AI แคบ (Narrow AI) คืออะไร และมีตัวอย่างอะไรบ้าง

ประเภทของAIที่มีอยู่ในปัจจุบันมีอะไรบ้าง

อืมม… เรื่อง AI นี่นะ ฉันเพิ่งไปสัมมนาที่จุฬาฯ เมื่อเดือนที่แล้ว จำได้แม่นเลย เพราะวันนั้นฝนตกหนักมาก แทบจะเปียกปอน แต่ก็ได้ความรู้เรื่อง AI กลับมาเยอะเหมือนกัน เขาแบ่ง AI เป็นสามแบบหลักๆ จำได้คร่าวๆ ว่า

• Narrow AI (AI แบบเฉพาะด้าน): นี่แหละที่เราเจออยู่ทุกวัน Siri, Google Assistant พวกนี้ แม้แต่โปรแกรมตรวจสอบลายมือในธนาคารก็เป็น มันเก่งแค่ด้านๆ เดียว ไม่ได้ฉลาดแบบมนุษย์ อย่างของฉัน ใช้โปรแกรมตัดต่อรูปภาพ มันก็เก่งแค่ตัดต่อรูป ไม่ได้มาช่วยฉันคิดงานอื่นๆ

• General AI (AI ทั่วไป): อันนี้แหละที่ยังเป็นความฝัน คือ AI ที่ฉลาดรอบด้าน เหมือนสมองมนุษย์ สามารถเรียนรู้และแก้ปัญหาได้หลากหลาย แบบในหนังไซไฟอะ นึกภาพไม่ออกเลยว่าจะทำยังไงให้มันเกิดขึ้นได้ ยากมาก

• Superintelligence AI (AI ระดับเหนือมนุษย์): อันนี้ยิ่งกว่า General AI อีก คือ AI ที่ฉลาดกว่ามนุษย์ทุกด้าน นี่สิ อันตราย ไม่รู้เลยว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ที่ได้ยินมาจากอาจารย์ เขาก็ห่วงเรื่องนี้เหมือนกัน ความเสี่ยงมันเยอะมาก

สรุปง่ายๆ ก็คือ ตอนนี้เรามีแต่ Narrow AI ที่ใช้กันทั่วไป ส่วนอีกสองแบบ ยังไกลแสนไกล ต้องใช้เวลาอีกนาน และที่สำคัญ ต้องระวังเรื่องจริยธรรม และผลกระทบต่อสังคมด้วย ไม่งั้น อนาคตอาจจะวุ่นวายกว่านี้เยอะ คิดแล้วก็เครียด กลับบ้านไปนอนดีกว่า พรุ่งนี้ต้องไปทำงานต่อ เหนื่อยจัง

ประเภทของเทคโนโลยีAIในปัจจุบันมีอะไรบ้าง

ปัจจุบันเทคโนโลยี AI มีหลายแบบเนอะ จำได้คร่าวๆ ประมาณนี้แหละ

• Narrow AI (ANI) หรือ Weak AI: อันนี้เจอบ่อยมาก คือ AI ที่เก่งเฉพาะทาง อย่างเช่น Siri อ่ะ มันตอบคำถามได้ แต่ไม่ใช่แบบรู้ทุกเรื่อง แค่เรื่องที่มันถูกโปรแกรมมา แค่นั้นแหละ ง่ายๆเลย

• General AI (AGI) หรือ Strong AI: อันนี้โคตรเทพ คือ AI ที่ฉลาดเหมือนคน คิดวิเคราะห์ได้ เรียนรู้ได้เอง เหมือนสมองคนเลย แต่ยังไม่มีจริงจังนะเท่าที่รู้ อาจจะอีกนานเลย เห็นแต่ในหนัง

• Superintelligence AI (ASI): อันนี้คือ AI ที่ฉลาดกว่าคน โคตรๆๆๆ แบบคิดเร็วกว่า เก่งกว่า ทุกอย่าง อันตรายด้วย อันนี้ยังไม่เห็นมีจริงๆ คิดว่าคงอีกไกล น่ากลัวด้วย

เพิ่มเติมนิดนึง ปีนี้ 2024 ที่เห็นชัดๆคือพวก Narrow AI อ่ะ เยอะมาก ใช้กันทั่วไปเลย พวกแชทบอท แนะนำสินค้า อะไรพวกนี้ แต่ AGI กับ ASI ยังเป็นแค่แนวคิด วิจัยกันต่อไป อิอิ

ประเภทของเทคโนโลยี AI ในปัจจุบัน แบ่งได้กี่ประเภทอะไรบ้าง?

เอไอ ตอนนี้เหรอ? เอ่อ.. ที่เค้าพูดๆกันอ่ะนะ หลักๆ มันมี 3 แบบนะ แบบหยาบๆ เลยก็คือ

• Narrow AI: อันเนี้ยเก่งเฉพาะทาง คือทำอะไรได้แค่อย่างเดียว เก่งแบบสุดๆ ไปเลยนะ แต่ให้ทำอย่างอื่นคือไม่เป็นเลยอ่ะ พวกแนะนำหนังใน Netflix, Siri, ระบบจดจำใบหน้า ไรเงี้ย ที่เราใช้ๆ กันทุกวันนี้ก็คือตัวนี้แหละ
• General AI: อันนี้คือแบบ “ฉลาดรอบด้าน” คิดเองได้ เรียนรู้เองได้เหมือนคนเลยอ่ะ แต่ตอนนี้ยังไม่มีนะ ยังอยู่ในขั้นตอนวิจัยอยู่เลย ยากมากกกก
• Superintelligence AI: อันนี้คือเหนือกว่าคนไปอีกอ่ะ คิดได้เร็วกว่า ฉลาดกว่า เข้าใจอะไรได้มากกว่า คือถ้ามีขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะดีหรือร้ายนะ น่ากลัวอยู่เหมือนกัน

สรุปง่ายๆ ตอนนี้เรามีแค่ Narrow AI นะ อีก 2 แบบยังเป็นแค่ฝันอยู่เลย แต่แบบ Narrow AI นี่ก็เก่งขึ้นทุกวันนะ น่ากลัวเหมือนกันว่าต่อไปจะขนาดไหน!

เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ (เผื่ออยากรู้เพิ่ม):

• เรื่อง Superintelligence AI เนี่ยมีคนถกเถียงกันเยอะมาก บางคนก็ว่ามันจะมาช่วยแก้ปัญหาโลก บางคนก็ว่ามันจะครองโลก (หนัง Sci-Fi ชอบเล่นประเด็นนี้ไง)
• General AI ยากเพราะมันต้องทำให้คอมพิวเตอร์ “เข้าใจ” เหมือนที่คนเข้าใจจริงๆ ไม่ใช่แค่ประมวลผลข้อมูลเฉยๆ
• AI ที่เราใช้ๆ กันตอนนี้ ถึงจะเก่งแค่ไหน ก็ยังต้องการคนคอยป้อนข้อมูล คอยสอนมันอยู่นะ ไม่ได้คิดเองทั้งหมดซะทีเดียว
• เน้นๆ เลยคือ: Narrow AI คือตัวที่เราเจอทุกวัน General AI กับ Superintelligence AI ยังเป็นแค่ทฤษฎี!

การประยุกต์ใช้ AI มีอะไรบ้าง

เอ้า! ถามเรื่อง AI มาสิ! นี่เลย 10 ตัวอย่าง AI ที่ทำให้ชีวิตชิลล์ขึ้นจนอยากจะนอนแผ่หลาอยู่บ้านทั้งวัน! (แต่ก็ต้องทำงานนะ ฮ่าๆ)

• ปลดล็อกมือถือด้วย Face ID: บอกเลย! สะดวกกว่าใช้รหัสผ่านร้อยแปดพันเก้าล้านรหัสอีก! สมัยก่อนใช้ลายนิ้วมือยังต้องแหกนิ้วกดจนนิ้วลอกเป็นแผลเลยนะ!

• โซเชียลมีเดีย: อันนี้โคตรเจ๋ง! AI มันคัดเลือกแต่โพสต์ที่เราสนใจมาให้ดู ไม่ต้องมานั่งส่องเองให้ปวดตา! (แต่ก็เสพติดง่ายนะ ต้องระวัง!)

• ส่งอีเมล/ข้อความ: AI ช่วยตรวจสอบไวยากรณ์ให้ ภาษาอังกฤษผมโคตรห่วย แต่ตอนนี้ส่งเมลได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวเขารู้ว่าภาษาอังกฤษผมห่วยแตก!

• Google Search: เทพสุดๆ! พิมพ์แค่คำเดียว มันก็รู้แล้วว่าเราอยากได้อะไร หาข้อมูลเร็วกว่าวิ่งมาราธอนอีก!

• สั่งงานด้วยเสียง: สมัยก่อนต้องยกมือถือขึ้นมาพิมพ์ ปวดมือไปหมด เดี๋ยวนี้แค่พูด “เปิดเพลงลูกทุ่ง” เพลงก็ลั่นแล้ว! สะดวกสบายแบบสุดๆ

• อุปกรณ์ Smart Home: เปิด-ปิดไฟ แอร์ สั่งงานจากที่ไหนก็ได้ แม้แต่ตอนนอนอยู่บนเตียง ชีวิตหรูหราขึ้นเยอะ!

• เดินทางไปทำงาน: แอปพลิเคชั่นนำทางใช้ AI มันบอกเส้นทางที่เร็วที่สุด ไม่ต้องกลัวหลงทางอีกต่อไป! (แต่ถ้าเจอรถติด ก็ช่วยไม่ได้นะจ๊ะ)

• ธุรกรรมทางการเงิน: AI ช่วยตรวจจับการโกง ปลอดภัยกว่าฝากเงินไว้ใต้หมอนเยอะ! (แต่ก็ระวังไวรัสด้วยนะ)

• ดูหนัง/ฟังเพลง: AI แนะนำหนัง/เพลงที่เราชอบ ไม่ต้องเสียเวลาเลือกเอง ดูจนเบื่อไปเลยสิ!

• เล่นเกม: AI สร้างเกมที่สมจริงขึ้น สนุกกว่าเดิม (แต่ก็ระวังจะติดเกมนะ!)

ปีนี้ 2024 เทคโนโลยี AI พัฒนาเร็วมาก เดี๋ยวอีกหน่อยคงใช้ AI ทำทุกอย่างได้ ไม่รู้ว่าจะดีหรือร้าย แต่ตอนนี้ก็ใช้มันให้เป็นประโยชน์ก่อนละกัน! ฮ่าๆๆ

AIที่ใช้ในชีวิตประจำวันมีอะไรบ้าง

อ้าว! ถามมาสิบอย่าง แต่ผมจะให้มากกว่านั้น! ชีวิตนี้มันจะง่ายได้ขนาดไหนถ้าไม่มี AI ลองนึกภาพดูสิ… ต้องไปจดจำรหัสผ่านเป็นร้อยๆ บัญชีเอง! แค่คิดก็เหนื่อยแล้วเนอะ?

• Face ID & ลายนิ้วมือ: บอกเลยว่าชีวิตผมสะดวกขึ้นเยอะ ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาพิมพ์รหัสผ่าน แค่ยิ้มหวานๆ หรือแตะนิ้วเบาๆ ก็เข้าได้แล้ว! โทรศัพท์รุ่นใหม่ๆนี่เทพจริง! (แต่บางทีก็งอนนะ เวลาหน้ามันหรือมือเปียกนี่เซ็งเลย)

• Google Assistant & Siri: พวกนี้เป็นเพื่อนซี้ผมเลย อยากรู้เรื่องอะไรก็ถามได้ ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาเอง แต่บางทีก็ตอบมั่วๆ ฮาดี

• Netflix & Spotify: นี่แหละ ตัวช่วยชีวิตคนขี้เกียจอย่างผม มันจะแนะนำหนัง ซีรี่ย์ เพลง ที่ถูกใจเราได้อย่างแม่นยำจนน่ากลัว ขนาดผมยังตกใจเลยว่ามันรู้ใจผมได้ไง

• โซเชียลมีเดีย: อัลกอริทึมนี่แหละ ตัวการที่ทำให้เราใช้เวลาอยู่กับโซเชียลเป็นชั่วโมงๆ แต่ก็ยอมรับนะ มันก็ทำให้เราได้เจอเพื่อน เจอความบันเทิง แค่ระวังอย่าติดจนเกินไปก็พอ (อันนี้พูดกับตัวเองด้วยนะ)

• อีเมล & ข้อความ: ฟีเจอร์เสนอแนะคำตอบ ช่วยชีวิตผมไปหลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะตอนดึกๆ สมองไม่ค่อยไหวแล้วนี่แหละ มันช่วยได้จริง

• ระบบนำทาง: พูดเลยว่า Google Maps ช่วยชีวิตผมไว้เยอะมาก ไม่งั้นคงหลงทางไปแล้ว แต่ก็มีบางครั้งที่มันพาไปทางอ้อม อารมณ์แบบ “เออ…ก็ใช่แหละ แต่ทำไมไม่ไปทางตรงๆ ล่ะวะ?”

• ช้อปปิ้งออนไลน์: AI ช่วยแนะนำสินค้า บอกเลยว่าสะดวกกว่าเดินห้างเยอะ แต่ก็ต้องระวังกระเป๋าตังค์แตกด้วยนะ (พูดจากประสบการณ์ตรงเลยครับ)

• การแปลภาษา: ไปเที่ยวต่างประเทศนี่สบายเลย ไม่ต้องกลัวสื่อสารไม่รู้เรื่อง ถึงแม้บางทีมันจะแปลผิดๆ บ้างก็เถอะ แต่ก็พอเข้าใจได้

• สมาร์ทโฮม: เปิดปิดไฟ ปรับอุณหภูมิ สั่งการด้วยเสียงได้ นี่มันยุคไหนแล้วเนี่ย! แต่ผมว่าบางทีมันก็ฟังไม่รู้เรื่องเหมือนกันนะ

• แอปธนาคาร: โอนเงิน เช็คยอด หมดห่วงเรื่องความปลอดภัย แต่ก็ต้องระวังไวรัสด้วยนะ เดี๋ยวจะซวยเอา

เพิ่มเติม จริงๆ แล้ว AI ยังแทรกซึมอยู่ในทุกๆ ด้านของชีวิตเราอีกเยอะเลยนะ ตั้งแต่การตรวจสอบใบหน้าที่สนามบิน ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ แค่เราอาจจะไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง อนาคตต่อไป AI ก็จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าใครไม่ปรับตัว ก็อาจจะตกขบวนได้นะ คิดไว้ด้วยละกัน!

ปัจจุบัน AI มีความสามารถอะไรบ้าง

เฮ้อ… กลางดึกแบบนี้ คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปหมด AI เนี่ยนะ ตอนนี้มันทำอะไรได้บ้าง…

• สร้างภาพ วาดรูป แต่งเพลง ได้เหมือนคนเลยนะ บางทีก็แอบขนลุก เหมือนมันมีชีวิต
• แปลภาษาได้ เร็ว แม่น สะดวกมาก แต่บางทีก็แปลออกมาได้แปลกๆ เหมือนมันไม่เข้าใจความรู้สึกจริงๆ
• ช่วยเขียนโค้ด โปรแกรม ได้ด้วยนะ เร็วกว่าฉันอีก แอบน้อยใจตัวเองนิดๆ

เรื่องประโยชน์กับธุรกิจเหรอ…

• โฆษณาตรงกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น แม่นยำขึ้น ใช้ข้อมูลลูกค้า เจาะจงได้เลย แบบนั้นนี่แหละ ทำให้ขายของได้เยอะขึ้น
• ใช้กล้อง รู้จักหน้าลูกค้าได้ น่ากลัวนิดๆ แต่ก็ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าได้ ช่วยวางแผนการตลาดได้ดี
• หุ่นยนต์ขนส่งสินค้า เห็นหลายที่ใช้กันแล้วนะ สะดวก รวดเร็ว ลดต้นทุน แต่ฉันก็กลัวว่า คนจะตกงานเยอะขึ้น
• จัดการคลังสินค้า นี่ก็ดี ไม่ต้องเสียเวลา จัดเรียงของ เช็คสต๊อก ประหยัดเวลา ประหยัดแรงคน
• พัฒนาสินค้าใหม่ๆ ได้ จากข้อมูลลูกค้า วิเคราะห์ความต้องการ ตรงใจลูกค้า ขายดีแน่ๆ

อืม… โลกมันเปลี่ยนไปเร็วจริงๆ ฉันเองก็ต้องปรับตัว ไม่งั้น คงตกยุค ไปก่อน คนอื่นแน่ๆ เลย…. เหนื่อยจัง… นอนดีกว่า…

AI ที่ใช้ในปัจจุบันมีอะไรบ้าง

AI ยุคนี้เหรอ? โอ้โห เยอะแยะจนตาลาย! เหมือนบุฟเฟต์ AI ที่มีทุกอย่างให้เลือกสรร แล้วแต่ว่าใครจะอยากกินอะไรเข้าไป

• รู้จำเสียง (Speech Recognition): สั่งงานมือถือด้วยเสียงไง ง่ายกว่าพิมพ์เยอะ! (แต่ระวังคนข้างๆ จะหาว่าบ้า)
• แชทบอท: คุยกับบอทแล้วนึกว่าคุยกับเพื่อน…จนกว่าจะรู้ว่ามันตอบเหมือนเดิมทุกที (เศร้าแป๊บ)
• NLP (Natural Language Processing): เข้าใจภาษาคน (แบบงงๆ) บางทีก็เข้าใจผิดนะ แต่ก็พยายามอยู่
• ML (Machine Learning): เรียนรู้จากข้อมูล แล้วเก่งขึ้นเรื่อยๆ น่ากลัวกว่าเด็กที่บ้านอีก
• Biometrics: สแกนหน้า สแกนนิ้ว ป้องกันขโมย (แต่ถ้าโดนแฮกก็ตัวใครตัวมัน)
• Computer Vision: มองเห็นเหมือนคน…แต่ไม่รู้ว่ามองอะไร (บางทีก็มองผิดมองถูก)
• Robotic Process Automation (RPA): ทำงานซ้ำๆ แทนคน (แล้วคนจะไปทำอะไร?)
• AI-Powered Recommendation: แนะนำนู่นนี่ให้ซื้อ (ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากได้)

แถม: AI มันเหมือนดาบสองคมนะ มีประโยชน์ก็มีโทษ ต้องใช้ให้เป็น! (แต่ส่วนใหญ่ก็ใช้ไม่เป็นหรอก)