Wireless Charger ใช้กับรุ่นไหนได้บ้าง

โลกไร้สาย สู่ชีวิตที่ง่ายกว่า: ชาร์จมือถือแบบไร้สาย ใช้ได้กับรุ่นไหนบ้าง?

ในยุคที่สายชาร์จพันกันยุ่งเหยิงกลายเป็นอดีตไปแล้ว แท่นชาร์จไร้สาย (Wireless Charger) ได้ก้าวเข้ามาเป็นพระเอกขี่ม้าขาว ช่วยให้การชาร์จมือถือสะดวกสบายและดูดีมีสไตล์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพียงแค่วางมือถือลงบนแท่นชาร์จก็เป็นอันเรียบร้อย ไม่ต้องเสียเวลาควานหาสายชาร์จให้วุ่นวาย

แต่ก่อนที่จะรีบพุ่งตัวไปซื้อแท่นชาร์จไร้สายคู่ใจ เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามือถือของเรา “รองรับ” เทคโนโลยีนี้หรือไม่ เพราะไม่ใช่ว่ามือถือทุกรุ่นจะสามารถใช้งานกับแท่นชาร์จไร้สายได้ทั้งหมด

แล้วมือถือรุ่นไหนบ้างล่ะ ที่ใช้กับแท่นชาร์จไร้สายได้?

ข่าวดีก็คือ มือถือรุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับฟังก์ชันชาร์จไร้สายในตัวอยู่แล้ว โดยมักจะเป็นรุ่นระดับกลางค่อนข้างสูงขึ้นไป ไปจนถึงรุ่นเรือธง แต่เพื่อความชัวร์ เราลองมาดูกันว่ามีมือถือรุ่นยอดนิยมอะไรบ้างที่รองรับการชาร์จไร้สาย:

• Apple: iPhone 8 และรุ่นที่ออกหลังจากนั้นทั้งหมด (iPhone 8, iPhone 8 Plus, iPhone X, iPhone XR, iPhone XS, iPhone XS Max, iPhone 11, iPhone 11 Pro, iPhone 11 Pro Max, iPhone SE (2nd generation), iPhone 12, iPhone 12 Mini, iPhone 12 Pro, iPhone 12 Pro Max, iPhone 13, iPhone 13 Mini, iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max, iPhone SE (3rd generation), iPhone 14, iPhone 14 Plus, iPhone 14 Pro, iPhone 14 Pro Max, iPhone 15, iPhone 15 Plus, iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max)
• Samsung: Samsung Galaxy S รุ่นต่างๆ ตั้งแต่ Galaxy S6 เป็นต้นไป (Galaxy S6, S6 Edge, S6 Edge+, S7, S7 Edge, S8, S8+, S9, S9+, S10e, S10, S10+, S20, S20+, S20 Ultra, S21, S21+, S21 Ultra, S22, S22+, S22 Ultra, S23, S23+, S23 Ultra, S24, S24+, S24 Ultra) รวมถึง Samsung Galaxy Z Flip ทุกรุ่น และ Z Fold ทุกรุ่น
• Huawei: Huawei Mate 20 Pro, Mate 20 RS Porsche Design และรุ่นที่ออกหลังจากนั้น (P30 Pro, P40 Pro, P40 Pro+, Mate 30, Mate 30 Pro, Mate 40, Mate 40 Pro)
• Xiaomi: Xiaomi Mi MIX 2S และรุ่นที่ออกหลังจากนั้น (Mi MIX 3, Mi 9, Mi 10, Mi 11, Xiaomi 12, Xiaomi 13, Xiaomi 14)

แต่เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งด่วนสรุป

รายชื่อด้านบนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของมือถือรุ่นที่รองรับการชาร์จไร้สายเท่านั้น ยังมีมือถืออีกมากมายจากหลากหลายแบรนด์ที่รองรับฟังก์ชันนี้เช่นกัน เช่น Google Pixel, LG, OnePlus และอื่นๆ

วิธีตรวจสอบง่ายๆ ว่ามือถือของคุณรองรับการชาร์จไร้สายหรือไม่

• อ่านคู่มือการใช้งาน: คู่มือการใช้งานมือถือมักจะระบุข้อมูลจำเพาะต่างๆ รวมถึงฟังก์ชันการชาร์จไร้สายไว้ด้วย
• ค้นหาข้อมูลออนไลน์: เพียงพิมพ์ชื่อรุ่นมือถือของคุณ ตามด้วยคำว่า “Wireless Charging” ใน Google หรือ Search Engine อื่นๆ ก็จะพบข้อมูลอย่างง่ายดาย
• สอบถามร้านค้า: หากไม่แน่ใจ สามารถสอบถามพนักงานขายที่ร้านมือถือได้โดยตรง

ข้อควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการชาร์จไร้สาย

• ความเร็วในการชาร์จ: การชาร์จไร้สายโดยทั่วไปมักจะช้ากว่าการชาร์จด้วยสาย แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีชาร์จไร้สายที่รวดเร็ว (Fast Wireless Charging) ซึ่งสามารถชาร์จได้เร็วกว่าเดิม
• ความเข้ากันได้ของแท่นชาร์จ: แท่นชาร์จไร้สายบางรุ่นอาจไม่รองรับมือถือบางรุ่น ควรตรวจสอบความเข้ากันได้ก่อนทำการซื้อ
• ตำแหน่งการวาง: การวางมือถือบนแท่นชาร์จต้องอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง หากวางผิดตำแหน่งอาจทำให้ชาร์จไม่เข้า หรือชาร์จช้า

สรุปแล้ว การชาร์จไร้สายเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นมาก แต่ก่อนที่จะซื้อแท่นชาร์จไร้สาย ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามือถือของคุณรองรับฟังก์ชันนี้เสียก่อน เพื่อให้การลงทุนของคุณคุ้มค่าและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แล้วคุณจะพบว่าชีวิตที่ปราศจากสายชาร์จพันกัน มันดีกว่าที่คิด!

#Wireless Charger #ชาร์จไร้สาย #รุ่นที่ใช้ได้