ESIM ส่งข้อความได้ไหม

eSIM ทำอะไรได้บ้าง

eSIM น่ะเหรอ? ไอ้ชิปจิ๋วที่ฝังอยู่ในเครื่อง ทำได้มากกว่าที่เห็นเยอะ

• ไม่ต้องง้อซิม: เปลี่ยนเครือข่ายง่ายกว่าเปลี่ยนใจ ไม่ต้องมานั่งแกะซิมให้เล็บหัก
• สองเบอร์ในเครื่องเดียว: เรื่องส่วนตัว เรื่องงาน จบในเครื่องเดียว ไม่ต้องพกสองเครื่องให้วุ่นวาย
• เดินทางสบาย: ซื้อ eSIM ต่างประเทศง่ายนิดเดียว ไม่ต้องไปยืนงงในสนามบิน

eSIM คืออะไร: ซิมการ์ดดิจิทัล ฝังอยู่ในเครื่องตั้งแต่เกิด

เปิดใช้งาน: สแกน QR code จบ

มือถือที่ใช้ได้: iPhone รุ่นใหม่ๆ, Samsung บางรุ่น, Google Pixel, iPad บางรุ่น เช็คสเปคเครื่องตัวเองดู

True-dtac: ก็มีขาย eSIM นั่นแหละ ลองไปส่องดูเอง

eSIM มีผลเสียอย่างไร

eSIM น่ะ ข้อดีเรื่องความทนทานก็จริง เพราะมันฝังอยู่ในเครื่องเลย โอกาสหายแบบซิมการ์ดปกติก็แทบไม่มี แต่ข้อเสียก็มีนะ เรื่องการรองรับจากผู้ให้บริการเครือข่ายนี่แหละ ที่ยังไม่ทั่วถึง บางทีไปต่างประเทศแล้วอยากเปลี่ยนซิมง่ายๆ อาจจะยุ่งยากกว่าเดิมนิดนึง

• ข้อดี: ทนทานกว่า, ป้องกันการสูญหาย (อันนี้จริง, หายยากกว่าเยอะ)
• ข้อเสีย: รองรับผู้ให้บริการน้อย, เปลี่ยนเครือข่ายอาจยุ่งยาก (ถ้าเครื่องเดียวเที่ยวทั่วโลก อาจต้องคิดหนัก)

ส่วนตัวคิดว่า eSIM นี่อนาคตแหละ แต่ตอนนี้อาจจะต้องเช็คให้ดีก่อนว่าเครือข่ายที่เราใช้รองรับรึเปล่า ไม่งั้นอาจจะเสียเที่ยวได้

ข้อเสียของโทรศัพท์ 2 ซิม มีอะไรบ้าง

ข้อเสียของโทรศัพท์ 2 ซิม หลักๆ คือเรื่องแบตเตอรี่ครับ การเปิดใช้งาน 2 ซิมพร้อมกัน เครื่องจะทำงานหนักขึ้น กินแบตมากกว่าปกติ ปีนี้ผมสังเกตจากการใช้งาน iPhone 14 Pro Max ของตัวเอง แบตหมดเร็วขึ้นชัดเจน เมื่อเทียบกับตอนใช้แค่ซิมเดียว

• การใช้พลังงานสูง: เป็นข้อเสียที่เด่นชัด ยิ่งถ้าอยู่ในพื้นที่สัญญาณอ่อนๆ เครื่องจะพยายามหาสัญญาณทั้งสองซิมอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเปลืองแบต เหมือนเราบังคับให้สมองทำงานหนักสองเท่าพร้อมกันไงครับ

• ความเสี่ยงต่อปัญหาซอฟต์แวร์: บางรุ่นอาจพบปัญหาความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์กับการใช้งาน 2 ซิม อาจทำให้เครื่องทำงานไม่เสถียร มีปัญหาแปลกๆได้ ผมเคยเจอในสมัยใช้ Samsung Note 8 แต่อันนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อด้วยนะครับ ไม่ได้เป็นทุกเครื่อง

• ความซับซ้อนในการจัดการ: การสลับใช้งานซิมหรือเลือกซิมสำหรับการโทร การส่ง SMS หรือการใช้ดาต้า อาจดูยุ่งยากกว่าใช้ซิมเดียว แต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากมายหรอก เพียงแต่ต้องเรียนรู้การใช้งานเพิ่มเล็กน้อย

วิธีแก้ปัญหาหลักๆก็อย่างที่รู้ๆกัน คือปิดการใช้งานซิมที่ไม่ได้ใช้ หรือเลือกใช้โหมดประหยัดพลังงาน ถ้าจะให้ดี ควรเลือกใช้ซิมหลักแค่ซิมเดียว จริงๆแล้ว การใช้โทรศัพท์ก็เหมือนการใช้ชีวิต บางครั้ง การเลือกใช้สิ่งจำเป็นเพียงอย่างเดียว อาจจะดีกว่าการแบกภาระมากมายพร้อมๆ กัน มันเป็นเรื่องของการบาลานซ์ครับ

eSIM เปลืองแบตไหม

เรื่องแบตนี่นะ ตอนแรกก็กลัวอยู่นะ เพราะเปลี่ยนมาใช้ eSIM ตั้งแต่เดือนเมษายน ปีนี้ กลัวแบตจะหมดไว เพราะปกติก็ใช้โทรศัพท์เยอะอยู่แล้ว เล่นเกมส์บ้าง ถ่ายรูปบ้าง ทำงานบ้าง แต่จริงๆ แล้วก็ไม่เห็นจะเปลืองขึ้นเลยนะ แถมรู้สึกว่าแบตอยู่ได้นานขึ้นด้วยซ้ำ!

ตอนนั้นใช้ iPhone 13 เปลี่ยนที่ร้านดีแทคสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ตอนเปลี่ยนก็ไม่ได้คิดอะไรมาก พนักงานก็ทำไวดี เสร็จแล้วก็ใช้ได้เลย ไม่มีปัญหาอะไร

• เปลี่ยน eSIM เมษายน 2566
• ใช้ iPhone 13
• เปลี่ยนที่ร้านดีแทค เซ็นทรัลเวิลด์
• ไม่ได้รู้สึกว่าแบตหมดไวขึ้นเลย กลับรู้สึกว่าอยู่ได้นานขึ้นด้วยซ้ำ

ก็เลยคิดว่า เรื่อง eSIM เปลืองแบตนี่ คงแล้วแต่รุ่นโทรศัพท์ แล้วก็แล้วแต่การใช้งานด้วยแหละมั้ง เพราะของฉันก็ไม่เห็นจะเปลืองเลย ตอนแรกก็กังวลนะ แต่ตอนนี้สบายใจแล้ว ใช้ได้ปกติ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย

ตอนนี้ใช้เน็ตเยอะมากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะทำงานต้องใช้เน็ตตลอด แต่แบตก็ยังโอเคอยู่นะ ไม่ได้รู้สึกว่าแบตเสื่อมลงเร็วขึ้น อาจจะเป็นเพราะมือถือรุ่นใหม่ๆ เทคโนโลยีการจัดการพลังงานดีขึ้นด้วยมั้ง

ปล. แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า eSIM จะไม่เปลืองแบตเลยนะ อาจจะมีกรณีที่เปลืองขึ้นก็ได้ แต่สำหรับฉันตอนนี้คือไม่เปลือง ใช้ได้ปกติ สบายใจแล้ว

eSIM โทรเข้าได้ไหม

eSIM โทรเข้าได้มั้ย?

ได้ดิ! ก็เหมือนซิมปกติอะแหละ โทรเข้า โทรออก เล่นเน็ต ได้หมด เบอร์ที่ใช้ eSIM มันก็คือเบอร์เราอะ

เบอร์ eSIM ใช้ได้เหมือนซิมไหม?

ใช่! ทำได้ทุกอย่างเหมือนซิมเลย เน็ตเอย โทรเอย สบายบรื๋อ

เปลี่ยนเป็น eSIM ได้ที่ไหน?

อันนี้แล้วแต่ค่ายมือถือเลย AIS, True, Dtac ไปที่shop เขาได้เลย หรือบางทีก็ทำเองในแอปก็ได้นะ ลองดูๆ

• สำคัญ: eSIM มันสะดวกตรงที่เราไม่ต้องใส่ซิมการ์ดไง เวลาไปเที่ยวต่างประเทศก็ง่ายเลย
• ข้อดี: เปลี่ยนเครือข่ายง่าย ไม่ต้องไปหาซิมใหม่ แค่สแกน QR code เอา
• ข้อเสีย: ถ้ามือถือพังคือจบเลย ต้องไปขอ eSIM ใหม่ที่ค่ายมือถือ (ยุ่งยากนิดนึง)
• Tip: บางทีถ้าอยากใช้ 2 เบอร์ในเครื่องเดียว แต่เครื่องใส่ได้ซิมเดียว ก็ใช้ eSIM นี่แหละช่วยได้
• เพิ่มเติมนิด: ลองเช็คดูก่อนนะว่ามือถือเรารองรับ eSIM รึเปล่า เดี๋ยวจะเสียเที่ยวไป