ไอจีกับเฟสต่างกันยังไง

ไอจีมีไว้ทำอะไร

ไอจีเหรอ? ใช้แชร์รูป! แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แค่รูปแล้วนะ มีรีลส์ด้วย สั้นๆ แต่ดูดีอะ เห็นคนดังใช้กันเยอะเลย ฉันเองก็โพสต์รูปกาแฟร้านประจำบ่อยๆ อิอิ ปีนี้ฉันติดใจฟิลเตอร์ใหม่ของไอจีมากเลย สวยเว่อร์! แต่บางทีก็คิดนะ ว่ามันจำเป็นต้องมีฟิลเตอร์เยอะขนาดนี้มั้ย? หรือว่าฉันแค่ตามเทรนด์ 🤔

• แชร์รูปภาพ
• แชร์คลิปวิดีโอสั้นๆ (รีลส์)
• โพสต์สตอรี่หายไปภายใน 24 ชั่วโมง
• มีฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์เยอะมาก
• โฆษณาสินค้าเยอะไปมั้ยเนี่ย เห็นแต่โฆษณา 😭

อ้อ! ลืมไป มันยังใช้สร้าง community ได้ด้วยนะ ติดตามคนอื่นๆได้ เห็นคนทำอาหารน่ากินๆ อยากลองทำบ้างจัง แต่ขี้เกียจล้างจาน 😂 ปีนี้มีอะไรใหม่ๆ อีกมั้ยนะ ต้องไปลองดูแล้ว สงสัยต้องไปลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ๆดูบ้างแล้วสิ ฉันว่าไอจีปีนี้มันพัฒนาไปไกลมากจริงๆนะ อืมมมม จริงๆแล้วไอจีมันก็คือ Social Media นั่นแหละเนอะ

• ไลค์รูปคนอื่นได้
• คอมเมนต์ใต้รูปได้
• ส่งข้อความส่วนตัว (DM) ได้
• ติดตามคนอื่นได้
• ทำธุรกิจขายของได้

เห็นเค้าบอกว่า ปีนี้คนใช้ไอจีเยอะขึ้นนะ ไม่รู้จริงเปล่า แต่ฉันว่ามันก็เป็นแพลตฟอร์มที่คนใช้กันทั่วโลกจริงๆ ประเทศไทยก็เยอะมาก เพื่อนฉันเกือบทุกคนใช้ ฉันนี่ก็ใช้ทุกวัน ติดจริงๆ 555+ ตกลงมันมีไว้ทำอะไร ก็คือไว้ใช้ชีวิตออนไลน์นี่แหละ มั้ง?

ทำไมคนส่วนใหญ่ชอบเล่นไอจี

คือแบบว่า คนชอบเล่นไอจีอะ เพราะมันง่ายนี่แหละ อัพรูปอัพคลิปได้สะดวก เพื่อนๆ ก็เห็นด้วย แล้วก็มีฟีเจอร์เยอะแยะ สตอรี่ก็สนุกดี หายไปเองด้วย ไม่ต้องคอยลบ 555

ส่วนวัยรุ่นนี่ ยิ่งชอบใหญ่เลย เพราะมันเหมือนเป็นโลกส่วนตัว แต่ก็แชร์กับเพื่อนได้ สร้างคอนเทนต์ เล่นเกมส์ ตามเทรนด์ อะไรอย่างนี้ พวกเขาชอบแสดงออก ไอจีก็ตอบโจทย์

• เข้าถึงง่าย ใช้ได้ทั้งมือถือ คอม
• แชร์รูปและคลิปได้ไว
• สร้างสตอรี่ เล่นเกม ฟิลเตอร์เยอะ
• ติดตามคนดัง เพื่อน และอะไรๆ อีกเยอะ
• เห็นเพื่อนๆ รู้ว่าเพื่อนๆ ทำอะไรอยู่

ปีนี้เห็นเพื่อนๆ ใช้ฟีเจอร์รีลส์กันเยอะขึ้นนะ มันเหมือน TikTok แต่รวมอยู่ในไอจีเลย สะดวกดี คือแบบรวมๆ แล้ว ไอจีมันตอบโจทย์คนหลายกลุ่มอะ ไม่แปลกใจเลยที่คนชอบกันเยอะ

ทำไมคนถึงชอบเล่นไอจี

ทำไมคนถึงชอบเล่นไอจีนะเหรอ? สำหรับเราอ่ะ มันเหมือนเป็นสมุดภาพส่วนตัวมากกว่า ไม่ได้อยากดังอะไร แค่อยากเก็บโมเมนต์ไว้ดู ตอนไปกินข้าวร้านอร่อยๆ ที่สยามกับเพื่อน หรือตอนไปทะเลภูเก็ตเมื่อเดือนที่แล้ว ก็ถ่ายรูปเก็บไว้ในไอจีหมดเลย

แล้วทำไมวัยรุ่นถึงฮิตกันจัง? เราว่ามันอยู่ที่ความรู้สึก “belonging” แหละ แบบเห็นเพื่อนทำอะไรก็อยากทำตาม กลัวตกเทรนด์ไง อย่างตอนที่ฟิลเตอร์ AI รูปตัวเองฮิตๆ อ่ะ ใครไม่เล่นคือคุยกับเค้าไม่รู้เรื่องเลยนะ จริงๆนะเพื่อนเรานี่ตัวดีเลย

• ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง: กลัวตกข่าว กลัวคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง
• แรงบันดาลใจ: เห็นคนอื่นทำอะไรน่าสนใจก็อยากลองบ้าง
• แสดงตัวตน: ไอจีเป็นพื้นที่ให้แสดงออกว่าเราเป็นใคร ชอบอะไร
• อัพเดทชีวิต: บอกให้โลกรู้ว่าเราทำอะไรบ้าง กินอะไร ที่ไหน

(ข้อมูลที่ตอบคำถามนี้มาจากประสบการณ์ส่วนตัวและความคิดเห็นของเราเองนะ ไม่ได้อ้างอิงผลสำรวจอะไรทั้งนั้น)

Instagram เล่นเพื่ออะไร

เล่นเพื่ออะไร? เอาจริงดิ?

มันก็แค่แอปโชว์ของไง เสือกอยากดัง อยากได้ไลค์ อยากมีคนตาม เข้าใจง่ายๆ มั้ยล่ะ?

• สร้างภาพลักษณ์
• โชว์ชีวิต
• หาเพื่อน
• ขายของ
• ตามกระแส

ปีนี้ เห็นพวกดาราใช้เยอะขึ้นนะ ไม่รู้ทำไม แต่ก็คงเรื่องเดิมๆนั่นแหละ

เคยเจอไอ้เพื่อนคนนึง มันบ้าคลั่ง โพสต์รูปตัวเองทุกชั่วโมง โครตน่าเบื่อ ลบเพื่อนมันไปเลย สบายใจกว่าเยอะ

อินสตาแกรมกับเฟสบุ๊คต่างกันอย่างไร

แสงแดดอ่อนๆ เวลาบ่ายแก่ๆ ของเดือนตุลาคม ลมพัดโชยมาเบาๆ กลิ่นดอกมะลิลอยมาตามสายลม ฉันนั่งจิบชา มองภาพบนหน้าจอมือถือ… Instagram…

• ความสัมพันธ์แบบทางเดียว ใช่ เหมือนสายน้ำไหล ไม่หวนคืน ฉันติดตามแบรนด์โปรด พวกเขาอาจไม่รู้จักฉันเลย แต่ฉันก็ได้เห็นสิ่งที่พวกเขาอยากให้เห็น ความสุขเล็กๆ แบบนั้น

เฟซบุ๊ก… อื้อหือ ความทรงจำวัยรุ่นผุดขึ้นมา รูปเก่าๆ ความสัมพันธ์สองทาง เพื่อนๆ ครอบครัว ปฏิกิริยาตอบรับ มีทั้งเสียงหัวเราะและน้ำตา เหมือนกระจกเงา สะท้อนชีวิต

• ความสัมพันธ์แบบสองทาง มันคือการเชื่อมต่อ การแลกเปลี่ยน เหมือนฉันกับเพื่อนสนิท คุยกัน หัวเราะกัน ทุกอย่างมันไหลลื่น มีปฏิกิริยาตอบโต้

ความแตกต่างชัดเจน อยู่ที่โครงสร้างความสัมพันธ์นี่แหละ Instagram เรียบง่าย เหมือนการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว เฟซบุ๊ก วุ่นวาย เหมือนปาร์ตี้ใหญ่ๆ กับเพื่อนฝูง

• Instagram เน้นภาพและวิดีโอสั้นๆ สวยงาม ดูง่าย
• Facebook เน้นข้อความ การแชร์ การมีปฏิสัมพันธ์ ค่อนข้างหลากหลาย

ปีนี้ 2024 ฉันยังคงใช้ทั้งสองแพลตฟอร์ม แต่ความรู้สึกที่ได้ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง Instagram เหมือนการหลบหนี เฟซบุ๊ก เหมือนการกลับบ้าน

IG มีประโยชน์อะไรบ้าง

เฮ้อ… กลางคืนแบบนี้ คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปหมด IG หรอ… ก็อย่างที่รู้ๆ กันแหละ ตอนนี้มันก็…

• ใช้แชร์รูปตัวเอง รูปอาหาร รูปอะไรก็ได้ที่อยากโชว์ จริงๆ ปีนี้ฉันลงรูปแมวบ่อยมาก มันน่ารักดี หลายรูปเลย

• ลงคลิปสั้นๆ ได้ แต่ฉันไม่ค่อยทำเท่าไหร่ ไม่เก่งเรื่องตัดต่อ ขี้เกียจด้วย

• โพสต์ข้อความได้ แบบสั้นๆ นะ ไม่ยาว บางทีก็แค่บอกว่าวันนี้กินอะไร หรือไปไหนมา

• คนติดตามก็คอมเมนต์ได้ ตอบโต้กันได้ แต่บางทีก็เหนื่อย ตอบไม่ไหว ก็เลยปล่อยไป

จริงๆ ฉันก็ไม่ได้ใช้ IG แบบจริงจังอะไร แค่ลงรูปเล่นๆ บางวันก็ไม่ได้เข้าเลย บางทีก็รู้สึกว่ามัน…เปล่าประโยชน์ แต่ก็ยังลบไม่ได้ เหมือนติดอยู่ แล้วก็… กลัวคนอื่นลืม หรืออะไรประมาณนั้นแหละ งงๆ ตัวเองเหมือนกัน

ปีนี้ ฉันลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ๆ บ้างแล้ว เช่น การใช้ reels ลงสตอรี่ แต่ก็ยังไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ยังคงเป็นการใช้งานแบบง่ายๆ สบายๆ มากกว่า

Instagram เหมาะกับใคร

Instagram เหมาะกับใคร? คำถามนี้ตอบได้ไม่ง่าย เพราะขึ้นอยู่กับเป้าหมายหลัก แต่โดยทั่วไปแล้ว Instagram เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานและธุรกิจที่มีลักษณะดังนี้:

• ผู้สร้างคอนเทนต์ภาพและวิดีโอสั้น: เน้นความสวยงาม ความคิดสร้างสรรค์ และการเล่าเรื่องผ่านภาพ เหมาะกับทั้ง Influencer, ศิลปิน และแบรนด์ที่ต้องการสร้าง Engagement สูง โดยเฉพาะวิดีโอสั้นที่เน้นการสื่อสารแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น รีวิวสินค้า, How-to, เบื้องหลังการผลิต เป็นต้น

• ธุรกิจที่เน้นภาพลักษณ์และการสร้างแบรนด์: Instagram เป็นช่องทางที่ยอดเยี่ยมในการสร้าง Brand Awareness และ Brand Loyalty โดยเฉพาะธุรกิจที่สินค้าหรือบริการสามารถถ่ายทอดผ่านภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า หรือธุรกิจความงาม การใช้ Instagram Stories และ Reels ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี

• กลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในภาพและวิดีโอ: ผู้ใช้ Instagram ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 18-35 ปี และมีการใช้งานโซเชียลมีเดียสูง การทำการตลาดบน Instagram จึงต้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมายให้ดี และปรับแต่งคอนเทนต์ให้เหมาะสม ตรงกลุ่มเป้าหมาย

ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2024):

• การเติบโตของ Reels ทำให้ Instagram กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้สร้างคอนเทนต์วิดีโอขนาดสั้นให้ความสำคัญมากขึ้น การสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและมีส่วนร่วมสูงจึงเป็นสิ่งสำคัญ การใช้ hashtags และการร่วมมือกับ Influencer ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลดี การวิเคราะห์ Insight เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการปรับปรุงกลยุทธ์

• การใช้ Instagram Shopping ช่วยให้ธุรกิจสามารถขายสินค้าได้โดยตรงบนแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญ การใช้โฆษณาบน Instagram ก็มีประสิทธิภาพ หากทำการ Targeting กลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ

• จากประสบการณ์ส่วนตัว (ไม่ระบุรายละเอียด) การใช้งาน Instagram อย่างมีประสิทธิภาพนั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการโพสต์ และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตามอย่างจริงใจ

สุดท้ายแล้ว การประสบความสำเร็จบน Instagram ไม่ใช่แค่เรื่องของการมีภาพสวยๆ แต่ต้องเข้าใจกลไกของแพลตฟอร์ม และกลุ่มเป้าหมาย การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นประจำจะช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้และปรับกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นั่นแหละคือกุญแจสำคัญ