สถาน ประกอบ กิจการ ที่ มี ลูกจ้าง ตั้งแต่ 50 99 คน ให้ มี คณะ กรรมการ กี่ คน

คณะกรรมการในสถานประกอบกิจการขนาดกลาง: บทบาทสำคัญที่มากกว่าแค่จำนวนคน

สถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างระหว่าง 50-99 คน มักถูกมองข้ามเมื่อพูดถึงการบริหารจัดการองค์กร ซึ่งเป็นช่วงขนาดที่ใหญ่กว่าธุรกิจขนาดย่อม แต่ก็ยังไม่ใหญ่เท่าบริษัทขนาดใหญ่ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ การมี “คณะกรรมการ” ที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด

ตามกฎหมายแรงงาน สถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป จำเป็นต้องมีคณะกรรมการอย่างน้อย 5 คน หลายคนอาจมองว่านี่เป็นเพียงข้อบังคับทางกฎหมายที่ต้องทำตาม แต่ในความเป็นจริง คณะกรรมการนี้มีบทบาทที่สำคัญกว่านั้นมาก

บทบาทที่แท้จริงของคณะกรรมการ:

• ตัวแทนแห่งเสียงของพนักงาน: คณะกรรมการทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับพนักงาน โดยเป็นช่องทางในการสื่อสารข้อกังวล ข้อเสนอแนะ และปัญหาต่างๆ ที่พนักงานเผชิญในการทำงาน ซึ่งนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีขึ้น
• การตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจ: คณะกรรมการช่วยตรวจสอบการบริหารจัดการขององค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ของลูกจ้าง เช่น สวัสดิการ ค่าตอบแทน และความปลอดภัยในการทำงาน ช่วยป้องกันการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมและสร้างความโปร่งใสในการดำเนินงาน
• การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ: คณะกรรมการสามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ขององค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อพนักงาน ทำให้พนักงานรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรและมีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น
• การสร้างความเข้าใจอันดี: คณะกรรมการเป็นตัวกลางในการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างฝ่ายบริหารและพนักงาน ช่วยลดความขัดแย้งและสร้างความร่วมมือในการทำงาน
• การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน: การมีคณะกรรมการที่มีความรู้ความสามารถและใส่ใจในสิทธิประโยชน์ของลูกจ้าง จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน โดยสร้างความสมดุลระหว่างผลกำไรและการดูแลพนักงาน

มากกว่าแค่จำนวนคน: คุณภาพของคณะกรรมการ

แม้ว่ากฎหมายจะกำหนดจำนวนขั้นต่ำของกรรมการไว้ที่ 5 คน แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือคุณภาพของกรรมการแต่ละคน คณะกรรมการที่ประสบความสำเร็จควรประกอบด้วยบุคคลที่มี:

• ความเข้าใจในกฎหมายแรงงาน: ความรู้ความเข้าใจในกฎหมายแรงงานเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้สามารถปกป้องสิทธิประโยชน์ของลูกจ้างได้อย่างถูกต้อง
• ทักษะการสื่อสารและเจรจาต่อรอง: ทักษะเหล่านี้จำเป็นในการสื่อสารกับฝ่ายบริหารและพนักงาน รวมถึงการเจรจาต่อรองในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ของลูกจ้าง
• ความซื่อสัตย์และความยุติธรรม: ความซื่อสัตย์และความยุติธรรมเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของกรรมการ เพราะจะทำให้ได้รับความไว้วางใจจากพนักงานและสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเที่ยงธรรม
• ความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กร: กรรมการควรมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงทั้งผลกำไรและสิทธิประโยชน์ของลูกจ้าง

สรุป:

การมีคณะกรรมการในสถานประกอบกิจการขนาดกลางที่มีลูกจ้าง 50-99 คน ไม่ใช่เพียงแค่การทำตามกฎหมาย แต่เป็นโอกาสในการสร้างองค์กรที่เข้มแข็งและยั่งยืน คณะกรรมการที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพจะช่วยปกป้องสิทธิประโยชน์ของลูกจ้าง สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี และส่งเสริมการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ดังนั้น องค์กรจึงควรให้ความสำคัญกับการคัดเลือกและพัฒนาคณะกรรมการให้มีคุณภาพ เพื่อให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มศักยภาพ