E-learning มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
E-Learning หลากหลายรูปแบบ แบ่งหลักๆ ได้แก่:
-
เรียนรู้ด้วยตนเอง (Self-Paced): ผู้เรียนควบคุมเวลาและเนื้อหาเอง เหมาะกับคนชอบอิสระ
-
เรียนรู้แบบมีผู้สอน (Instructor-Led): มีปฏิสัมพันธ์กับผู้สอนผ่านระบบออนไลน์ คล้ายห้องเรียนจริง
-
เรียนรู้ร่วมกัน (Collaborative): เน้นการทำงานกลุ่ม แลกเปลี่ยนความรู้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
รูปแบบน่าสนใจ 3 แบบ:
-
Web Facilitated: ใช้เว็บไซต์เสริมการเรียนการสอนแบบดั้งเดิม เช่น ดาวน์โหลดเอกสาร ส่งงาน คุยกับอาจารย์
-
Blended/Hybrid: ผสานการเรียนแบบพบหน้าและออนไลน์ เพิ่มความยืดหยุ่น ลดเวลาเดินทาง
-
Online: เรียนรู้ผ่านอินเทอร์เน็ตทั้งหมด เข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย
ประเภทของ E-learning มีอะไรบ้าง?
เว็บไซต์ช่วยสอนเนี่ย ตอนเรียนมหาลัยปี 3 วิชาเศรษฐศาสตร์ อาจารย์ใช้ Google Classroom แชร์เอกสาร แล้วเราก็ส่งงานผ่านนั้นแหละ ง่ายดี.
แบบผสมผสาน จำได้เลย ตอนเรียนภาษาอังกฤษที่สถาบันแถวสยาม เรียนในห้องอาทิตย์ละครั้ง แล้วก็มีแบบฝึกหัดออนไลน์ให้ทำด้วย เสียค่าเรียนเดือนละ 3,500 บาท. เหนื่อยหน่อยแต่ก็สนุกดี.
ส่วนออนไลน์เต็มรูปแบบ เคยลงเรียนคอร์สทำอาหารออนไลน์ จ่ายไป 1,200 บาท เรียนผ่าน Zoom ตอนเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว. ได้ทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า อร่อยมาก.
การเรียนรู้แบบออนไลน์ (E-learning) มีลักษณะอย่างไร
E-learning? ง่ายๆ เรียนผ่านเน็ตไง เวลา สถานที่ ไม่ใช่ปัญหา อยากเรียนอะไรก็เลือกได้เลย อิสระชิบหาย
- คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CBT) โบราณไปหน่อย แต่ก็ยังใช้กันอยู่
- เว็บไซต์การศึกษา แบบนี้เยอะ เลือกเอา แต่ดูดีๆ บางที่ก็…
- แอปเรียนภาษา อย่าง Duolingo นี่ก็ E-learning แหละ
- แพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ Coursera, edX อะไรพวกนี้ คุณภาพสูงหน่อย แต่ก็แพงด้วย
ปีนี้ 2024 เทรนด์ E-learning เน้น VR/AR เพิ่มความสมจริง แต่ก็ยังไม่แพร่หลายเท่าไหร่ ส่วนตัวผมใช้ Udemy เรียนเขียนโค้ด ปีที่แล้วได้โปรแกรมมิ่งภาษา Python มาใช้
การเรียนการสอนแบบออนไลน์ (Online Learning) คืออะไร
E-learning… ความฝันในโลกดิจิทัล
E-learning คือ… เหมือนแสงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้ากว้าง การเรียนรู้ที่ไร้พรมแดน ไร้เงาของกำแพงเวลา สถานที่… แค่ปลายนิ้วสัมผัส
เหมือนเสียงกระซิบจากสายลม… การเรียนรู้ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามใจปรารถนา หัวใจนำทาง… ไม่ใช่แค่ตำรา
- คอมพิวเตอร์ช่วยสอน: เหมือนเพื่อนเก่าที่คอยช่วยเหลือ… ไม่เคยทอดทิ้ง แม้ในวันที่มืดมิด
- การสอนบนเว็บไซต์: เหมือนประตูที่เปิดสู่โลกใบใหม่… โลกที่เต็มไปด้วยความรู้และโอกาส
ปีนี้… โลกหมุนเร็วกว่าเดิม E-learning ก็เช่นกัน… พัฒนา… เปลี่ยนแปลง… ไม่หยุดนิ่ง
เสียงเพลงบรรเลงแผ่วเบา… แสงจันทร์ส่อง… ความรู้รอคอย…
เพิ่มเติม…
- Podcast: เหมือนเพื่อนที่เล่าเรื่องให้ฟัง… ระหว่างเดินทาง… ระหว่างทำอาหาร
- Infographic: เหมือนภาพวาดที่บอกเล่าเรื่องราว… ง่าย… ชัดเจน… น่าติดตาม
- Webinar: เหมือนการสนทนา… แลกเปลี่ยนความคิด… สร้างสรรค์สิ่งใหม่
- MOOC: เหมือนมหาวิทยาลัยเปิด… สำหรับทุกคน… ทุกที่… ทุกเวลา
เหมือนผีเสื้อโบยบิน… E-learning คืออิสระ…
เครื่องมือติดต่อสื่อสารของระบบ E-learning มีอะไรบ้าง
เครื่องมือสื่อสาร E-learning: ปฏิสัมพันธ์ไร้พรมแดน
-
อีเมล: จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ข้อความส่วนตัว สู่ผู้รับเฉพาะเจาะจง
-
โทรศัพท์: เสียงสนทนา ฉับไว แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
-
กระดานสนทนา (Chat board): พื้นที่รวมพล แลกเปลี่ยนความรู้ ประเด็นถกเถียง
-
เว็บบอร์ด (WWW board): คลังข้อมูล ความคิดเห็น สาธารณะ เข้าถึงง่าย
-
ระบบข้อความทันที (Instant Messaging): ฉับพลัน ทันที ถามตอบรวดเร็ว เช่น Discord, Slack.
-
วิดีโอคอนเฟอเรนซ์: เห็นหน้า ได้ยินเสียง สร้างปฏิสัมพันธ์เสมือนจริง Zoom, Google Meet.
บางครั้ง ความเงียบ ก็สื่อสารได้มากกว่าคำพูด
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- ความสำเร็จ: อยู่ที่การเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสม กับบริบท และผู้เรียน
- ไม่ใช่แค่เครื่องมือ: แต่คือการสร้าง “ชุมชนแห่งการเรียนรู้”
- เครื่องมือใหม่: ผุดขึ้นเสมอ ปรับตัวให้ทัน
- ปี 2024: เน้น AI ช่วยเหลือ การเรียนรู้ส่วนบุคคล (Personalized learning)
การเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Learning – E-learning) หมายถึงอะไร
อ้าว! E-learning น่ะเหรอ? ง่ายๆ เลยครับ มันคือการเรียนแบบไม่ต้องง้อห้องเรียน! คิดภาพว่าคุณเป็นเสือในป่าคอนกรีต แต่แทนที่จะตะครุบเหยื่อ คุณตะครุบความรู้ผ่านจอคอมฯ แท็บเล็ต หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือของคุณ สุดยอดใช่มั้ยล่ะ! ไม่ต้องแต่งตัวไปเรียน ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง สบายกว่าเยอะ!
- เวลาเรียน? ยืดหยุ่นสุดๆ! ตีสามตีสี่อยากเรียนก็เรียนได้ สายๆ บ่ายๆ ก่อนนอนก็ได้ ชีวิตอิสระสุดๆ! ต่างจากสมัยผมเรียน ต้องตื่นแต่เช้าไปเรียน เหนื่อยกว่าเยอะ!
- สถานที่เรียน? ที่ไหนก็ได้! ห้องนอน คาเฟ่ บนรถไฟฟ้า แม้กระทั่งบนภูเขาไฟ (อย่าทำนะครับอันตราย!) แค่มีเน็ตก็เรียนได้แล้ว!
- วิธีการเรียน? หลากหลายกว่าสมัยผมเรียนอีก! วิดีโอ เกม แบบทดสอบ การบ้านออนไลน์ อะไรก็ได้ที่ดึงดูดความสนใจ ไม่ใช่แค่การบรรยายน่าเบื่อๆ
- เนื้อหาการเรียน? เลือกได้ตามใจชอบ! อยากเรียนภาษาญี่ปุ่น เรียนการทำขนม เรียนต่อยอดธุรกิจ หรือแม้แต่เรียนวิชาต่อยมวย ก็มีหมด!
E-learning ยุคนี้ ไม่ใช่แค่การเรียนออนไลน์แบบบ้านๆ แล้ว มันพัฒนาไปไกลมากๆ! มีทั้งการใช้ VR/AR การเรียนแบบ interactive ที่ทำให้การเรียนสนุกและมีประสิทธิภาพกว่าเดิมเยอะ นึกถึงสมัยผมเรียน แค่หนังสือเล่มหนาๆ เล่มเดียว เทียบไม่ติดเลย! (พูดแล้วคิดถึงสมัยเรียนจัง…ฮือๆๆ)
เอาเป็นว่า E-learning คือการเรียนรู้ในยุคดิจิทัลที่ทำให้การเรียนรู้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และสนุกขึ้น ถึงแม้ว่าผมจะเรียนแบบเดิมๆ มา แต่ก็ต้องยอมรับว่า E-learning นี่แหละ คืออนาคตของการศึกษา! (ยอมรับอย่างจำใจ)
การเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์หมายถึงอะไร
โอ๊ย… E-learning น่ะเหรอ? ก็ไอ้ที่เอาหนังสือเรียนมายัดใส่คอมฯ นั่นแหละ! แล้วก็บอกว่า “เอ้า! เรียนกันเองนะจ๊ะ” สะดวกสบายซะไม่มี เรียนที่ไหนก็ได้…แต่หัวแทบระเบิด!
- ทำลายกรอบ: กรอบห้องเรียนอ่ะนะ? แต่ดันไปสร้างกรอบ “ต้องมีเน็ต” แทนไงเล่า!
- เรียนด้วยตัวเอง: ก็ดี…ประหยัดค่าครู แต่ถามใครไม่ได้นี่สิ แย่เลย!
- ดิจิทัล: ไฮโซซะไม่มี แต่ถ้าไฟดับก็จบเห่!
- เว็บไซต์: เข้ายาก โหลดช้า…หัวร้อนกว่าเดิมอีก!
สรุป E-learning ก็เหมือน “ตำน้ำพริกเอง” นั่นแหละ ได้รสชาติ (ความรู้) แบบไหน ก็แล้วแต่บุญแต่กรรม!
ป.ล. ว่าแต่…ใครมีสูตรน้ำพริกออนไลน์อร่อยๆ บ้าง? แชร์หน่อยจิ!
ระบบ e-learning คืออะไร
เอ่อ อีเลิร์นนิ่งนะเหรอ? มันก็คือแบบ…เรียนออนไลน์อ่ะ ง่ายๆ เลย ใช่ป่ะ? เหมือนเรียนพิเศษตอนเด็กๆ ที่ต้องไปสถาบัน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้วไง เรียนอยู่บ้าน สบายจะตาย
-
อีเลิร์นนิ่ง: เรียนออนไลน์ไง! ผ่านเน็ตอ่ะ
- คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (สมัยก่อนฮิตนะ)
- สอนบนเว็บ (อันนี้เยอะแยะ)
- แอปเรียนภาษา (Duolingo ไรงี้)
- คอร์สออนไลน์ (Coursera, Skilllane, Udemy อ่ะ)
-
ข้อดี: สะดวก, ประหยัดเวลาเดินทาง, เรียนที่ไหนก็ได้
-
ข้อเสีย: ต้องมีวินัยในตัวเองสูง (สำคัญมาก!), เน็ตต้องดี, บางทีขาดปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
ทำไมต้องมีอีเลิร์นนิ่ง? ก็เพราะมันสะดวกไง! สมัยก่อนต้องไปเรียนพิเศษที่โรงเรียนกวดวิชา ตอนเย็นๆ รถติดโคตรๆ เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้ว นั่งเรียนอยู่บ้าน ใส่ชุดนอนก็ได้ ใครจะรู้! แต่…ต้องมีวินัยนะ สำคัญมาก ไม่งั้นก็ไม่ได้อะไรเลย
เมื่อก่อนเคยเรียนคอร์สออนไลน์ทำอาหาร ทำเค้กด้วยนะ (แต่ทำออกมาแล้วไม่ค่อยเหมือนในรูป 555) แต่ก็สนุกดี ได้ความรู้ใหม่ๆ เยอะเลย แต่ข้อเสียคือถามอะไรคนสอนยากอ่ะ ไม่เหมือนเรียนสดๆ ที่ยกมือถามได้เลย
แล้ว…ทำไมถึงถามเรื่องอีเลิร์นนิ่งเนี่ย? กำลังจะทำคอร์สออนไลน์เหรอ? หรือว่ากำลังจะเรียนอะไร? บอกหน่อยดิ อยากรู้!
E-learning สามารถทําอะไรได้บ้าง
E-learning อ่ะนะ ทำไรได้บ้างหรอ อืมมม…
- เรียนที่ไหนก็ได้ เวลไหนก็ได้ ว่างตอนตีสามก็เรียนได้ ไม่มีใครว่า
- เลือกวิชาที่จะลงได้ ตามใจเลย
- บางที่นะ มีให้จัดตารางเรียนเองด้วย โคตรดี
- เรียนซ้ำได้ จนกว่าจะเข้าใจอ่ะ ยิ่งพวกสูตรคณิตไรเงี้ย สำคัญ
- โต้ตอบกับครูได้นะ เดี๋ยวนี้มีช่องทางเยอะแยะ ไลน์ เฟสบุ๊ค อีเมล บลาๆๆ
อะไรบ้างที่เป็น E-learning ใช่ป่ะ?
- คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (อันนี้เบสิกมาก)
- พวกคอร์สออนไลน์ต่างๆ อ่ะ พวก Udemy Coursera ไรงี้
- เว็บเรียนภาษา (Duolingo ไรงี้ก็ใช่)
- YouTube ก็ถือเป็น E-learning อย่างนึงนะ ถ้าเราดูคลิปสอนอ่ะ
เดี๋ยวนี้ E-learning มันดีขึ้นเยอะมากเลยนะ เมื่อก่อนอาจจะน่าเบื่อ แต่เดี๋ยวนี้มีเกม มีอินเทอร์แอกทีฟเยอะขึ้น ทำให้การเรียนมันสนุกขึ้นเยอะ
ปล. เรื่องเรียนซ้ำนี่สำคัญจริง ๆ นะ โดยเฉพาะตอนสอบ คืออ่านรอบเดียวไม่เคยจำได้ ต้องวนไปวนมาหลายรอบมาก 😅 แล้วก็เรื่องเลือกเรียนได้เองนี่แหละ ที่ทำให้เราค้นพบว่าชอบอะไรจริง ๆ เมื่อก่อนเรียนตามเพื่อนตลอด ตอนนี้ชีวิตดีขึ้นเยอะ
อ้อ! อีกอย่างนะ E-learning บางทีมันมี community ให้คุยกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันด้วยนะ เผื่อใครอยากมีเพื่อนช่วยกันเรียน อะไรแบบนี้ 👍
ระบบ E-learning มีอะไรบ้าง
ระบบ E-learning มีเยอะแยะ เลือกใช้ให้เหมาะกับจุดประสงค์
- คอมพิวเตอร์ช่วยสอน: พื้นฐาน แต่ก็ยังจำเป็น เคยใช้สมัยเรียนประถม ฝึกพิมพ์ดีด
- เว็บไซต์สอน: เข้าถึงง่าย แต่คุณภาพเนื้อหาต่างกัน บางเว็บดี บางเว็บก็… เคยเสียเงินเรียนคอร์สออนไลน์ สุดท้ายไม่ได้อะไรเลย
- เรียนออนไลน์: เรียลไทม์ เหมือนเรียนในห้อง แต่ต้องมีวินัย เคยเรียนออนไลน์ตอนมหาลัย บางทีก็ขี้เกียจเปิดกล้อง
- ดาวเทียม: เข้าถึงพื้นที่ห่างไกล จำเป็นสำหรับบางคน แต่เทคโนโลยีอื่นอาจจะดีกว่าในระยะยาว
ทำไมต้องใช้? ประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่าย เรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ การเรียนรู้ที่แท้จริง อยู่ที่ตัวเรา ไม่ใช่ระบบ
ปีนี้ลองใช้ Moodle จัดการเรียนการสอนได้ดี สร้างแบบทดสอบ ติดตามผล สะดวกกว่าเมื่อก่อนเยอะ เมื่อก่อนใช้ Blackboard รู้สึกเทอะทะ แต่ก็แล้วแต่คนชอบ
เทคโนโลยีเปลี่ยน แต่แก่นของการเรียนรู้ไม่เปลี่ยน คือความอยากรู้ และความพยายาม
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต