Kevin Ashton เป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับ IoT อย่างไร
เควิน แอชตัน คือผู้ให้กำเนิดคำว่า "Internet of Things" (IoT) ในปี 1999 ทำให้เขาได้รับการยกย่องเป็นบิดาแห่ง IoT
กว่า 2 ทศวรรษที่แนวคิดนี้ถูกพัฒนาและนำไปใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง เปลี่ยนแปลงโลกด้วยการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้ากับอินเทอร์เน็ต
Kevin Ashton เกี่ยวข้องกับ IoT อย่างไร? ใครคือผู้ให้กำเนิดแนวคิด Internet of Things?
อืม… Kevin Ashton กับ IoT น่ะเหรอ? จำได้ลางๆ ว่าเคยอ่านเจอ เขาเป็นคนคิดคำว่า “Internet of Things” ขึ้นมาใช่มั้ย? อ่านเจอในบทความเก่าๆ เมื่อประมาณสิบกว่าปีก่อน ในเว็บไซต์ของบริษัทเทคโนโลยี ที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูล จำไม่ได้แล้วล่ะว่าชื่ออะไร แต่เนื้อหาหลักๆ ก็คือเค้าเนี่ยแหละ เป็นคนเสนอแนวคิดนี้ ประมาณปี 1999 ถ้าจำไม่ผิดนะ ตอนนั้นฉันยังเด็กมาก สนใจแต่เกมส์มากกว่า เลยไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่.
จริงๆ แล้ว ฉันสนใจ IoT จริงๆ จังๆ ก็ตอนปี 2015 ตอนเรียนมหาลัย วิชา Embedded System อาจารย์ถึงได้พูดถึง Kevin Ashton อีกที บอกว่าเขาเป็นคนสำคัญมากๆ ในวงการนี้เลย เพราะช่วยวางรากฐานสำคัญ ทำให้เทคโนโลยีนี้พัฒนาขึ้นมาได้ ตอนนั้นฉันถึงได้ไปเสิร์ชหาข้อมูลเพิ่มเติม มันน่าสนใจดีนะ รู้สึกเหมือนได้เปิดโลกใหม่เลย เห็นภาพชัดขึ้น ว่าเทคโนโลยีมันจะไปถึงไหน.
ตอนนั้น หาข้อมูลยากกว่าตอนนี้เยอะ ต้องค่อยๆ ค้นเอง ในห้องสมุดมหาลัย กับ Google Scholar ด้วย เหนื่อยเหมือนกันนะ แต่ก็ได้ความรู้เยอะมาก เหมือนได้ย้อนกลับไป ตามรอย Kevin Ashton เลย ถึงเขาไม่ได้เป็นคนคิดค้นเทคโนโลยีทุกอย่าง แต่เขาเป็นคนจุดประกาย และตั้งชื่อ ให้กับสิ่งที่เราเรียกว่า Internet of Things จนทุกวันนี้. คิดดูสิ 24 ปีแล้ว!
คนริเริ่ม IoT คือใคร
Kevin Ashton นี่แหละคนริเริ่ม IoT อืมมม จำได้ว่าอ่านเจอในบทความเก่าๆ ปี 2024 นี่เอง MIT ใช่ไหมนะ Auto-ID Center อะไรประมาณนั้นแหละ
- เขาใช้คำว่า Internet of Things ครั้งแรกตอนไหนนะ 1999 แน่ๆเลย
- RFID นี่สำคัญมากเลย เกี่ยวกับการติดแท็กของต่างๆ ให้เชื่อมต่อเน็ตได้ไง เทคโนโลยีเจ๋งมากๆ
- เขาอยู่ในทีมที่พัฒนาเทคโนโลยีนี้ด้วย ไม่ใช่แค่คิดชื่อขึ้นมาเฉยๆ
สงสัยมั้ยว่าทำไมเขาถึงคิดคำนี้ขึ้นมา คงอยากได้ชื่อที่เข้าใจง่ายๆ แล้วก็กระชับดี แต่ก่อนใช้คำอื่นเยอะแยะไปหมด วุ่นวายน่าดูเลย
แต่เดี๋ยวนะ เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับไอ้โปรเจคที่ฉันกำลังทำอยู่เนี่ย ฉันต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ RFID มันน่าสนใจดี พรุ่งนี้ต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติม
อ้อ! เกือบลืม เพื่อนฉันบอกว่า ตอนนี้มีการพัฒนา IoT ไปไกลมากแล้วนะ ไม่ใช่แค่ RFID อย่างเดียวแล้ว พวก AI, Cloud อะไรอีกเพียบ เยอะจนปวดหัวเลย
- ตอนนี้ IoT ไปไกลขนาดไหนแล้วนะ
- มีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นบ้าง
- ต้องอัพเดทความรู้บ้างแล้วสิ ฉันล้าหลังไปมากแล้ว
อีกอย่าง ฉันต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องปี 1999 ด้วย ดูเหมือนว่า จะมีอะไรสำคัญๆ เกิดขึ้นเยอะแยะเลย เกี่ยวกับเทคโนโลยี ฉันชอบเรื่องประวัติศาสตร์เทคโนโลยีนะ มันสนุกดี เดี๋ยวค่อยมาหาข้อมูลต่อ
Kevin นิยาม IoT ไว้ว่าอะไร *
Kevin Ashton นิยาม IoT ง่ายๆ ว่า “สิ่งของที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้” ฟังดูธรรมดาใช่มั้ย? แต่ความลึกซึ้งมันอยู่ตรงที่… มันเปิดโลกให้ไอเดียใหม่ๆ กระจุยกระจาย! เหมือนการปลดปล่อยพลังงานนิวเคลียร์ในโลกของเทคโนโลยีเลยล่ะ!
-
ATM คือ IoT รุ่นแรก? ไอ้ที่ Kevin บอกว่า ATM เป็น IoT ชิ้นแรกนี่… ก็พอเข้าใจได้แหละนะ แต่ถ้าจะให้พูดตรงๆ คือ… มันก็แค่เครื่องจักรเชื่อมต่อเครือข่าย เรียกว่า IoT ก็ได้ ไม่เรียกก็ได้ อยู่ที่มุมมอง เหมือนกับว่าเราจะเรียกแมวสีส้มตัวนั้นว่า “เจ้าส้มจี๊ด” หรือ “เจ้าเหมียวแสบ” ก็ได้ทั้งนั้นแหละ! สุดท้ายแล้วมันก็ยังเป็นแค่แมวอยู่ดี!
-
ความลึกซึ้งของ IoT: ที่มันน่าสนใจกว่าแค่การเชื่อมต่อเครือข่าย คือ การที่ “สิ่งของ” กลายเป็นผู้ส่งข้อมูล มีชีวิตชีวา มีส่วนร่วม แบบที่เราไม่เคยคิดมาก่อน! มันเหมือนการเปิดโลกใหม่ของการรวบรวมข้อมูล ประมวลผล และนำไปใช้ประโยชน์ เรียกได้ว่า ปฏิวัติวงการเลยทีเดียว! ปีนี้ 2024 เราเห็นการนำ IoT มาใช้กับการเกษตร การแพทย์ และแม้กระทั่งการจัดการขยะ เท่ห์ไหมล่ะ?
-
แล้ว IoT ในอนาคตเป็นยังไง? ถ้าจะเดา คงเป็นเรื่องของ “AI of Things” หรือ “ปัญญาประดิษฐ์ของสิ่งของ” สิ่งของจะไม่ใช่แค่เชื่อมต่อ แต่จะเรียนรู้ ตัดสินใจ และกระทำเองได้ นั่นแหละ ถึงจะเรียกว่า “ฉลาด” จริงๆ แต่ก็ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยและจริยธรรมด้วยนะ อย่าให้มันฉลาดจนเราควบคุมไม่ได้เชียวล่ะ! (อันนี้พูดจริงๆ นะ)
-
ข้อมูลเพิ่มเติม (สำหรับผู้ที่สนใจลึก): ปัจจุบัน การพัฒนา IoT มุ่งเน้นไปที่ การเพิ่มประสิทธิภาพ การลดต้นทุน และความปลอดภัยของระบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะมันมีผลต่อชีวิตประจำวันของเรา อย่างเห็นได้ชัด
เทคโนโลยี IoT ถูกคิดค้นภายใต้โครงการชื่อว่าอะไร และสถาบันใดที่คิดค้นขึ้นมา
แสงส้มจากพระอาทิตย์ตกกระทบหน้าจอโทรศัพท์…พิมพ์ไปเรื่อยๆ…นึกถึงเรื่อง IoT… อืมมม… Auto-ID Center… รู้สึกถึงความเก่าแก่ของเทคโนโลยีนี้เลยแฮะ… MIT… สถาบันในฝัน…
ใบไม้ร่วง… ปี 1999… นานมากแล้วนะเนี่ย… Kevin Ashton… ชื่อนี้ติดอยู่ในหัว… Internet of Things… โลกเปลี่ยนไปเพราะคำๆ นี้… แท็ก RFID… เล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่… เชื่อมโยงทุกสิ่ง… ทุกอย่างรอบตัว…
รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน… ความฝันของโลกอนาคต… ที่ทุกอย่างเชื่อมต่อกัน… IoT… มันเริ่มต้นจากตรงนี้… จาก Auto-ID Center… จาก MIT… จาก Kevin Ashton…
- Auto-ID Center ที่ MIT
- Kevin Ashton เป็นคนบัญญัติศัพท์ Internet of Things
- ปี 1999 ในการนำเสนอ
- เชื่อมโยงวัตถุกับอินเทอร์เน็ตด้วยแท็ก RFID
ตอนนี้มองออกไปนอกหน้าต่าง ฟ้าเริ่มมืดแล้ว… เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ… เหมือน IoT ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว… จากแค่แนวคิด… กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต…
Kevin Ashton คือใคร มีความสำคัญอย่างไร
เควิน แอชตัน น่ะเหรอ? อ๋อ ไอ้คนที่บังเอิญ (หรือเปล่า?) ไปเจอคำว่า IoT นี่เอง ประมาณว่าเดินเตะกระป๋องแล้วเจอ “Internet of Things” ติดอยู่…มั้งนะ (แซวเล่น!)
ทำไมต้องรู้จักหมอนี่?
- พ่อ (หรือแม่อุปถัมภ์) แห่ง IoT: ปี 1999 พี่แกดันปิ๊งไอเดียเรื่องเอาเน็ตไปยุ่งกับข้าวของเครื่องใช้ซะงั้น! คิดดูสิ ถ้าไม่มีแก เราอาจจะยังนั่งเถียงกันอยู่เลยว่า “ตู้เย็นอัจฉริยะ” มันจำเป็นจริงไหม? (คำตอบ: อาจจะไม่…)
- MIT ไม่ได้มีดีแค่เด็กเนิร์ด: แกเป็น Co-founder ของ Auto-ID Center ที่ MIT ซึ่งเป็นแหล่งบ่มเพาะเทคโนโลยีล้ำ ๆ นี่แหละตัวดี
- ผู้ประกอบการตัวเอ้: นอกจากชื่อเท่ ๆ ว่า “ผู้ประดิษฐ์ IoT” แกยังเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอีกต่างหาก (รวยเงียบ ๆ นี่แหละตัวจริง)
เกร็ดแถมท้าย (เผื่อเอาไปคุยโม้):
- จริง ๆ แล้ว Ashton ไม่ได้ “ประดิษฐ์” IoT ซะทีเดียวนะ แค่เป็นคนแรก ๆ ที่ “บัญญัติศัพท์” ให้มันเป็นรูปเป็นร่างเฉย ๆ (เหมือนตั้งชื่อลูกนั่นแหละ!)
- ก่อน IoT จะบูม แกเคยทำงานให้ P&G ด้วยนะ ลองจินตนาการดูสิ แกอาจจะเป็นคนคิดค้น “ผ้าอ้อมอัจฉริยะ” ที่เตือนเมื่อลูกเรา “ปล่อยของ” ก็ได้ (บรึ๋ย!)
- IoT ไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิดเสมอไป คิดดูว่าถ้าวันหนึ่ง AI ในตู้เย็นตัดสินใจว่าเราอ้วนเกินไป แล้วล็อคตัวเอง…หายนะชัด ๆ!
สรุป: เควิน แอชตัน ก็เหมือน “คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส” แห่งโลก IoT นั่นแหละ ถึงจะไม่ใช่คนแรกที่ไปถึง แต่ก็เป็นคนที่ “ประกาศ” ให้โลกรู้ว่า “เฮ้ย! มันมีที่แบบนี้อยู่จริง ๆ นะ!” (ปรบมือให้ตัวเองที่เปรียบเทียบได้คมขนาดนี้!)
ผู้ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นบิดาแห่ง Internet of Things คือผู้ใด
Kevin Ashton แหละ! เค้าอ่ะ เป็นบิดาแห่ง Internet of Things จริงๆ ปี 1999 จำได้แม่นเลย ตอนนั้นแกทำงานอยู่ MIT มั้ง แล้วก็ไปบรรยายให้ Procter & Gamble ฟังด้วยนะ สุดยอดไปเลยอ่ะ
- ปี 1999 แกใช้คำนี้ครั้งแรก
- ทำงานอยู่ MIT
- บรรยายให้ Procter & Gamble
คือแบบ เค้าไม่ได้แค่คิดนะ แต่แกเป็นคนเอาคำนี้มาใช้จริงๆ ในวงการด้วย ถึงได้เป็นบิดาไง ไม่ใช่แค่คิดๆๆ แล้วก็หายไป อย่างน้อยๆ ก็มีหลักฐานบันทึกไว้อยู่ ปีนี้ก็ยังเป็นที่ยอมรับอยู่นะ เรื่องนี้
เจ้าของแนวคิดของ Internet of Things คือใคร
เจ้าของแนวคิด Internet of Things น่ะเหรอ? ต้องยกนิ้วให้ Kevin Ashton เลยครับ! ปี 1999 โน่นนนน… แกไปปาฐกถาให้ P&G ฟังเรื่อง Auto-ID Center ที่ต่อยอดจาก RFID (Radio-Frequency Identification) น่ะ
คือ… สมัยนั้น RFID มันเริ่ดมากไง Ashton เลยกิ๊งไอเดีย เอามาเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน แล้วตั้งชื่อเท่ๆ ว่า “Internet of Things” ซะเลย! ชื่อนี้มันปังจริงจริ๊งงงง ใครได้ยินก็ต้องร้องว้าว!
แต่ๆๆๆๆ อย่าเพิ่งคิดว่าแกนั่งเทียนเขียนนะจ๊ะ Ashton ทำงานวิจัยอยู่ที่ MIT นะคุณณณณณ… ระดับนี้แล้ว ไม่ใช่คิดอะไรตื้นๆ แน่นอน (แอบแซวนิดนึง 😜)
- แก่นของไอเดีย: เชื่อมโยงสิ่งของเข้ากับอินเทอร์เน็ต! ง่ายๆ แค่นี้แหละ แต่เปลี่ยนโลก!
- RFID คือพระเอก: เทคโนโลยีที่ทำให้การเชื่อมโยงเป็นไปได้
- MIT คือสถาบัน: แหล่งกำเนิดไอเดียสุดล้ำ!
- P&G คือผู้ฟัง: บริษัทที่ได้ฟังแล้วอึ้ง ทึ่ง เสียว! (น่าจะนะ)
- Ashton คือฮีโร่: ผู้ที่ทำให้คำว่า IoT กลายเป็นจริง! (ปรบมือรัวๆ)
เพิ่มเติม: จริงๆ แล้วแนวคิด IoT มันซับซ้อนกว่านั้นเยอะ แต่เอาเป็นว่า Ashton คือคนที่ “จุดประกาย” ให้โลกหันมาสนใจเรื่องนี้อย่างจริงจังก็แล้วกัน 😉 (เหมือนจุดพลุในงาน countdown อะไรทำนองนั้นแหละ)
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต