การประชุมแบบ On-Site คืออะไร
การประชุม On-Site: รวมพล ณ จุดเดียว
- สถานที่จริง: ผู้เข้าร่วมประชุมร่วมตัวสถานที่เดียวกัน เช่น สำนักงาน, ห้องประชุม, สถานที่จัดเลี้ยง
- ปฏิสัมพันธ์สูง: ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างสัมพันธ์ที่ดีกว่าการประชุมออนไลน์
- ตัดสินใจร่วมกัน: เหมาะกับการประชุมที่ต้องการการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการตัดสินใจโดยตรง
- ต่างจากออนไลน์: ตรงข้ามกับการประชุมผ่านระบบดิจิทัล
- สร้างความสัมพันธ์: เพิ่มความใกล้ชิดและความเข้าใจระหว่างผู้เข้าร่วม
- ประสิทธิภาพสูง: อำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันและบรรลุเป้าหมาย
การประชุมออนไซต์ หมายถึงอะไร?
เอ่อ… การประชุมออนไซต์เหรอ? คือแบบว่า…ไปเจอกันตัวเป็นๆ อ่ะ เข้าใจป่ะ? ไม่ใช่มานั่งหน้าจอซูมกันงี้
จำได้เลย ตอนไปเทรนนิ่งที่บริษัทใหม่ (เมื่อ 3 ปีที่แล้วมั้ง? แถวๆ สาทร) โห…คนเยอะมาก! ต้องไปนั่งเบียดกันในห้องประชุม แบบนั้นแหละออนไซต์
มันดีตรงที่…ได้คุยกันง่ายกว่าอ่ะ ถามอะไรก็ตอบได้เลย ไม่ต้องรอเน็ตโหลด แต่บางทีก็…เสียงดังไปหน่อย (ฮา)
คือถ้าต้องตัดสินใจอะไรสำคัญๆ อ่ะ ออนไซต์เวิร์คกว่าเยอะ เชื่อเหอะ! ได้เห็นสีหน้าท่าทางกันชัดๆ มันช่วยได้เยอะนะเว้ย!
ประชุม on-site คืออะไร
แสงสีส้ม…ยามเย็น…จอโทรศัพท์สว่างวาบ…ประชุม on-site…นึกถึงบรรยากาศห้องประชุมใหญ่…โต๊ะยาว…
ลมเย็นพัดผ่านหน้าต่าง…สัมผัสได้ถึงความตึงเครียด…ก่อนเริ่ม present งาน…ปีนี้ 2024 แล้วสินะ…เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน…
On-site…คือการไปเจอตัวจริง…ไปประชุมที่สถานที่จริง…ไม่ใช่ online…ผ่านจอ…
ต่างกันลิบลับ…กับการประชุม online…ที่บ้าน…ในชุดนอน…
สัมผัส…บรรยากาศ…พูดคุย…เห็นหน้าค่าตา…
สร้าง connection…สร้างความสัมพันธ์…ที่มากกว่า…
- On-site คือการประชุมที่สถานที่จริง
- ต่างจาก online ที่เป็นการประชุมผ่านทางออนไลน์
- On-site เน้นการปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกว่าการประชุม online
จำได้…ตอนประชุม on-site ที่เชียงใหม่…ปีนี้เอง…วิวสวยมาก…ได้ไอเดียใหม่ๆ เพียบเลย…บรรยากาศมันพาไป…
แตะหน้าจอโทรศัพท์เบาๆ…ปิดไฟ…เตรียมตัวนอน…พรุ่งนี้ต้องไปประชุม on-site อีกแล้ว…
On-Site เขียนยังไง
เที่ยงคืนกว่าแล้ว…ยังนอนไม่หลับเลย คิดถึงเรื่องงาน เรื่อง ออนไซต์ นี่แหละ
บางทีก็รู้สึกเหมือนมันเป็นคำที่เข้าใจง่ายนะ แบบ ไปทำงานที่ไซต์งานจริง ๆ ไม่ใช่นั่งทำงานจากที่บ้าน หรือจากร้านกาแฟ แต่บางทีก็ยังงง ๆ เหมือนกัน แบบถ้าเป็นงานซ่อมคอมที่บ้านลูกค้า อันนี้ก็ ออนไซต์ ใช่ไหมนะ
- ออนไซต์ คือ ทำงาน ณ สถานที่จริง
- ต่างจาก ออฟไซต์ ที่ทำนอกสถานที่ เช่น ทำงานที่บ้าน
เมื่อวานคุยกับเพื่อน เพื่อนบอกว่างานของมันต้อง ออนไซต์ ตลอด เหนื่อยมาก ต้องเดินทางบ่อย ๆ ส่วนตัวเรา ปีนี้ทำงานที่บ้านบ่อยขึ้น มี ออนไซต์ บ้าง อาทิตย์ละสองครั้ง ไปออฟฟิศใหญ่แถวสีลม รถติดมาก บางทีก็คิดนะ ถ้า ออนไซต์ บ่อยกว่านี้จะไหวไหม แบบเพื่อนเรา…
รู้สึกเหมือนโลกมันเปลี่ยนไปเยอะเลย เมื่อก่อนแทบไม่เคยได้ยินคำว่า ออนไซต์ เลย สมัยเรียนจบใหม่ๆ ก็เข้าออฟฟิศทุกวัน ไม่เห็นต้องมีคำเฉพาะแบบนี้ หรือเราตกยุคไปแล้วนะ…
On Site เขียนแบบไหน?
On-site หรือ on-site? เอาจริงดิ? ใช้แบบไหนก็ได้วะ แต่กูชอบแบบไม่มีขีดกลางมากกว่า ดูเท่กว่า อารมณ์ประมาณนี้แหละ
- Merriam-Webster: มีขีดกลาง (on-site)
- Cambridge Dictionary: มีทั้งสองแบบ
- American Heritage Dictionary: ไม่มีขีดกลาง (onsite)
ปีนี้กูใช้ onsite เพราะมันสะดวกกว่า จบ.
การอบรมแบบ E-training มีบทบาทสำคัญอย่างไรในปัจจุบัน
E-training นี่มันพระเอกขี่ม้าขาวในยุคดิจิทัลชัดๆ! เหมือนส่งพิซซ่ามาให้ถึงบ้าน สั่งปุ๊บ เรียนปั๊บ ไม่ต้องฝ่ารถติด แถมยังเรียนตอนตีสามได้ด้วยนะเออ (ใครจะทำก็ทำเถอะ) สมัยนี้ใครจะไปอยากนั่งฟังเลคเชอร์แบบเดิมๆ นั่งเฉยๆ เดี๋ยวก็ง่วง E-training นี่มันอินเตอร์แอคทีฟ คลิกๆ เล่นๆ แป๊บเดียวก็จบ แถมยังวัดผลได้อีก รู้เลยว่าใครหลับ ใครตั้งใจเรียน แอบกระซิบว่า E-training ช่วยประหยัดงบอบรมบริษัทได้เยอะเลยนะ ไม่ต้องจ่ายค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าที่พัก เอาเงินไปเลี้ยงหมูกระทะพนักงานยังคุ้มกว่า!
- เข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา: นึกภาพคุณนั่งเรียนบนชายหาดสิ ฟินกว่านั่งในห้องอบรมเป็นไหนๆ (แต่กันแดดด้วยล่ะ เดี๋ยวผิวเสีย)
- ประหยัดต้นทุน: บริษัทก็แฮปปี้ พนักงานก็สบายกระเป๋า
- ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ: เรียนเร็วไปก็กดหยุด เรียนช้าไปก็กดกรอ เหมือนดู Netflix เลย
- วัดผลได้อย่างแม่นยำ: รู้เลยว่าใครแม่น ใครมั่ว
- อัพเดทเนื้อหาได้ง่าย: ไม่ต้องพิมพ์ชีทใหม่ให้เปลืองกระดาษ โลกสวยไปอีก
ส่วนเทรนด์ eLearning ที่จะเป็น “ทางรอด” น่ะเหรอ? ผมว่ามันไม่ใช่แค่ทางรอด แต่มันคือทางหลักไปแล้ว! ตอนนี้ใครไม่ปรับตัวก็มีสิทธิ์… เอิ่ม… ตามไม่ทันชาวบ้านเค้านะ คิดดูสิ โลกมันหมุนเร็วขนาดนี้ กว่าจะรวมตัวอบรมกันได้ เทรนด์ก็เปลี่ยนไปสามรอบแล้ว! E-learning นี่แหละ คำตอบของยุคสมัย เร็ว แรง ทะลุนรก (เว่อร์ไปไหม?)
ปี 2024 นี่ Microlearning กำลังมาแรง เรียนสั้นๆ แต่ได้ใจความ เหมือน TikTok ดูเพลินๆ แป๊บเดียวก็จบ Gamification ก็เป็นอีกเทรนด์ที่น่าสนใจ เอาเกมมาผสมกับการเรียน เรียนไป เล่นไป สนุกจนลืมว่ากำลังเรียนอยู่! AR/VR ก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น สร้างประสบการณ์การเรียนรู้แบบสมจริง เหมือนหลุดเข้าไปในโลก Metaverse เลย! ส่วน Personalized Learning นี่ ก็คือการออกแบบการเรียนรู้ให้เหมาะกับแต่ละบุคคล เหมือนสั่งตัดเสื้อ ใส่แล้วพอดีเป๊ะ! (ส่วนตัวผมชอบอันนี้มาก เพราะผมเรียนรู้ช้า ฮ่าๆ)
Objective หมายถึงอะไร?
Objective หรือ “เป้าหมาย” คือเข็มทิศชีวิต ชี้ทางให้เดิน
- แก่น: สิ่งที่ต้องการบรรลุ ไม่ใช่แค่ฝันลมๆ แล้งๆ
- รูปธรรม: จับต้องได้ วัดผลได้ ไม่ใช่แค่ความรู้สึก
- ไร้อคติ: มองโลกตามจริง ไม่ใส่สีตีไข่
- ภาวะวิสัย: ยึดหลักการ ไม่ใช่ความเชื่อส่วนตัว
เป้าหมายที่แท้จริง คือสิ่งที่คุ้มค่าให้แลกมาด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา
AiO ย่อมาจากอะไร?
AiO ย่อมาจาก All-in-One ไง!
-
เอ๊ะ หรือว่ามีอะไรมากกว่านั้น?
-
All-in-One อ่ะ ชัดเจนแล้วแหละ
-
บางทีก็งงๆ ว่าทำไมต้องย่อด้วยนะ
-
คอม All-in-One มันสะดวกจริง แต่ซ่อมยากจัง
-
ที่ทำงานใช้ AiO หมดเลย ประหยัดพื้นที่ดี
-
AiO ที่บ้านเริ่มอืดแล้ว สงสัยต้องเปลี่ยนใหม่
-
ปีนี้ (2567) เล็งๆ AiO ตัวใหม่ไว้ ดูสเปคเทพมาก
-
ทำไมย่อแล้วมันดูเท่ขึ้นนะ AiO เนี่ย
-
หรือคิดไปเอง?
-
AiO vs Desktop…อันไหนดีกว่ากันนะ?
-
ขึ้นอยู่กับการใช้งานป่ะ?
-
เคยเจอ AiO เครื่องนึงดีไซน์แปลกมาก ไม่รู้ยี่ห้ออะไร
-
AiO = คอมพิวเตอร์แบบรวมทุกอย่างในจอเดียวจบ!
-
ตอนแรกนึกว่า AiO มันแพง ที่ไหนได้…ก็มีราคาถูกๆ ด้วย
-
All-in-One = จบ!
ข้อมูลเพิ่มเติม(เผื่อใครอยากรู้ลึก):
- AiO รุ่นใหม่ๆ มี Touch Screen ด้วยนะ
- ข้อเสียคืออัพเกรดฮาร์ดแวร์ยากมากกกกกก
- ใครชอบความมินิมอล AiO ตอบโจทย์แน่นอน
- บางยี่ห้อแถมคีย์บอร์ดกับเมาส์ Wireless มาให้ด้วยนะเออ
- แต่…ถ้าจอพังก็คือจบกัน ต้องยกไปทั้งเครื่องเลย
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต