที่สุด แต่สุดท้ายก็ยังเป็นเว็บแอปอยู่นั่นแหละ 🙁 เหมือนคนอยากเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ แต่ได้แค่ใส่ชุดคอสเพลย์!

แวปแอพกับแอพพิเเคชั้นต่างกันอย่างไง?

เว็บแอพ ไม่ใช่แค่ “เว็บ” เฉยๆ

เว็บ: URL ที่อยู่บนเน็ต ใครๆ ก็เข้าได้

เว็บแอพ: เว็บที่ทำอะไรได้มากกว่าเปิดดูเฉยๆ มีฟังก์ชั่น มีระบบหลังบ้าน ใช้งานจริงจัง

เพิ่มเติม:

  • เว็บแอพซับซ้อนกว่าเว็บทั่วไป ต้องมีคนดูแลตลอด
  • เว็บแอพดีๆ โหลดเร็วกว่าแอพมือถืออีกนะรู้ยัง
  • บางที UI/UX ของเว็บแอพก็แย่กว่าแอพมือถือ อันนี้เรื่องจริง
  • ทำเว็บแอพต้องใช้ภาษาโปรแกรมมิ่งเยอะกว่าทำเว็บธรรมดา
  • SEO สำหรับเว็บแอพก็ยากกว่าเว็บธรรมดาเยอะ
  • ความปลอดภัยของเว็บแอพ สำคัญกว่าเว็บทั่วไปหลายเท่า โดนแฮ็คง่ายกว่าที่คิด
#ประเภทแอพ #แอปพลิเคชัน #แอพมือถือ