Ios17.4 รุ่นไหนบ้าง

15 การดู

iOS 17.4 พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้ว! อัปเดตระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดนี้รองรับ iPhone หลากหลายรุ่น ตั้งแต่ iPhone 12 ซีรีส์ไปจนถึง iPhone 15 Pro Max สัมผัสประสบการณ์ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดและการปรับปรุงประสิทธิภาพบนอุปกรณ์ของคุณได้แล้ววันนี้! อย่าลืมสำรองข้อมูลก่อนทำการอัปเดตเพื่อความปลอดภัย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

iOS 17.4: ใครได้ไปต่อและมีอะไรใหม่? เจาะลึกรุ่นที่รองรับและการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ

iOS 17.4 ได้ฤกษ์ปล่อยให้ผู้ใช้งาน iPhone ได้อัปเดตกันแล้ว! แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ทุกคนอยากรู้คือ “iPhone ของฉันจะได้ไปต่อไหม?” และ “มีอะไรใหม่บ้าง?” บทความนี้จะมาเจาะลึกรายละเอียดแบบที่ไม่ใช่แค่บอกว่ารุ่นไหนได้อัปเดต แต่จะเน้นไปที่ ความสำคัญของการอัปเดต, อุปกรณ์ที่รองรับอย่างละเอียด, และสิ่งที่คาดหวังได้จาก iOS 17.4

ทำไมการอัปเดต iOS จึงสำคัญ?

การอัปเดต iOS ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการได้ใช้ฟีเจอร์ใหม่ๆ เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความปลอดภัยและความเสถียร ของอุปกรณ์ของคุณด้วย โดยปกติแล้ว Apple จะปล่อยอัปเดตเพื่อ:

  • แก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย: ป้องกันการถูกแฮก ขโมยข้อมูล หรือถูกโจมตีทางไซเบอร์
  • ปรับปรุงประสิทธิภาพ: ทำให้เครื่องเร็วขึ้น ลื่นขึ้น และประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้น
  • แก้ไขข้อผิดพลาด (Bug): แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการใช้งานทั่วไป เช่น แอปค้าง, หน้าจอค้าง, หรือปัญหาการเชื่อมต่อ
  • รองรับแอปพลิเคชันใหม่ๆ: ทำให้ iPhone ของคุณสามารถใช้งานกับแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นใหม่ๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ดังนั้น การอัปเดต iOS เป็นประจำจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ iPhone ของคุณทำงานได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย

iPhone รุ่นไหนบ้างที่รองรับ iOS 17.4?

ไม่ต้องกังวลใจไป มาดูกันว่า iPhone รุ่นไหนบ้างที่ยังคงได้รับการสนับสนุนจาก Apple ในการอัปเดตครั้งนี้:

  • iPhone 15, iPhone 15 Plus, iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max: รุ่นล่าสุดย่อมได้รับการอัปเดตอย่างแน่นอน เตรียมพบกับประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุดบน iOS 17.4
  • iPhone 14, iPhone 14 Plus, iPhone 14 Pro, iPhone 14 Pro Max: รุ่นก่อนหน้ายังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่
  • iPhone 13, iPhone 13 mini, iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max: ยังคงเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมและได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง
  • iPhone 12, iPhone 12 mini, iPhone 12 Pro, iPhone 12 Pro Max: แม้จะเก่ากว่า แต่ยังคงได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ จาก iOS 17.4
  • iPhone 11, iPhone 11 Pro, iPhone 11 Pro Max: ยังคงได้รับการสนับสนุน แม้จะไม่ได้รับฟีเจอร์ใหม่ๆ ทั้งหมด
  • iPhone XS, iPhone XS Max: รุ่นที่เปิดตัวมานานแล้ว แต่ยังคงได้รับการอัปเดตเพื่อความปลอดภัยและความเสถียร
  • iPhone XR: เช่นเดียวกับ iPhone XS Series ยังคงได้รับการสนับสนุน

สรุปง่ายๆ: iPhone ทุกรุ่นที่ รองรับ iOS 17 จะสามารถอัปเดตเป็น iOS 17.4 ได้

iOS 17.4 มีอะไรใหม่? อะไรที่น่าสนใจ?

นอกเหนือจากการปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัยแล้ว iOS 17.4 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง:

  • การเปลี่ยนแปลงในยุโรป (เฉพาะใน EU): เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ของสหภาพยุโรป, Apple ได้เปิดให้มีการใช้งาน App Store ทางเลือก (alternative app marketplaces) และเปิดให้ผู้พัฒนาสามารถใช้ระบบชำระเงินภายนอกได้ ทำให้ผู้ใช้ใน EU มีทางเลือกในการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมากขึ้น
  • อิโมจิใหม่: เพิ่มอิโมจิใหม่ๆ ที่จะช่วยให้การสื่อสารของคุณสนุกและหลากหลายยิ่งขึ้น
  • Podcast Transcription: รองรับการถอดเสียงพอดแคสต์เป็นตัวอักษร ทำให้คุณสามารถอ่านเนื้อหาพอดแคสต์ได้ แม้ในขณะที่ไม่สะดวกฟัง
  • การปรับปรุงด้านความปลอดภัย: มีการปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์
  • อื่นๆ: การปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ ในแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น Music, Siri, และ Carplay

ก่อนอัปเดต…อย่าลืมสำรองข้อมูล!

ก่อนที่จะทำการอัปเดต iOS 17.4 สิ่งสำคัญที่สุดคือการ สำรองข้อมูล (Backup) เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันระหว่างการอัปเดต คุณสามารถสำรองข้อมูลได้ 2 วิธีหลักๆ:

  1. iCloud: สำรองข้อมูลผ่าน Wi-Fi โดยไปที่ Settings > [Your Name] > iCloud > iCloud Backup > Back Up Now
  2. คอมพิวเตอร์ (iTunes/Finder): เชื่อมต่อ iPhone กับคอมพิวเตอร์แล้วใช้ iTunes (สำหรับ macOS เวอร์ชั่นเก่า) หรือ Finder (สำหรับ macOS เวอร์ชั่นใหม่) เพื่อสำรองข้อมูล

สรุป

iOS 17.4 เป็นอัปเดตที่สำคัญทั้งในแง่ของความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ใหม่ๆ หาก iPhone ของคุณรองรับ อย่ารอช้าที่จะอัปเดตเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ดีกว่า แต่ก่อนอื่น อย่าลืมสำรองข้อมูลเพื่อความปลอดภัยเสมอ! หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจ iOS 17.4 มากขึ้น และตัดสินใจได้ว่าจะอัปเดตหรือไม่

ข้อควรระวัง:

  • หากคุณใช้ iPhone รุ่นเก่า อาจจะไม่ได้สัมผัสกับฟีเจอร์ใหม่ๆ ทั้งหมดที่กล่าวมา
  • การอัปเดตอาจใช้เวลาพอสมควร ขึ้นอยู่กับความเร็วอินเทอร์เน็ตและพื้นที่ว่างในเครื่อง
  • หากพบปัญหาหลังการอัปเดต ลองรีสตาร์ทเครื่อง หรือติดต่อ Apple Support เพื่อขอความช่วยเหลือ