ทฤษฎีการบริหารการศึกษา 4M คืออะไร

เออ.. ใช่เลย! เรื่องทฤษฎีการบริหารการศึกษา 4M เนี่ย มันโดนใจมาก จริงๆ แล้วมันก็เหมือน common sense นะ แต่หลายๆ ที่กลับมองข้ามไป คิดดูดิ แค่มีงบ (Money) อย่างเดียวมันจะพอเหรอ? เหมือนเรามีเงินจะสร้างบ้าน แต่ไม่มีช่าง ไม่มีแบบแปลน มันก็สร้างไม่ได้อยู่ดีป่ะ? จำได้เลย ตอนนั้นที่โรงเรียนเก่าฉัน เขาได้งบมาเยอะมากกก จะสร้างห้องสมุดใหม่ สุดท้ายก็… อืมมม งบบานปลาย ได้ห้องสมุดที่แบบ… เอิ่มมม… ไม่อยากจะพูด 😓

แล้วเรื่องคน (Man) ล่ะ สำคัญไม่แพ้กันเลยนะ ต้องเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ มีใจรักด้วย ไม่ใช่แค่มีวุฒิการศึกษาสูงๆ แต่ไม่มี passion ในการสอน มันก็ไม่เวิร์คหรอก เหมือนเพื่อนฉันไง สอนเก่งมาก เด็กๆ รัก แต่ระบบบริหารไม่ดี สุดท้ายก็ลาออกไป เสียดายแย่เลย เห็นไหม? มันต้องไปด้วยกันได้ 😥

อุปกรณ์ (Material) ก็สำคัญ! โลกมันไปไกลแล้วนะ จะมายึดติดกับของเดิมๆ แบบ… สมัยคุณปู่ คุณย่าไม่ได้ เด็กสมัยนี้เขาต้องการอะไรที่มันทันสมัย เอาง่ายๆ แค่คอมพิวเตอร์ในห้องสมุด ถ้ามันช้า พัง ใช้งานไม่ได้ เด็กๆ เขาก็ไม่อยากใช้แล้ว จริงมั้ย? ฉันเคยไปโรงเรียนนึง คอมฯ มีนะ แต่แบบ… โบราณมาก เปิดเครื่องทีรอนานเป็นชาติ ใครจะอยากใช้!

สุดท้าย ที่สำคัญที่สุด คือ การจัดการ (Management) เหมือนเราทำอาหาร มีวัตถุดิบดีแค่ไหน ถ้าคนทำไม่เป็น ปรุงรสไม่ถูก มันก็ไม่อร่อยถูกใจอยู่ดี การบริหารจัดการที่ดี มันคือหัวใจหลักเลยนะ ต้องวางแผนให้ดี คิดให้รอบคอบ ประเมินผลเป็นระยะ ไม่ใช่ทำไปเรื่อยๆ แล้วหวังว่ามันจะดีเอง แบบนั้นมันไม่ใช่! ฉันเคยอ่านเจอสถิตินึง จำไม่ได้ว่าที่ไหน แต่เขาบอกว่า โรงเรียนที่บริหารจัดการได้ดี มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากกว่า ประมาณ 80% มั้ง ถ้าจำไม่ผิดนะ เออ… ประมาณนั้นแหละ จำไม่ได้เป๊ะๆ

สรุปคือ 4M เนี่ย มันสำคัญหมดทุกอย่าง ต้องทำงานประสานกัน เหมือนวงออร์เคสตรา ถ้าเครื่องดนตรีดี นักดนตรีเก่ง แต่วาทยากรไม่ดี มันก็พัง! คิดแบบนี้แล้ว การบริหารการศึกษามันก็เป็นเรื่องที่ท้าทายเหมือนกันนะเนี่ย 🤔